8 มหาราชกษัตริย์ไทย
สุโขทัย อยุธยา กรุงธนบุรี รวมไปถึง กรุงรัตนโกสินทร์ในปัจจุบันมีพระองค์ใดกันบ้าง
หลังจากที่เราเคนพูดถึง มหาราชกษัตริย์พม่า ซึ่งพูดเกี่ยวกับ 3 กษัตริย์พม่าผู้ยิ่งใหญ่
ซึ่งถูกนับเป็นมหาราชมาบทความนี้เราจะมาเรียงพระมหาราชของไทยเราบ้างว่าทั้ง 8
พระองค์คือพระองค์ใดกันบ้าง
1. พ่อขุนรามคำแหงมหาราช : พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 ในราชวงศ์พระร่วง
แห่งราชอาณาจักรสุโขทัย เสวยราชย์ประมาณ พ.ศ. 1822 ถึงประมาณ พ.ศ. 1841
ทรงสู้รบปกป้องขยายดินแดนทรงรวบรวมอาณาจักรไทยจนเป็นปึกแผ่นกว้างขวาง
และรวมไปถึงทรงประดิษฐ์อักษรไทย ทำให้ชาติไทยได้สะสมความรู้ทางศิลปะ
วัฒนธรรม และวิชาการต่าง ๆ สืบทอดกันมากว่าเจ็ดร้อยปี ทรงนำพุทธศาสนาเข้ามา
ในอาณาจักรอีกด้วย
2. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช : มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ กอบกู้เอกราช
ให้แก่อยุธยาหลังจากที่ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า ทำสงครามยุทธหัตถีสร้างชื่อ
ระบือไกลสู้รบปกป้องขยายดินแดนทรงรวบรวมอาณาจักรให้กว้างไกลสร้างความมั่นคง
ให้แก่อาณาจักร เป็นคนที่พม่าเกรงกลัวเป็นอย่างมากจนหลังจากพระองค์ทรงชนช้าง
กระทำยุทธหัตถีเอาชนะพระมหาอุปราชาได้ พม่าก็ไม่กล้ามาบุกไทยอีกเลยเป็นเวลา
นาน
3. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช : พระมหากษัตริย์ของอยุธยา ทรงพระปรีชา
สามารถอย่างยิ่ง ทรงสร้างความรุ่งเรือง สามารถพิชิตเชียงใหม่และหลายๆหัวเมือง
ของพม่าทางด้านการค้าขายเศรษฐกิจ รวมถึงการคบค้าสมาคมกับต่างขาติทรงพระ
ปรีชาในด้านกวี และทรงส่งเสริมการกวี ซึ่งถือเป็นยุคทองแห่งวรรณคดีไทยมีการ
เจริญสัมพันธไมตรีกับชาวต่างชาติ อย่างฝรั่งเศส และพระองค์ยังได้นำวิทยาการสมัย
ใหม่ในยุโรปเข้ามาใหสยามมากมายเช่น กล้องดูดาว และยุทโธปกรณ์บางประการ
รวมทั้งยังมีการรับเทคโนโลยีการสร้างน้ำพุ จากชาวยุโรป และวางระบบท่อประปา
ภายในพระราชวังอีกด้วย
4. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช : เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในสมัย
อาณาจักรธนบุรี ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย ภายหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2
รวบรวมแผ่นดินจาก ชุมนุมหรือกลุ่มต่างๆที่แตกออกมาจากอาณาจักรเดิมให้กลับมา
เป็นปึกแผ่นมั่นคง
5. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช : ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์
จักรี ทรงทำศึกกับพม่าหลายครั้งเพื่อปกป้องแผ่นดินทรงวางรากฐานการปกครองและ
การป้องกันอาณาจักรเอาไว้อย่างมั่นคง ทรงสร้างกรุงเทพมหานครเป็นราชธานีที่เข้มแข็ง
ได้แก่ ป้อมปราการ, คลอง ถนนและสะพานต่างๆ มากมาย มีแม่น้ำเป็นคูเมืองธรรมชาติ
มีชัยภูมิเหมาะสม และสามารถรับศึกได้เป็นอย่างดี ศึกกับพม่าที่เป็นที่รู้จักดีในสมัยของ
พระองค์คือ สงคราม 9 ทัพ
6. สมเด็จพระปิยะมหาราช : รัชกาลที่ 5 ทรงบริการพัฒนาประเทศไปในหลายๆ
ด้านทั้งเรื่องการปกครอง การรถไฟการไปรษณีย์ การไฟฟ้าและการประปาขึ้นเป็นครั้ง
แรก การเลิกทาส รวมทั้งการปกป้องประเทศ ยอมเสียดินแดนส่วนน้อย เพื่อรักษา
เอกราชของประเทศไว้ซึ่งอยู่ในช่วงยุคล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก ทรงการปฏิรูป
การปกครองให้ทัดเทียมเพื่อจะได้ไม่ล้าหลังชาติตะวันตก เป็นที่รักของประชาชน ผู้คน
มักออกพระนามว่า "ปิยมหาราช" แปลว่า มหาราชผู้ทรงเป็นที่รัก และว่า
"พระพุทธเจ้าหลวง"
7. สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า : พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 6 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
ทรงพระราชอัจฉริยภาพและทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในหลายสาขา ทั้งด้านการ
เมืองการปกครอง การทหาร การศึกษา การสาธารณสุข การต่างประเทศ และที่สำคัญ
ที่สุดคือด้านวรรณกรรมและอักษรศาสตร์ ทรงสถาปนาโรงเรียนมหาดเล็กหลวง หรือ
วชิราวุธวิทยาลัยในปัจจุบันขึ้น องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่ง
สหประชาชาติ (UNESCO) ได้ยกย่องพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว ว่าทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก ผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรม ในฐานะที่
ทรงเป็นนักปราชญ์ นักประพันธ์ กวี ทรงตั้งกรมรถไฟหลวง ทรงตั้งกรมมหรสพ เพื่อ
ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมไทยทรงส่งทหารเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1 เข้าร่วมกับ
ประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรและชนะสงครามทำให้ประเทศไทยมีอำนาจในการเจรจา
เรื่องราวระหว่างประเทศได้มากขึ้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งวชิรพยาบาลและ
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ทรงจัดตั้งกองเสือป่า รวมถึงเมืองจำลอง "ดุสิตธานี" ซึ่ง
ปกครองในประบอบประชาธิปไตยไว้อีกด้วย
8. สมเด็จพระภัทรมหาราช : พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย ทรงมีพระปรีชาสามารถ
รอบด้าน ทรงแก้ปัญหาทุกข์ยากของราษฎร ทรงปัดเป่าทุกข์ บำรุงสุขแก่ประชาชนใน
เขตทุรกันดาร ทรงตั้งโครงการเพื่อพัฒนาด้านต่างๆ มากมาย ฝนเทียม ด้านการเกษตร
การชลประทาน การสาธารณสุข และอื่นๆอีกมากมาย และมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือ
ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลกพระองค์นึง