เหอเซียงกู่ He Xiangu นางฟ้าใน เทพโป๊ยเซียน
เหอเซียงกู่ หรือ เหอเซียนกู Hé Xiāngū หรืออาจจัเรียกว่านางฟ้าเหอ
ซึ่งมีชื่อเดิมว่า He Qiong เป็นชาว กว่างโจว ในสมัยราชวงศ์ถังที่เจริญรุ่งเรือง
ต้นแบบคือหญิงสาวสวยที่มีรูปร่างหน้าตาไม่ธรรมดา มักถือดอกบัว เธอมีหลายตำนานให้กล่าวถึง
ตามตำนานที่แพร่หลายเล่าว่า ลูกสาวของตระกูลเหอ เมื่ออายุได้ 13 ปี เธอไปที่ภูเขาเพื่อเก็บชา
เธอได้พบกับผู้เป็นอมตะ เทพโป๊ยเซียน (หรือหลู่ตงปิน) โดยบังเอิญ และพาเธอไป ในฐานะลูกศิษย์หญิง
ในตำนานต่างๆ เหอเซียนกู่มีตัวตนอยู่สามประการ ได้แก่ นางฟ้า แม่ชีลัทธิเต๋า และแม่มด
บางตำนานเล่าว่า เมื่อแรกเกิด เธอมีผมยาวหกเส้นบนกระหม่อม เมื่อเธออายุประมาณ 14 หรือ 15 ปี
เทวดาองค์หนึ่งปรากฏแก่เธอในความฝันและสั่งให้เธอกินไมกา(กลุ่มแร่ไมกา) ที่เป็นผงเพื่อ
มีภูมิคุ้มกันจากความตายเป็นอมตะ และล่องหนได้ เธอสาบานว่าจะยังคงรักษาพรหมจรรย์ และถือศีลอด
ต่อมา พระนางอู่ เจ๋อเทียน ( บูเช็คเทียน) ได้เรียกนางเข้าเฝ้า แต่นางหายตัวไประหว่างเดินทาง
ภายหลัง นางได้กลายเป็นเซียนและขึ้นสวรรค์ไปในนหนึ่งในช่วงยุคจิงหลง (ค.ศ. 707–710)
ในรัชสมัยของจักรพรรดิจงจงแห่งราชวงศ์ถัง เธอเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ในเวลากลางวันแสกๆ และกลายเป็นอมตะ
ดอกบัวของเหอเซียงกู่ มีผลต่อผู้คนในด้านช่วยปรับปรุงสุขภาพ จิตใจ และร่างกาย
มีภาพเธอถือดอกบัว และบางครั้งก็มีเครื่องดนตรีที่เรียกว่าเซิงหรือเฟิ่งหวงติดตามเธอด้วย
เธออาจถือแส้หรือกระบวยก็ได้
ในสมัยราชวงศ์ซ่ง มีบันทึกว่าคำจารึกของวัดเหอเซียนกู่ว่าในสมัยว่านหลี่ หลิว จี้เหวิน ผู้ว่าราชการมณฑลกวางตุ้งและกวางสีได้ขอ
เหอเซียนกู่ มีความสามารถในการคาดการณ์ลางที่ดีและไม่ดีเมื่อ เขาจึงขอให้นางทำนายให้ เขากำลังปราบปรามความวุ่นวายจากกบฎ
นางได้บอกแม่ทัพว่า ท่านจะไม่ได้เห็นศัตรูด้วยซ้ำ ก่อนที่ท่านจะไปถึง พวกเขาจะพ่ายแพ้และหนีไปแล้ว
ต่อมาในระหว่างการสู้รบระหว่างกองทัพซ่งกับหนง จื้อเกา เพียงไม่นาน หนง จื้อเกาก็พ่ายแพ้และหนีไปที่อาณาจักรต้าหลี่