ราศีไหนรักความสะอาด ชอบทำงานบ้าน

 


ราศีไหนรักความสะอาด ชอบทำงานบ้าน


ราศีที่รักความสะอาดและชอบทำงานบ้านมากที่สุดคือ “ราศีกันย์” 


รองลงมาคือ “ราศีพฤษภ” และ “ราศีมังกร” 


ซึ่งมีนิสัยรักระเบียบและความเรียบร้อยเป็นทุนเดิม



ราศีที่รักความสะอาดและงานบ้านที่สุด


♍ ราศีกันย์ (23 ส.ค. – 22 ก.ย.)


• รักความเรียบร้อยและความสะอาดเป็นชีวิตจิตใจ

• มีนิสัยละเอียด ชอบจัดระเบียบสิ่งของให้เป็นหมวดหมู่

• มักทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ และรู้สึกสบายใจเมื่อทุกอย่างอยู่ในที่ของมัน

• เป็นสาย “แม่บ้านมือทอง” ตัวจริง


♉ ราศีพฤษภ (20 เม.ย. – 20 พ.ค.)


• ชอบความสบายและความอบอุ่นในบ้าน

• รักการตกแต่งบ้านให้ดูดีและสะอาด

• แม้จะไม่ขยันเท่าราศีกันย์ แต่ก็ใส่ใจเรื่องความสะอาดของพื้นที่ส่วนตัวมาก


♑ ราศีมังกร (22 ธ.ค. – 19 ม.ค.)


• รักความเป็นระเบียบและความสงบ

• ชอบจัดบ้านให้เป็นสัดส่วน เงียบ เรียบร้อย

• มีความอนุรักษ์นิยม จึงมักดูแลบ้านให้สะอาดและเป็นระเบียบอยู่เสมอ






50 แนวเพลงมีอะไรบ้าง แนวไหนบ้าง

 


50 แนวเพลงมีอะไรบ้าง แนวไหนบ้าง


1. Pop :  ป๊อป ย่อมาจาก Popular Music "เพลงยอดนิยม" มีลักษณะเด่นคือ ทำนอง


ที่เรียบง่าย ติดหู เข้าถึงง่าย



2. Blues :  บลูส์ เพลงพื้นบ้านอเมริกันที่ถือกำเนิดจากชาวแอฟริกันอเมริกัน 

ถ่ายทอดอารมณ์ความเศร้าโศก ประสบการณ์ชีวิต



3. Hip Hop / Rap  : ฮิปฮอป / แร็ป เกิดขึ้นในนิวยอร์กช่วงทศวรรษที่ 1970 

ซึ่งประกอบด้วยดนตรีที่เน้นจังหวะและมี การแร็ปการขับร้องบทกวีที่มีจังหวะ

สัมผัสคล้องจอง



4. Jazz  : แจ๊ส พัฒนาขึ้นในชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่นิวออร์ลีนส์

มีรากฐานมาจากดนตรีบลูส์ ดนตรีประสานเสียงแบบยุโรป และการแสดงออก

ทางจังหวะของดนตรีแอฟริกัน เป็นจังหวะที่ฟังดูหนักหน่วงและทำให้เกิด

ความรู้สึกที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวา 



5. Rock :  ร็อก เริ่มจากแนว ร็อกแอนด์โรล ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง บลูส์ของคนผิวดำ 

กับ คันทรีของคนผิวขาว แนวดนตรีที่เน้นพลัง ความหนักแน่น และการแสดงออกอย่างรุนแรง 

โดยมีรากฐานจากบลูส์ คันทรี และแจ๊ส พัฒนาขึ้นในช่วงปี 1950–1960 ในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ



6. Instrumental  : เพลงบรรเลง คือเพลงที่ใช้เสียงดนตรีล้วน ๆ โดยไม่มีการร้องประกอบ 

เป็นการแสดงออกทางดนตรีที่เน้นท่วงทำนอง จังหวะ และอารมณ์ผ่านเครื่องดนตรีต่าง ๆ



7. Soul :  โซล แนวดนตรีที่หลอมรวมพลังของเสียงร้องจากกอสเปลเข้ากับจังหวะของ

อาร์แอนด์บีและบลูส์ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์อย่างลึกซึ้งและจริงใจ โดยมีต้นกำเนิดจาก

ชุมชนแอฟริกัน-อเมริกันในสหรัฐอเมริกาช่วงปลายทศวรรษ 1950



8. EDM (Electronic Dance Music)  : อิเล็กทรอนิกส์แดนซ์  คือแนวดนตรีอิเล็กทรอนิกส์

ที่เน้นจังหวะสนุก เร้าใจ และออกแบบมาเพื่อการเต้นในคลับ งานปาร์ตี้ หรือเทศกาลดนตรี 

โดยใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ในการสร้างเสียงแทนเครื่องดนตรีแบบดั้งเดิม



9. Classical :  คลาสสิก คือแนวดนตรีศิลปะที่มีรากฐานจากวัฒนธรรมตะวันตก 

เน้นความประณีต โครงสร้างดนตรีที่ชัดเจน และการแสดงออกทางอารมณ์

ผ่านเครื่องดนตรีแบบดั้งเดิม เช่น เปียโน ไวโอลิน และวงออร์เคสตรา



10. Country  : คันทรี่ คือแนวดนตรีที่มีต้นกำเนิดจากภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการเล่าเรื่องชีวิตชนบทผ่านเสียงร้องและ

เครื่องดนตรีอะคูสติก เช่น กีตาร์ แบนโจ และไวโอลิน


11. Electronic  : อิเล็กทรอนิกส์  คือแนวดนตรีที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี

และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น ซินธิไซเซอร์ ซอฟต์แวร์ดนตรี และคอมพิวเตอร์ 

แทนเครื่องดนตรีแบบดั้งเดิม โดยมีความหลากหลายทั้งในจังหวะ อารมณ์ 

และรูปแบบการนำเสนอ 



12. R&B  : ริทึมแอนด์บลูส์ คือแนวดนตรีที่ผสมผสานเสียงร้องอารมณ์ลึกซึ้ง

กับจังหวะที่ลื่นไหล มีรากฐานจากแจ๊ส กอสเปล และบลูส์ โดยเริ่มต้น

จากชุมชนแอฟริกัน-อเมริกันในสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษ 1940



13. A cappella :  อะแคปเปลลา คือการร้องเพลงโดยใช้เฉพาะเสียงมนุษย์ 

โดยไม่มีเครื่องดนตรีใด ๆ ประกอบ เป็นศิลปะการร้องที่เน้นการประสานเสียง 

เทคนิคการเลียนเสียง และการควบคุมเสียงอย่างแม่นยำใช้เสียงร้องทั้งหมด

ในการสร้างจังหวะ เมโลดี้ และบรรยากาศ



14. Folk :  โฟล์ก  คือแนวดนตรีที่มีรากฐานจากเพลงพื้นบ้านหรือเพลงท้องถิ่น 

ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิต วัฒนธรรม และความรู้สึกของผู้คนผ่านท่วงทำนองเรียบง่าย

และเนื้อเพลงกินใจ ใช้เครื่องดนตรีพื้นฐาน เช่น กีตาร์โปร่ง แบนโจ หรือไวโอลิน



15. Thai country music /  luk thung / folk music  : ลูกทุ่ง คือแนวดนตรีไทย

ที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวบ้าน ถ่ายทอดเรื่องราว ความรัก ความทุกข์ และความหวัง 

ผ่านภาษาง่าย ๆ และท่วงทำนองที่มีเอกลักษณ์แบบไทย ๆ



16. ballad : บัลลาด  คือเพลงช้าเน้นอารมณ์ มักเกี่ยวกับความรัก ความเศร้า 

หรือเรื่องเล่าในชีวิต โดยเน้นเสียงร้องและเนื้อเพลงที่กินใจ มักใช้เปียโน กีตาร์ 

หรือวงเครื่องสายเพื่อเสริมบรรยากาศ



17. Reggae  :  เรกเก้ พัฒนามาจากแนว สกา และ ร็อกสเตดี้ หลังจากจาเมกา

ได้รับเอกราชในปี 1962คือแนวดนตรีที่มีต้นกำเนิดจากประเทศจาเมกาในช่วง

ปลายทศวรรษ 1960 โดยเน้นจังหวะช้า เสียงเบสหนักและเนื้อเพลงที่สะท้อน

ความยุติธรรมทางสังคม จิตวิญญาณ และเสรีภาพ



18. Metal :  เมทัล คือแนวดนตรีร็อกที่เน้นพลัง ความหนักแน่น และความดุดัน 

ทั้งในด้านเสียงดนตรีและเนื้อหา โดยมีรากฐานจากฮาร์ดร็อกและบลูส์ร็อก

ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 



19. Rock 'n' Roll   : ร็อกแอนด์โรล คือแนวดนตรีที่ถือเป็นต้นกำเนิดของดนตรีร็อกทั้งหมด 

โดยเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายทศวรรษ 1940 และได้รับความนิยมอย่างสูง

ในยุค 1950 ด้วยจังหวะสนุกสนาน เสียงกีตาร์ไฟฟ้า และเนื้อเพลงที่สะท้อนชีวิตวัยรุ่น



20. Disco : ดิสโก้  คือแนวดนตรีแดนซ์ที่เฟื่องฟูในยุค 1970s โดดเด่นด้วยจังหวะสนุก

เสียงเบสแน่น และบรรยากาศปาร์ตี้สุดเหวี่ยง เป็นดนตรีที่เกิดมาเพื่อให้คน 

“ลุกขึ้นมาเต้น” โดยเฉพาะในไนต์คลับและดิสโก้เธค เน้นจังหวะที่สม่ำเสมอ

และต่อเนื่อง เหมาะกับการเต้น