แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความรู้รอบตัว แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความรู้รอบตัว แสดงบทความทั้งหมด

รัฐฟลอริดา Florida

 


รัฐฟลอริดา  Florida


ฟลอริดา เป็นรัฐของสหรัฐอเมริกาทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา พรมแดนติดกับอ่าวเม็กซิโก


ทางทิศตะวันตกอลาบาม่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จอร์เจียทางทิศเหนือ บาฮามาสและ


มหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันออก และช่องแคบฟลอริดาและคิวบาทางทิศใต้ 


เป็นรัฐเดียวที่มีพรมแดนติดกับอ่าวเม็กซิโกและมหาสมุทรแอตแลนติก


เป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับสามในสหรัฐอเมริการองจากแคลิฟอร์เนียและเท็กซัส 


 เป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในบรรดารัฐทางตะวันออก  ฟลอริดาอยู่ในอันดับที่ 22 ในบรรดารัฐสหพันธรัฐ 


เมืองหลวงทางการเมืองคือแทลลาแฮสซี Tallahassee 


เขตเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากที่สุดคือไมอามี 


ฟลอริดาตั้งอยู่ทางตะวันออกของคาบสมุทรยาวประมาณ 630 กม. และทางตะวันตกของแนวชายฝั่ง


แคบ ๆ ยาวประมาณ 330 กม.ครอบคลุมพื้นที่ 65,758 ตารางไมล์ (170,310 ตารางกิโลเมตร) 


ชนเผ่าอเมริกันอินเดียนหลายเผ่าอาศัยอยู่ในฟลอริดาเป็นเวลาอย่างน้อย 14,000 ปี ในปี ค.ศ. 1513


นักสำรวจชาวสเปน  ฮวน ปอนเซ เด เลออน ในฐานะสมาชิกผู้พิชิตแห่งราชอาณาจักรสเปน 


กลายเป็นชาวยุโรปคนแรกที่รู้จักแผ่นดินนี้ 


โดยเรียกภูมิภาคนี้ว่า ลาฟลอริดา Juan Ponce de León ซึ่งตั้งชื่อมันว่า "la Pascua florida"


 ([la floˈɾiða]) 


ต่อมาฟลอริดากลายเป็นพื้นที่แรกในทวีปอเมริกาที่ชาวยุโรปตั้งถิ่นฐานอย่างถาวร


มีแนวชายฝั่งที่กว้างขวาง มีน้ำอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง และภัยคุกคามจากพายุเฮอริเคน 


มีเอเวอร์เกลดส์ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 


มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ ผู้คนกลุ่มใหญ่ที่อาศัยอยู่ในฟลอริดา ได้แก่ Apalachee ใน Florida Panhandle, Timucua 


ทางตอนเหนือและกลางของ Florida 


ในอดีตรัฐฟลอริดาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศสเปน จนมาถึงถึง ค.ศ. 1820 สหรัฐได้ซื้อฟลอริดาของสเปน 


โดยทำสนธิสัญญาแอดัมส์-โอนิส  (Adams-Onis Treaty) โดยสหรัฐทำการซื้อฟลอริดามาจากสเปน


จอห์น ควินซี แอดัมส์ (John Quincy Adams) ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 6 เป็นคนจัดการซื้อรัฐนี้เข้ามา


และสร้างเขตแดนทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา โดยสเปนถือครองดินแดนตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐในปัจจุบัน


แบ่งเขตแดน ระหว่างสหรัฐและสเปน ตามสนธิสัญญาแอดัมส์-โอนิส (Adams-Onis Treaty)



รายชื่อบุคคลสำคัญ คนดัง ที่โดนลอบสังหาร

 


รายชื่อบุคคลสำคัญ คนดัง ที่โดนลอบสังหาร


1. อาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ : ทรงเป็นพระราชกุมารแห่งฮังการีและโบฮีเมีย และเป็น

รัชทายาทลำดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ถูกลอบปลงพระชนม์โดยนักชาตินิยมหัวรุนแรง

ชาวเซอร์เบีย ขณะประทับ ที่เมืองซาราเยโว โดยกัฟรีโล ปรินซีป หนึ่งในสมาชิกกลุ่มแบล็คแฮนด์ 

จากการลอบสังหารครั้งนี้ทำให้เรื่องบานปลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ไปสู่สงครามโลกครั้งที่1


2. จอห์น เลนนอน : นักร้อง นักแต่งเพลงชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงทั่วโลก และเป็นสมาชิกร่วมก่อตั้ง

วงเดอะบีเทิลส์  เสียชีวิต วันที่ 8 ธันวาคม 1980 ขณะเลนนอนและโอโนะกลับเข้าห้องพักเดอะดาโคตา 

ในรัฐนิวยอร์ก ถูก  มาร์ก เดวิด แชปแมนยิงเสียชีวิตขณะพามาโรงพยาบาล


3. มาร์ติน ลูเธอร์ คิง : นักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ว่าด้วยการเหยียดสีผิว

 เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดมากในสหรัฐ จนกระทั่งนิตยสาร ไทมส์ ยกย่องให้เขาเป็น 

“บุรุษแห่งปี” ในปี 1963 เป็นชายอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ในปี 1964 

ถูกลอบยิงและเสียชีวิต ขณะกำลังกล่าวสุนทรพจน์ปลุกใจที่มีชื่อว่า “ข้าพเจ้าได้ไปถึงยอดเขา” 

เป็นสุนทรพจน์สุดท้ายของเขา ในปี 1968 ตรงระเบียงชั้นสองหน้าห้องที่โรงแรม  ในเมืองเมมฟิส


4. อับราฮัม ลินคอล์น : ประธานาธิบดีเป็นคนที่ 16 แห่งสหรัฐอเมริกา  ถูกลอบสังหารเมื่อเดือน

เมษายน ค.ศ. 1865  โดยนักแสดงผู้ฝักใฝ่สมาพันธรัฐ จอห์น วิลค์ส บูธ (John Wilkes Booth) 

ถือเป็นการลอบสังหารประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก ลินคอล์นถูกยกย่องเป็นหนึ่ง

ในประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

รายชื่อบุคคลสำคัญ คนดัง ที่โดนลอบสังหาร


5. จอห์น เอฟ เคนเนดี : เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาคนที่ 35 ซึ่งสมัยของเขาอยู่ในช่วง

สงครามเย็น กับ สหภาพโซเวียต ถูกลอบสังหารในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1963 ในแดลลัส รัฐเท็กซัส 

โดยนาย ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ ผู้นิยมมาร์กซิสต์และอดีตนาวิกโยธินสหรัฐ 


6. มูอัมมาร์ กัดดาฟี : ผู้นำประเทศลิเบียจากการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2512 ถูกล่าสังการหลังจาก

ที่ลิเบียพ่ายแพ้แก่ฝ่ายกองทหารกบฏ +กองทัพสหรัฐ รัฐบาลกัดดาฟีถูกโค่โค่นอำนาจ มูอัมมาร์ กัดดาฟี

ถูกลากลงมาจากรถกระบะ แล้วลากไปตามทางก่อนจะมีเสียงปืน กลุ่มกองทหารกบฏซ้อมและยิงเสียชีวิต


7. จูเลียส ซีซาร์ : เป็นรัฐบุรุษ แม่ทัพ ที่โด่งดังที่สุดเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของโรมัน ในช่วง  100 ปี

ก่อนคริสตกาล ถึง 40 ปีก่อนคริสตกาลเขามีฐานะอำนาจและอิทธิพลสูงสุด รบเก่ง กุมอำนาจ 

ขยายอาณาจักรและเป็นเผด็จการ แต่ก็มีคนต้องการให้เขาล้มลงทำให้ ซีซาร์ถูกกลุ่มสมาชิกวุฒิสภา

กบฏลอบสังหาร  44 ปีก่อนคริสตกาล ซีซาร์ถูกยกย่องเป็นผู้บัญชาการทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน

ประวัติศาสตร์คนหนึ่งของโลก 


8. เช กูวารา :  เป็นนักปฏิวัติลัทธิมากซ์ นายแพทย์ นักเขียน ผู้นำนักรบกองโจร นักการทูต 

ชาวอาร์เจนตินา เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งจากการปฏิวัติคิวบา มีบทบาททางการเมืองสูงในคิวบา

และระดับโลกที่นิยมฝ่ายซ้าย เขาได้รับเลือกจากนิตยสารไทม์ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพล

ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 วีรบุรุษของชาวคิวบาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก 9 ตุลาคม 1967 

ถูกยิงเสียชีวิต หลังจากได้เข้าไปสร้างหน่วยรบกองโจรที่ โบลิเวีย และมีผลงานที่ดีชนะติดๆกัน

ในช่วงแรก แต่ในช่วงท้ายๆ เขาก็ต้องถอยให้แก่โบลิเวีย ที่มี อเมริกาเข้ามาให้ความช่วยเหลือ 

จนกองโจรของเขาแทบหมดสิ้น ตัวเขาเองก็บาดเจ็บและถูกยิงเสียชีวิต และได้กลายมาเป็น

สัญลักษณ์สำคัญในฐานะนักปฏิวัติผู้ได้รับความชื่นชมยกย่องอย่างกว้างขวาง จากฝ่ายซ้าย

ในแถบยุโรปตะวันออก อเมริกาเหนือ ในช่วงยุค 60 


9. ซากาโมโตะ เรียวมะ :  เป็นซามูไรผู้มีบทบาทสำคัญในการโค่นล้มรัฐบาลทหารของโชกุน

ตระกูลโตกุกาวะ และเป็นจุดเริ่มต้นของการนำพาญี่ปุ่นปฏิรูปประเทศให้ไปสู่ความทันสมัยตาม

อย่างชาติยุโรปตะวันตกเป็นผู้ก่อตั้งไคเอ็นไต  เป็นบริษัทเดินเรือและพาณิชย์นาวีแห่งแรก

ของประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีจุดประสงค์ทางการเมืองแอบแฝงคือการโค่นล้มระบอบโชกุน เสียชีวิต

จากการถูกลอบสังหารเมื่อ ค.ศ. 1867 พร้อมกันกับนากาโอกะ ชินตาโร ผู้เป็นพี่น้องร่วมสาบาน

ซึ่งเกิดก่อนการปฎิรูปเมจิ ไม่นานสักเท่าใดนัก มีผู้กล่าวหาว่าเป็นผลงานของกลุ่มชินเซ็นกูมิ 

แต่ความจริงแล้วอาจจะเป็นกลุ่มอืนที่สนับสนุนระบอบโชกุน ซึ่งก็ไม่มีการสอบสอนความจริง

หลังจากนั้น แต่ผู้นำกลุ่มชินเซ็นกูมิ ก็ได้ถูกตัดสินประหารชีวิตจากเรื่องนั้นไปแล้ว เรียวมะ

เสียชีวิตขณะมีอายุได้เพียง 31 ปีเท่านั้น


10. เบนาซีร์ บุตโต : อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศปากีสถาน เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก

ของประเทศอิสลาม โดยดำรงตำแหน่ง 2 สมัย หลังลี้ภัยในต่างประเทศถึง 8 ปี ก็กลับมาประเทศ

เพื่อหาเสียงเตรียมชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง แต่ก็เกิดเรื่องเศร้าเสียก่อน หลังเกิดเหตุ

มือระเบิดพลีชีพ ระหว่างการหาเสียงที่เมืองราวัลพินดี และเธอถูกยิงเข้าที่ลำคอเสียชีวิต


11. กริกอรี รัสปูติน : นักบุญที่สร้างความเสื่อมโทรมให้ราชวงศ์รัสเซีย สนิทกับราชวงศ์ของ

จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายแห่งรัสเซีย จนทำเรื่องราวต่างๆไว้มากมาย 

เช่น จอมตัณหา มักมากในกามใช้อำนาจไปในทางมิชอบ จนโดนเจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟ พระสวามี

ในพระนัดดาของพระเจ้าซาร์วางแผนลอบสังหารด้วยการเชิญให้ รัสปูติน มาเข้าเฝ้า วางยาพิษ

ลงในขนมของรัสปูติน แต่ยาพิษไม่เป็นผลกับเขาเจ้าชายเลยคว้าปืนยิงเข้าใส่รัสปูติน แต่รัสปูติน

ยังดิ้นสู้ไม่ยอมตายและยังเข้าไปจะทำร้ายองค์ชาย จึงทำให้ผู้ร่วมก่อการอย่าง วลาดิเมียร์ พูริชเควิช

ผู้นำฝ่ายขวาของรัฐสภารัสเซีย ก็ได้กระหน่ำยิงเข้าใส่รัสปูตินไปหลายนัด และมีนัดที่เข้าศรีษะ

จนล้มลง ปละเข้าใจว่าตายแล้ว แต่ทว่าเขายังไม่ตาย ( เล่นของหรอเนี่ย ) โดยการมารู้ทีหลังว่า

ตอนที่พวกเขาห่อร่างของ รัสปูติน พาไปยังแม่น้ำเนวาที่เป็นน้ำแข็งแล้วก็นำเอาร่างที่ห่อไว้ของ 

รัสปูติน จับยัดลงไปในโพรงน้ำแข็ง ซึ่งตอนหลังมีการมาพบห่อร่างของเขานั้น เขายังไม่ตายตอน

ถูกยิงและโดนโดนโยนลงน้ำที่เป็นน้ำแข็ง ที่ยัดลงในโพรงน้ำแข็งเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่มาตาย

เพราะจมน้ำตายหลัง พยายามดิ้นรนให้พ้นจากใต้ผืนน้ำแข็งแต่ไม่สำเร็จ


12. ราชีพ คานธี : นายกรัฐมนตรีอินเดียที่อายุน้อยที่สุด ขณะเข้าดำรงตำแหน่ง (40 ปี)  เป็น

บุตรชายคนโตของนางอินทิรา คานธี ถูกลอบสังหารจากเหตุผลทางการเมือง ในช่วงการหาเสียงที่ 

เพื่อจะได้รับการเลือกตั้งสมัยที่ 2 ที่รัฐทมิฬนาฑู ทางภาคใต้ของอินเดีย แต่ก็ได้มี หญิงสาวชาวทมิฬ

คนนึงทำการระเบิดพลีชีพโดยแน่นอนเป้าหมายคือนาย ราชีพ นายกรัฐมนตรีอินเดียที่อายุน้อยที่สุด

ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2534


13. อินทิรา คานธี : อดีตนายกรัฐมนตรีอินเดียที่ดำรงตำแหน่งถึง 3 วาระติดต่อกัน และเป็น

นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประเทศอินเดีย ถูกลอบสังหาร 31 ตุลาคม 2527, นิวเดลี, อินเดีย 

โดนองครักษ์สองคนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงกว่า 30 นัด ที่บริเวณสวนในทำเนียบนายกรัฐมนตรี

และถึงแก่อสัญกรรมระหว่างถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล สาเหตุเนื่องจากเหตุการณ์ความขัดแย้ง

ระหว่างชาวฮินดูกับชาวซิกข์หลังปฏิบัติการดาวน้ำเงิน ( การปฏิบัติการทางทหารที่กองทัพอินเดีย 

เพื่อกำจัดหัวหน้ากองกำลังซิกข์ติดอาวุธ Jarnail Singh Bhindranwale และสมุนออกจากหมู่อาคาร

ของหริมันทิรสาหิบ (วิหารทอง) * เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในศาสนาซิกข์ ในอมฤตสระ 

รัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย


14. มหาตมา คานธี : เป็นผู้นำและนักการเมืองนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพชาวอินเดีย โดยการต่อสู้เรียกร้อง

เอกราชให้อินเดีย แบบ อารยะขัดขืน ที่เป็นต้นแบบของการชุมนุมเรียกร้องของบรรดาผู้คนที่ไม่มีอำนาจ

มากนักต่อผู้มีอำนาจถูกลอบสังหารโดย ผู้คลั่งศาสนา ที่ไม่ต้องการให้ฮินดูสมานฉันท์กับมุสลิม 

ยิงปืนใส่คานธี 3 นัด คานธีเสียชีวิตในวัย 78 ปี


15. อันวาร์ ซาดัต : ผู้นำชาติอาหรับชาติแรกที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล และ

เดินทางไปเยือนอิสราเอลใน พ.ศ. 2520 หลังจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับอียิปต์ จนได้รับ

รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจากที่ถูกการลอบสังหารโดยสมาชิกกลุ่มอิสลามิกญีฮัดอียิปต์ ระหว่าง

งานสวนสนามประจำปีฉลองชัยชนะในปฏิบัติการ "บาดร์" ซึ่งเป็นปฎิบัติการที่อียิปต์ข้ามคลองสุเอซ 

และยึดคืนพื้นที่ส่วนเล็กๆ ในคาบสมุทรไซนายคืนจากอิสราเอลช่วงตอนที่เกิดสงครามยมคิปปูร์  

เป็นสงครามรบกันระหว่างแนวร่วมรัฐอาหรับซึ่งมีประเทศอียิปต์และซีเรียเป็นผู้นำต่ออิสราเอล

ส่วนใหญ่เกิดในคาบสมุทรไซนายและที่ราบสูงโกลัน ดินแดนซึ่งอิสราเอลยึดครองตั้งแต่สงครามหกวัน

ซึ่งมุลเหตุน่าจะมาจากการที่เขาได้ทำสนธิสัญญาสันติภาพอียิปต์ – อิสราเอลในปี 2522ทำให้ในหมู่

ชาติอาหรับนั้นไม่พเอใจและกลุ่มเคลื่นไหวในอียิปต์เกี่ยวกะเรื่องนี้เองก็ไม่พอใจ


16. ฮาร์วีย์ มิลค์ : นักการเมืองชาวอเมริกันคนแรกที่เปิดเผยว่าเป็นเกย์  เป็น LGBTQ คนแรกที่ได้รับ

การเลือกตั้งจากชาวสหรัฐฯ ให้เข้าไปนั่งในสภาที่ปรึกษาแห่งซานฟรานซิสโก เสียชีวิตจากการถูก 

แดน ไวท์ นักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ที่ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับสิทธ์และความเท่าเทียมทางเพศของ LGBTQ

 ยิงในระยะเผาขนจนเสียชีวิตในวันที่ 27 พฤศจิกายน 1978 


17. อเล็กซานเดอร์ ลิตวิเนนโก : คดีสายลับแปรพักตร์ รัสเซีย โดนสั่งหารดังไปทั่วโลก 

ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป (ECHR) ชี้รัสเซียอยู่เบื้องหลังลอบสังหารอดีตสายลับ KGB 

เสียชีวิตอย่างทารุณจากพิษกัมมันตภาพรังสีของสารพอโลเนียม 210 ในปี พ.ศ. 2549 โดยการ

ถูกวางยาพิษในชาเขียว ที่ปนเปื้อนธาตุกัมมันตรังสีพอโลเนียม 210 ในกรุงลอนดอน 


18. พัก จ็อง-ฮี : ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่นำพาเกาหลีไปสู่

ยุคอุตสาหกรรม ได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ว่าเป็นหนึ่งในสิบของชาวเอเซียแห่งศตวรรษ

ในปี ค.ศ. 1999 ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1979 ที่บ้านพักประจำตำแหน่งประธานาธิบดี 

ณ กรุงโซล โดยคิม แจ-กยู ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองกลางแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (KCIA) 

เป็นผู้ลงมือลอบสังหาร


19. อองซาน : เป็นนักการเมือง นักเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช และนักปฏิวัติชาวพม่า ผู้ก่อตั้งกองกำลัง

แห่งชาติพม่า และได้รับการขนานให้เป็นบิดาแห่งรัฐพม่าสมัยใหม่ มีบทบาทมากในการได้รับเอกราช

ของพม่า แต่ถูกลอบสังหารราวหกเดือนก่อนที่พม่าจะได้รับเอกราช บิดาแห่งเอกราช วีรบุรุษของพม่า 

ถูกลอบสังหาร วันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 มีอายุแค่เพียง 32 ปี เป็นปัญหาความขัดแย้งภายใน

ของพม่า หัวหน้าการลอบสังหารคือ อูซอ นักการเมืองฝ่ายขวาที่ฝักใฝ่ฝ่ายญี่ปุ่น


20. โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี : นักการเมืองอเมริกัน และเป็นน้องชายของ จอห์น เอฟ. เคนเนดีดำรง

ตำแหน่งเป็นอัยการสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกา ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1968 

ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

สหรัฐอเมริกา


21. โอลอฟ พาลเมอร์ : นายกฯ สวีเดน ถูกลอบสังหารกลางถนน รัฐบุรุษชาวสวีเดน อดีตนายก

รัฐมนตรีสวีเดนสองสมัย  ถูกลอบสังหารในปี 1986 เหตุลอบสังหารนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว

โดยเฉพาะในสแกนดิเนเวียถูกยิงเสียชีวิตจากด้านหลังระหว่างเดินกลับบ้าน 


22. ยิตส์ฮัก ราบิน : เป็นนักการเมือง รัฐบุรุษ และนายพลเอกชาวอิสราเอล นายกรัฐมนตรีคนที่ 5 

ของประเทศอิสราเอล ดำรงตำแหน่ง 2 วาระ ได้รับตำแหน่งบุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์และ

รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ร่วมกับชิมอน เปเรสและยัสเซอร์ อาราฟัตในปี ค.ศ. 1994

ถูกลอบสังหารโดยนักศึกษาชาวยิวฝ่ายขวาเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของอิสราเอลที่ถูกลอบสังหาร 


23. มัลคอล์ม เอ็กซ์ : เจ้าของสโลแกน “ไร้ความยุติธรรม ไร้สันติภาพ” ศาสนาจารย์และนักกิจกรรม

สิทธิมนุษยชนมุสลิมเชื้อชาติแอฟริกัน-อเมริกัน ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมของผู้นับถือศาสนาอิสลาม 

เขาถูกขู่ฆ่าอยู่บ่อยครั้ง  เขาถูกสังหารเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1965 ขณะกำลังปราศรัยในหอ

ประชุมแห่งหนึ่งในแมนฮัตตัน 


24. ฟิลิปแห่งมาซีโดเนีย :  เป็นพระบิดาของ อเล็กซานเดอร์มหาราช เป็นกษัตริย์นักรบรบเอาชนะ

นครรัฐต่าง ๆ ของกรีซโบราณได้หลายแห่ง ทั้ง ธีบส์, เอเธนส์ หรือสปาร์ตา พระองค์สิ้นพระชนม์ลง

ก่อนเมื่อเดือนตุลาคม 336 ปีก่อนคริสต์ศักราช ขณะที่มีพระชนมายุได้ 46 ปี จากการลอบสังหาร

ด้วยมีดปักเข้าที่พระอุระของมือสังหารที่เดินตามหลังพระองค์ ขณะที่พระองค์อยู่ในงานเฉลิมฉลอง 


25. ราชินีมิน : หรือ จักรพรรดินีมยองซอง จักรพรรดินีพระองค์สุดท้ายของเกาหลี ทรงมีบทบาท

อย่างมากในการปกครองและปฏิรูปประเทศในช่วยปลายสมัยราชวงศ์โชซอน ทรงเป็นอุปสรรค

ที่สำคัญที่สุดในการแผ่ขยายอิทธิพลของญี่ปุ่นเข้าไปในเกาหลี ถูกรลอบปลงพระชนม์ในวันที่ 8 ตุลาคม

 ค.ศ. 1895 ให้ชื่อปฏิบัติการนี้ว่า การปฏิบัติการฟอกซ์ฮันท์ (Operation Fox Hunt)  ทหารผสมชาว

ญี่ปุ่นและเกาหลีเข้าบุกพระราชวังคยองบกเข้าปลงพระชนม์พระมเหสีมินที่ตำหนักอ๊กโฮรู


26. เลออน ทรอตสกี : มือขวาคนสำคัญของวลาร์ดีเมียร์ เลนิน  นักปฏิวัติและนักทฤษฎีมาร์กซิสต์ 

นักการเมืองโซเวียต และผู้ก่อตั้งและผู้นำคนแรกของกองทัพแดง  แกนนำคนสำคัญแห่งพรรค

บอลเชวิก เพื่อนและคู๋แค้นสำคัญของ สตาลิน เป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้บอลเชวิคชนะใสงคราม

กลางเมืองรัสเซีย แต่เมื่อโจเซฟ สตาลิน ก้าวเข้าสู่อำนาจ ทรอดสกี ก็ถูกขับออกจากพรรคคอมมิวนิสต์

 เนรเทศออกจากสหภาพโซเวียตและถูกลอบสังหารตามคำสั่งของสตาลิน ในวันที่ 20 สิงหาคม 

ค.ศ.1940 โดยมือสังหารคือ รามอน เมอร์เกเดอร์ ได้ใช้ที่เจาะน้ำแข็งแทงไปที่ศีรษะของเขา 

ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และเสียชีวิตในวันถัดมาตอนอายุ 60 ปี


27. พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 : ราชวงศ์โรมานอฟ เป็นราชวงศ์สุดท้ายของรัสเซีย 


28. คอมโมดัส : จักรพรรดิผู้วิปริตแห่งอาณาจักรโรมัน ยุคสมัยของเขาจัดว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ

ความเสื่อมของอาณาจักรโรมันจนล่มสลายในที่สุด ( เรื่องของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ในยุคหลังๆ )

เขาเป็นผู้ปกครองที่แย่มากในทุกด้าน ผลาญงบประมาณแผ่นดิน เกเรเจ้าสำราญไม่ออกว่าราชการ 

เอาแต่เล่นกลาดิเอเตอร์ที่สู็กับนักรบในโคลอสเซียม และไม่เคยแพ้ เพราะล็อกผลให้ตัวเองชนะ

ไล่กำจัดนักการเมืองที่ต่อต้านพระองค์ ออกกฏหมายห้ามวิพากษ์วิจารณ์จักรพรรดิ จนเป็นที่มา

ของการลอบสังหารโดยการสั่งการของคนในวุฒิสภา คอมโมดัสสวรรคตด้วยการถูกวางยาพิษใน

พระกระยาหารเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 192 บางแหล่งก็บอกว่าถูกนักรบกลาดิเอเตอร์ ลอบเข้ามา

บีบพระศอของพระองค์จนสิ้นพระชนม์ เพื่อแก้แค้นให้เจ้านายที่เป็นวุฒิสภา ที่โดนคอมโมดัสสั่ง

ประหาร แต่น้ำหนักจากแหล่งในเน็ตทั้งหลายจะออกไปในทางที่ว่า โดนนางสนมหักหลั่งร่วมมือ

กับคนในสภาวางยาพิษพระองค์


29. ยิตซัค ราบิน : เป็นนักการเมือง รัฐบุรุษ และนายพลเอกชาวอิสราเอล ราบินเคยดำรงตำแหน่งนายก

รัฐมนตรีคนที่ 5 ของประเทศอิสราเอลได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ได้รับตำแหน่งบุคคลแห่งปี

ของนิตยสารไทม์ จากการที่ยุติปัญหามีส่วนสำคัญในข้อตกลงสันติภาพออสโล ใน ค.ศ. 1994 เรื่อง

อิสราเอลและปาเลสไตน์ร่วมกับชิมอน เปเรสและยัสเซอร์ อาราฟัตในปี ค.ศ. 1994 ชาวอิสราเอลและ

ทั่วโลกส่วนใหญ่มองว่าเป็นเรื่องดี แต่ก็มีชาวอิสราเอล อีกส่วนที่มองว่าเป็นผู้ทรยศที่ยอมอ่อนข้อมอบ

ดินแดนที่ถือเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของชาวอิสราเอล จึงถูกฝั่งต่อต้านลอบสังหารในปี ค.ศ. 1995 


30. 


31.  : 


32.  : 


33. 


34. 


35. 


36. 


37.  : 


38.  : 


39.  : 


40.  : 


41.  : 


42.  : 


43.  : 


44.  : 


45.  : 


46.  : 


47.  : 


48.  : 


49.  : 


50.  : 




สัตว์ประจำชาติประเทศต่างๆ ชนชาติต่างๆ

 



สัตว์ประจำชาติประเทศต่างๆ ชนชาติต่างๆ 

 ไปหามาให้อย่างยากลำบาก บางประเทศเป็นสัตว์ชนิดเดียวกัน สัตว์บางชนิด เราๆท่านๆ

ก็ไม่รู้จักอีก เป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของแต่ละพื้นที่ แต่บอกเลยเปิดโลกผู้เขียนมาก 

ได้รู้จักอะไรอีกเยอะเลย จากการได้หาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ประจำชาติ บางประเทศ

เราหาแบบเป็นทางการไม่มี แต่เขามีนกประจำชาตินะ เลยบางอันเเอานกมาแทน

แต่จะมีเขียนบอกไว้ว่าอันนี้หาไม่ได้หรือไม่มี ถือเป็นสัญลักษญ์ ประจำชาติอย่างนึงเหมือนกัน

National Animal of


สัตว์ประจำชาติประเทศต่างๆ ชนชาติต่างๆ

ส่วนอันนี้ฮายีน่าลาย...อะไรนิ เอ้ย 555+


จะพยายามหามาให้ได้เยอะที่สุดนะคับ ไปดูกัน 


1. รัสเซีย : หมีสีน้ำตาลยูเรเซียน ( แต่คนชอบติดเรียกว่าหมีขาวรัสเซีย )


2. แคนาดา : บีเวอร์


3. สหรัฐ : อินทรีหัวขาว อีกอย่างคือ ไบซัน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประจำชาติ( ฉายาที่ชอบเรียกกันคือ พญาอินทรีย์ ) 


4. จีน : แพนด้า ( แต่ส่วนใหญ่เราจะเรียกพญามังกรกันมันดูน่าเกรงขามดี อะนะ ลองคิดว่าเรียกพญาแพนด้า หรือหมีพูห์ คงฟังดูแปลกๆ )


5. บราซิล : นกทูแคน * Rufous-bellied thrush


6. ออสเตรเลีย : จิงโจ้ / นกอีมู ( แน่นอนว่านกอีมู มันจะมีสตอรี่ฮาๆหน่อย อิอิ )


7. อินเดีย : เสือโคร่งเบงกอล


8. อาร์เจนตินา : นกปั้นเตาสีน้ำตาล Rufous hornero


9. คาซัคสถาน : อินทรีทุ่งหญ้าสเตปป์ / กุย หรือ ไซกา ( ในบางข้อมูล )


10. แอลจีเรีย : หมาจิ้งจอกเฟนเนก


11. สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก : โอคาพี  (Okapi) หรือ “ยีราฟแคระ” สัตว์ที่เป็นญาติกับยีราฟ แต่คอสั้นกว่า 

และมีลายเหมือนม้าลาย


12. ซาอุดีอาระเบีย : อูฐหนอกเดียว (Dromedary)


13. เม็กซิโก : นกอินทรีทอง


14. อินโดนีเซีย : มังกรโคโมโด


15. ซูดาน : นกเลขานุการ หรือ นกเลขานุการินี (Secretarybird)


16. ลิเบีย : อินทรีอาราเบียน


17. อิหร่าน : สิงโตเอเชีย หรือ สิงโตเปอร์เซีย


18. มองโกเลีย : ม้าป่ามองโกล (Mongolian Wild Horse) หรือ ม้าป่าเปรวาสกี้(Przewalski wild horse) 

ชื่อเรียกในภาษามองโกล ว่า ทากี (Thaki) 


19. เปรู : บิกุญญา เป็นหนึ่งในสัตว์ป่าตระกูลอูฐ


20. ชาด : แพะ และ สิงโต


21. ไนเจอร์ : กาเซลล์ดามา (Dama Gazelle) จัดเป็นสัตว์ป่าประเภทแอนทีโลป ที่ใกล้สูญพันธ์มาก


22. แองโกลา : Giant sable antelope


23. มาลี : อีแร้ง


24. แอฟริกาใต้ : สปริงบ็อก


25. โคลอมเบีย : แร้งคอนดอร์แอนดีส


26. เอธิโอเปีย : สิงโต


27. โบลิเวีย : ยามาหรือ ลามา


28. มอริเตเนีย : แมวป่าแอฟริกา


29. อียิปต์ : อินทรีทุ่งหญ้าสเตปป์


30. แทนซาเนีย : ยีราฟ


31. ไนจีเรีย : นกกระเรียนมงกุฎดำ


32. เวเนซุเอลา : Venezuelan troupial


33. นามิเบีย : ออริกซ์ จำพวกแอนทิโลปหรือกาเซลล์ พบกระจายพันธุ์ในทวีปแอฟริกาและคาบสมุทรอาหรับ


34. ปากีสถาน : แพะเขาสกรู แพะมาร์คฮอร์ Markhor


35. โมซัมบิก : ช้างแอฟริกา


36. ตุรกี : หมาป่าสีเทา Gray Wolf


37. ชิลี : กวางแอนเดียนใต้ guemal


38. แซมเบีย : African fish eagle


39. พม่า : เสือโคร่ง


40. อัฟกานิสถาน : เสือดาวหิมะ


41. ซูดานใต้ : African fish eagle


42. ฝรั่งเศส : ไก่ 


43. โซมาเลีย : เสือดาว


44. แอฟริกากลาง : ช้างแอฟริกา


45. ยูเครน : นกไนติงเกล


46. มาดากัสการ์ : ลีเมอร์


47. บอตสวานา : ม้าลาย


48. เคนยา : สิงโตซาโว


49. เยเมน : เสือดาวอาระเบีย


50. ไทย : ช้าง


51. สเปน : กระทิง


52. เติร์กเมนิสถาน : ม้าอาเคอร์เทคกะ หรือ Golden Horse


53. แคเมอรูน : สิงโต


54. ปาปัวนิวกินี : พะยูน


55. สวีเดน : กวางมูส


56. อุซเบกิสถาน : เสือดาวหิมะ


57. โมร็อกโก : สิงโตบาร์บารี


58. อิรัก : นกกระทาChukar


59. ปารากวัย : pampas fox สุนัขจิ้งจอกสีเทา


60. ซิมบับเว : Sable Antelope ( ละมั่ง )


61. ญี่ปุ่น : นกกระเรียน


62. เยอรมนี : อินทรีย์


63. สาธารณรัฐคองโก : - 


64. ฟินแลนด์ : หมีสีน้ำตาล


65. เวียดนาม : กระบือ


66. มาเลเซีย : เสือโคร่งมลายู


67. นอร์เวย์ : สิงโต


68. โกตดิวัวร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไอวอรีโคสต์ : ช้าง


69. โปแลนด์ : อินทรีหางขาว


70. โอมาน : ออริกซ์อาหรับ ( สีขาว )


71. อิตาลี : หมาป่าอิตาลี หรือที่รู้จักกันในชื่อ หมาป่าแห่งเทือกเขาแอเพนไนน์


72. ฟิลิปปินส์ : กระบือ คำว่า คาราบาว ก็มาจากภาษาฟิลิปปินส์นะ รู้ป่าว ภาษาพื้นเมืองของฟิลิปปินส์ แปลว่า "ควาย"


73. บูร์กินาฟาโซ : Dongola horse ม้าพันธุ์แอฟริกัน ( สีขาว )หรือ ม้าขาว


74. นิวซีแลนด์ : นกกีวี


75. กาบอง : เสือดำ


76. เอกวาดอร์ : แร้งคอนดอร์แอนดีส


77. กินี : ช้างแอฟริกา


78. อังกฤษ : สิงโต


79. เวลส์ : เหยี่ยวเรดไคท์


80. สก็อตแลนด์ : ยูนิคอร์น


81. ยูกันดา : นกกระเรียนมงกุฎเทา


82. กานา : นกอินทรีสีน้ำตาล


83. โรมาเนีย : ลิงซ์ยูเรเชีย


84. ลาว : ช้าง  ประเทศในอาเซียน มีข้างเหมือนกัน ถึง 2 ประเทศ ไทย ลาว และ แอฟริกา ก็มีช้าง 

( แอฟริกา ) หลายประเทศด้วย


85. กายอานา : เสือจากัวร์


86. เบลารุส : ควายไบซันยุโรป


87. คีร์กีซสถาน : เสือดาวหิมะ


88. เซเนกัล : สิงโต


89. ซีเรีย : เหยี่ยว


90. กัมพูชา : กูปรี


91. อุรุกวัย : Southern Lapwing วงศ์นกกระแตและนกหัวโต มีสายพันธ์ใกล้เคียงกับนก กระแตแต้แว้ด ของไทยด้วย


92. ตูนิเซีย : นกคอร์เซอร์สีครีม


93. ซูรินาม : นก Lesser Kiskadee


94. เนปาล : ซีบู โคอินดิซิน หรือ โคหลังค่อม


95. บังกลาเทศ : เสือโคร่งเบงกอล


96. ทาจิกิสถาน : เสือโคร่งแคสเปียน


97. กรีซ : โลมา


98. นิการากัว : นกนางแอ่นสีฟ้าครามหรือที่เรียกว่า Torogoz / นกม็อทม็อทคิ้วสีฟ้าเทอร์คอยส์ 

หรือที่รุ้จักกันในชื่อ นกม็อทม็อท


99. เกาหลีเหนือ : Chollima ม้าในตำนาน หรือ เสือโคร่งไซบีเรีย ( อย่างไม่เป็นทางการทั้งคู่ )


100. มาลาวี : ทอมสันส์กาเซลล์


101. เอริเทรีย : อูฐ


102. เบนิน : เสือดาว


103. ฮอนดูรัส : กวางหางขาว ยูคาทาน


104. ไลบีเรีย : สิงโตอินเดีย หรือ สิงโตเอเชีย หรือ สิงโตเปอร์เซีย แล้วแต่จะเรียก ชื่อมันในภาษาอังกฤษคือ Asiatic lion


105. บัลแกเรีย : สิงโต


106. คิวบา : นกขุนแผนคิวบา


107. กัวเตมาลา : Resplendent quetzal น่าจะเป็นนกขุนแผนมรกต


108. ไอซ์แลนด์ : Gyrfalcon เหยี่ยว เป็นนกเหยี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในบรรดานกเหยี่ยว


109. เกาหลีใต้ : เสือโคร่งไซบีเรีย


110. ฮังการี : Turul ทูรูลเป็นนกล่าเหยื่อในตำนาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนกอินทรี 


111. โปรตุเกส : ไก่ ( แต่ไม่เป็นทางการ )


112. จอร์แดน : ออริกซ์อาหรับ


113. อาเซอร์ไบจาน : ม้าคาราบัค


114. ออสเตรีย : นกอินทรีทอง


115. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ : ออริกซ์อาหรับ


116. เช็ก : สิงโตสองหาง


117. เซอร์เบีย : หมาป่าสีเทา


118. ปานามา : นกอินทรีฮาร์ปี


119. เซียร์ราลีโอน : ชิมแปนซีตะวันตกหรือชิมแปนซีแอฟริกาตะวันตก สายพันธุ์ย่อยของชิมแปนซีทั่วไป

สายพันธุ์ย่อยที่ใกล้สูญพันธุ์


120. ไอร์แลนด์ : กระต่าย Irish Hare


121. จอร์เจีย : หมาป่า กระทิง ( แบบไม่เป็นทางการ )


122. ศรีลังกา : กระรอกยักษ์สีเทา


123. ลิทัวเนีย : นกกระสาขาว


124. ลัตเวีย : นกอุ้มบาตร


125. โตโก : สิงโต


126. โครเอเชีย : มาร์เทิน หรือ หมาไม้ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกินเนื้อขนาดเล็กสกุลหนึ่ง ในวงศ์เพียงพอน


127. บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา : ไม่มี


128. คอสตาริกา : สลอธ


129. สโลวาเกีย : ชามัวร์แห่งเทือเขาตะตราส Tatra chamois


130. โดมินิกัน : Palmchat เป็นนกพาสเซอรีนหางยาวขนาดเล็ก


131. ภูฏาน : ทาคิน มีหน้าและเขาคล้ายแพะ แต่ว่าไม่มีเครา ตัวใหญ่ประมาณวัว 


132. เอสโตเนีย :  หมาป่าสีเทา


133. เดนมาร์ก : กระรอกแดง


134. เนเธอร์แลนด์ : สิงโต


135. สวิตเซอร์แลนด์ : วัว


136. กินี-บิสเซา : ไม่มีสัตว์ อย่างอื่น มีแต่นกประจำชาติ คือ นกกระเรียนมงกุฎดำ


137. ไต้หวัน : หมีดำฟอร์โมซานหรือที่รู้จักกันในชื่อหมีดำไต้หวันหรือหมีคอขาว


138. มอลโดวา : ออรอซ เป็นโคที่สูญพันธุ์ไปแล้ว


139. เบลเยียม : สิงโต


140. เลโซโท : แรดดำ


141. อาร์มีเนีย : นกอินทรีทอง


142. แอลเบเนีย :  นกอินทรี


143. หมู่เกาะโซโลมอน : เต่าทะเล


144. อิเควทอเรียลกินี : ยีราฟ


145. บุรุนดี : ไฮยีนาลายจุด


146. เฮติ : นกขุนแผนฮิสแปนิโอลา


147. รวันดา : เสือดาว


148. มาซิโดเนียเหนือ : สิงโต


149. จิบูตี : กวางเอลก์


150. เบลีซ : สมเสร็จอเมริกากลาง


151. เอลซัลวาดอร์ : นกนางแอ่นสีฟ้าครามหรือที่เรียกว่า Torogoz / นกม็อทม็อทคิ้วสีฟ้าเทอร์คอยส์ 

หรือที่รู้จักกันในชื่อ นกม็อทม็อท


152. อิสราเอล : กาเซลล์


153. สโลวีเนีย : ม้าพันธุ์ลิปิซานเนอร์


154. ฟีจี : นกแก้วโนรี Collared Lory 


155. คูเวต : อูฐหนอกเดียว 


156. เอสวาตินี : สิงโต


157. ติมอร์-เลสเต : จระเข้


158. บาฮามาส : นกฟลามิงโก้


159. มอนเตเนโกร : อินทรี


160. วานูอาตู : อิกัวน่า


161. กาตาร์ : ออริกซ์อาหรับ หรือ ออริกซ์สีขาว


162. แกมเบีย : ไฮยีนาลายจุด


163. จาเมกา : นกนางแอ่น นก  Red-Billed Streamertail  ไม่รู้ว่าชื่อไทยเรียกว่าอะไร


164. เลบานอน : ไฮยีน่าลายทาง


165. ไซปรัส : ไซปรัส มูฟล่อน แกะพื้นบ้าน


166. เปอร์เตอริโก้ : Puerto Rican coqui กบเฉพาะถิ่นในเปอร์โตริโก


167. ปาเลสไตน์ : กาเซลล์


168. บรูไน : เสือโคร่ง


169. ตรินิแดดและโตเบโก : นกช้อนหอย Scarlet Ibis 


170. กาบูเวร์ดี : พะยูนแมนนาที


171. ซามัว : วาฬ


172. ลักเซมเบิร์ก : สิงโตแดง


173. มอริเชียส : นกโดโด 


174. คอโมโรส : ลีเมอร์ Mongoose Lemur


175. เซาตูแมอีปริงซีป : Sao Tome Shrew คล้ายๆหนูแหะ เรียกไม่ถูก


176. คิริบาส : นกโจรสลัด


177. โดมินิก้า : -


178. ตองก้า : -


179. ไมโครนีเซีย : ค้างคาวตรุค. Chuuk Flying Fox


180. สิงคโปร์ : สิงโต


181. บาห์เรน : ออริกซ์อาหรับ


182. เซนต์ลูเชีย : นกแก้วเซนต์ลูเชีย


183. อันดอร์รา : วัว


184. ปาเลา : นกพิราบผลไม้ปาเลา Palau fruit dove


185. เซเชลส์ : นกแก้วสีดำเซเชลส์นกแก้วปราสลินหรือกาโตนวาร์เป็นนกแก้วสีดำขนาดกลางเฉพาะถิ่นของเซเชลส์


186. แอนติกาและบาร์บูดา : กวางแฟลโลว์


187. บาร์เบโดส : ไม่มีสัตว์ประจำชาติอย่างเป็นทางการ แต่มีนกประจำชาติคือ นกกระทุงสีน้ำตาล


188. เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ : นกแก้วอเมซอน หรือ นกแก้ว เซนต์วินเซนต์


189. เกรเนดา : นกพิราบเกรนาดา


190. มอลตา : อียิปต์ ฟาโรห์ ฮาวด์ เป็นสุนัขล่าสัตว์สายพันธุ์มอลตา


191. มัลดีฟส์ : ปลาทูน่าครีบเหลือง


192. เซนต์คิตส์และเนวิส : นกกระทุงสีน้ำตาล


193. หมู่เกาะมาร์แชลล์ : แมวตีนดำ เป็นสัตว์ในตระกูลแมวที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก


194. ลีชเทินชไตน์ : เหยี่ยวเคสเตรล


195. ซานมารีโน : ม้า


196. ตูวาลู : ปลาโลมาลายจุดเขตร้อน


197. นาอูรู : นกโจรสลัดใหญ่


198. โมนาโก : เฮดจ์ฮอก / หนูไม้ / กระต่าย ( แหมะ นครเล็ก แต่มีสัตว์ประจำชาติ 3 ชนิดไปเลยแหะ 

แต่ละตัว ปุ๊กปิ๊กน่ารักทั้งนั้น )


199. ธิเบต : ดินแดนหลังคาโลก ก็จะไม่ธรรมดาหน่อย เป็นสัตว์สวรรค์ น่าจะในตำนานความเชื่อมั้งนะ 

ตามข้อมูลคือ สิงโตหิมะ 


200. นครรัฐวาติกัน : หาไม่เจอ น่าจะไม่มี





Soft Power คืออะไร





Soft Power คืออะไร

Soft Power คืออะไร หรือ อำนาจอ่อน ซอฟท์พาวเวอร์ เป็น อำนาจที่ไม่ใช่

การบีบบังคับไม่มีผลในทางผู้ที่ถูกกระทำใส่รู้สึกขัดข้องหมองใจ เป็นเรื่องของ

กระแสและความนิยมชมชอบมักใช้คำเหล่านี้ในทางการต่างประเทศหรือเรื่อง

ระหว่างประเทศซะส่วนใหญ่ อารมณ์การมีประโยชน์ร่วมกัน ซอฟท์ พาวเวอร์

ที่สำคัญอย่างนึงเลย คือเรื่อง วัฒนธรรม เช่น ศิลปะ ดนตรี ภาษา อัตลักษณ์

ประจำชาติ ที่สามารถแผ่ขยายไปทั่วโลกหรือตามประเทศต่างๆโดยประเทศใด

ประเทศนึง อย่าง ดารา นักกีฬา คนดังของไทย ก็มีส่วนช่วยในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

Soft Power
Soft Power คืออะไร


ซอฟท์ พาวเวอร์ของไทย ที่มีแต่ประเทศในอาเซียนรอบข้าง

ไทยมี Soft Power อะไรต่ออาเซียนบ้าง เช่น หนัง ดนตรี ค่าเงิน สินค้า วัฒนธรรม

วิถีชิวิตการแต่งกายเครื่องแบบต่างๆ รวมไปถึง อาหารไทย  เป็นต้น ซึ่งหากเปรียบ

กับ Hard power หรือเราๆเรียกกันว่าการใช้อำนาจบาตรใหญ่ บีบบังคับ รังแกผู้อื่น 

เช่น กำลังทหาร การบีบด้วยการค้า การมีมาตราการทางเศรษฐกิจที่รุนแรง ต่อ

ประเทศที่เราต้องการ ซอฟท์พาวเวอร์ดูจะเป็นอะไรที่ดูดีขึ้นมามากและเหมาะ

กับประเทศเรามาก เพราะประเทศที่จะใช้ Hard power ได้นั้นต้องเป็นประเทศใหญ่

และมีศักยภาพ อยู่ในระดับแนวหน้าของโลกหรือของภูมิภาค อย่าง สหรัฐ จีน 

รัสเซีย ญี่ปุ่น บราซิล ซาอุ ออสเตรเลีย เป็นต้น


อำนาจอ่อน หรือ ซอฟท์พาวเวอร์ นี้ จะพูดให้เป็นทางการหน่อยคือ สิ่งที่มี

ความสามารถดึงดูดให้เชื่อสร้างการมีส่วนร่วม และความร่วมมือกันอย่างดี

ไม่รู้สึกว่าถูกบีบบังคับ ใช้สร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างอิทธิพลต่างๆ

อำนาจในการโน้มน้าว ดึงดูด โดยผู้ถูกกระทำไม่รู้สึกว่าโดนบังคับแต่เป็นการ

ยินยอมที่จะทำโดยไม่รู้สึกว่าขัดใจอะไร


แหล่งทรัพยากรของ Soft power มีด้วยกันหลายอย่าง เช่น

1. วัฒนธรรม

2. ค่านิยมทางการเมือง

3. นโยบายต่างประเทศ

4. เครื่องแต่งกาย

5. อาหาร - อาหารไทย ก็เป็นนะ

6. เพลง สิ่งบันเทิง

7. ภาษา ใช้ในการค้าขาย สื่อสาร ระหว่างประเทศ

8. ค่าเงินบาท ก็เกี่ยวเช่นกัน

9. ลักษณะเฉพาะ หรือคำเฉพาะ เช่น การยิ้มของคนไทย หรือ พิม 555 แทนหัวเราะ

10. วิถีชีวิต อันนี้เป็นเรื่องแข็งแกร่ง เพราะการจะทำให้ใครมาสนใจรักในวิถีชีวิตได้

คนๆนั้นต้องมาอาศัย มาซึมซับ มาเรียนร้อนในเวลาที่นานพอสมควร


ซอฟท์พาวเวอร์นั้นก็สรุปได้คือเป็นเสน่ห์ในการโน้มน้าวหรือใช้เป็นเครื่องมือ

ในการให้ได้มาซึ่งผลที่พอใจ ที่จะบอกว่าพึงระวังไว้ก็ดี เพราะบางทีมันก็มา

ในรูปแบบที่เราชอบใจ แต่อาจจะมีผลเสียมากมายในด้านต่างๆด้วยเช่นกัน

สำหรับในระดับประเทศ แต่ในระดับบุคคลก็เหมือนการที่เราทำให้ใครสักคน

ติดหรือชื่นชอบชื่นชมสามารถทำให้เชื่อฟัง โน้มน้าวเขาได้มันก็เป็นเรื่องที่

ต้องระวังไว้ด้วยอย่างนึง





10 วิธีดูแลผิวหน้าเวลาเกิดสิว





10 วิธีดูแลผิวหน้าเวลาเกิดสิว

บทความที่แล้วเราพูดถึงสาเหตุของการเกิดสิวไปแล้ว มาบทความนี้ต่อเนื่องเรา

จะมาพูดถึงวิธีการดูแลรักษาสิว ขั้นพื้นฐานด้วยตัวเราเองเพื่อทำให้สิวที่อยู่

บนใบหน้าเรา ลดน้อยลงหรือไม่เป็นเพิ่ม วันนี้เว็บ ความรู้รอบตัว ของเรา

จะนำเสนอบทความเกี่ยวกับการดูแลหน้าแบบพื้นฐานๆ ทำกันได้เองมาลงไว้

เผื่อจะเป็นแนวทางให้แกคนเป็นสิวได้ดูแลผิวหน้ากันบ้าง


1.อย่ามือบอน เวลามีสิวอย่าแกะอย่าบีบ อย่าทำอะไรกับมันมากปล่อยมันไว้

อย่างนั้นอย่าไปทำอะไรมันรุนแรงเดี๋ยวมันจะอักเสบ


2.พยายามรักษาความสะอาด บนใบหน้า ล้างหน้าเมื่อสกปรกควรใช้

กระดาษชำระเนื้อดีเช็ดหน้าแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะกระดาษชำระอย่างดี

ใช้แล้วทิ้งไปเลยไม่ต้องกลับมาเช็ดใหม่เหมือนผ้าเช็ดหน้า เช็ดแล้ว

กลับมาเช็ดอีกความสกปรกก็ไม่ไปไหนยังมาอยู่บนหน้าเราเหมือนเดิม


3.หมั่นออกกำลังกายให้ผิวหนังขับของเสียผ่านทางเหงื่อออกมาและยังทำให้

ร่างกายแข็งแรง สร้างภูมิต้านทานให้ตัวเราเองสู้สิวต่อไป


4.โฟมล้างหน้า เลือกสูตรอ่อนๆเหมาะกับผิวหน้า สูตรที่ควบคุมความมันที่

ไม่ทำให้หน้าแห้งเกินไปและไม่ใช่แบบเม็ดบีท เพราะจะทำให้ เกิดการ

ระคายเคืองผิวและอักเสบที่สิวได้


5.ส่วนที่เป็นสิวหนองแตก ให้นำ คอตตอน บัต ชุบ เบตาดีน (Betadine) มาแต้ม

ที่หัวสิว เพื่อป้องกันการอักเสบ และรักษาไปในตัว


6.ถ้าเกิดทนไม่ไหวเผลอไปแกะแผลเข้าละก็ ให้นำผงวิเศษ ผสมกับน้ำพอขลุกขลิก

แล้วแต้มที่เผลอสิวอักเสบ รอจนมันแห้งซักพักและเกาะติดกับสิวซักระยะแล้ว

(ประมาณ 1 ชั่วโมง) ให้ล้างออก แล้วแต้มด้วย วาสลีน เพื่อให้เผลอนั้นนุ่ม

ไม่เกิดแผลเป็นแข็งๆ ทิ้งไว้ซักระยะ แล้วค่อยล้างออกให้สะอาด

(ต้องสะอาดจริงๆนะเพราะ วาสลีนมันทั้งเหนี่ยวทั้งมัน ล้างยากมาก)

* ทางที่ดีอย่าไปแกะมันเลยดีกว่านะ


7. อย่าสัมผัส ล้างหน้าไม่ต้องบ่อย  อย่าเอามือไปสัมผัสหน้าบ่อยๆ มือเราไม่รู้ไป

โดนอะไรมาบ้าง อาจทำให้มีสิ่งสกปรกติดแล้วเอาไปจับหน้าถูหน้าอะไรก็แล้วแต่

ก็จะทำให้หน้าสกปรกได้ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องล้างหน้าบ่อยจนเหมือนคนโรคจิต

เอาแค่ถ้ามันสะอาดอยู่แล้วก็ไม่ต้องไปหมั่นล้างเวอร์วังอะไรขนาดนั้น


8.ถ้าเป็นที่พันธุกรรม ฮอร์โมนที่มากเกินไปหรือ ยีนต์ของเรานั้นควรไป

ปรึกษาเภสัช หรือแพทย์เฉพาะทาง อย่าไปรักษาด้วยตัวเองอาจจะทำให้

อาการแย่ลงเพราะเราไม่รู้ว่าอะไรเหมาะกับผิวหน้าเราบ้างในกรณีที่มี

ความผิดปกติของ ฮอร์โมน หรือพันธุกรรมเรา


9. นอนดึก เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้สิวขึ้นพักผ่อนน้อย ร่างกายไม่ได้ฟื้นฟู

ซ่อมแซม ร่างกายโทรมเชื้อโรค แบคทีเรียต่างๆจะเข้าจู่โจมเราได้ไง

มันมากกว่าการเป็นสิวคือทำให้ร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยได้ง่าย


10. อย่าเครียด เพราะความเครียกคืออีกสาเหตุของการเกิดสิว อย่างแน่นอน

ฮอร์โมนคอร์ติซอล จะถูกกระตุ้นออกมาซึ่งมันเป็นฮอร์โมนของความเครียด

ทำให้หลายคนที่สภาพผิวมีความไวต่อสิว เกิดสิวอักเสบขึ้นมาได้







โลกมีกี่ประเทศ



โลกมีกี่ประเทศ

คำจำกัดความของประเทศประเทศ คือ พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ซึ่งแสดงถึงสถานภาพ

ทางการเมืองที่เป็นเอกราช และมีรัฐบาล อำนาจบริหาร และกฎหมายเป็นของตนเอง

รวมถึงการมีรัฐธรรมนูญ ตำรวจ การทหารการเก็บภาษี และประชากร ในแต่ละประเทศ

มีการจัดการอำนาจบริหานเป็นของตัวเอง สามารถมีดินแดน มีสิทธิต่างๆประชากร

เป็นของตัวเอง มาดูกันว่าโลกเรามีกี่ประเทศครับ


ทวีปเอเชีย มีทั้งหมด 48 ประเทศ


เขตโอเชียเนียทวีปออสเตรเลีย มีทั้งหมด 14 ประเทศ


ทวีปยุโรป มีทั้งหมด 45  ประเทศ


ทวีปแอฟริกา มีทั้งหมด 54 ประเทศ


ทวีปอเมริกาเหนือ มีทั้งหมด 22 ประเทศ


ทวีปอเมริกาใต้ มีทั้งหมด 13  ประเทศ


รวมทั้งสิ้นมีทั้งหมด 196 ประเทศ


สามารถดูรายชื่อประเทศในโลก แยกตามทวีปได้ที่ >> รายชื่อประเทศในโลก


และมี รัฐที่ได้รับการรับรองอย่างไม่สมบูรณ์ อีก 8 รัฐ

 >> รัฐที่ได้รับการรับรองอย่างไม่สมบูรณ์


ดินแดน ต่างๆ ที่อยู่ใต้การปกครองรัฐในอารักขา หรือที่ไม่ได้ปกครองอย่าง

อิสระอีก 78 แห่ง >> รายชื่อดินแดนปกครองตนเอง(ในอารักขา) ทั่วโลก


มีดินแดนอีกมากมายและอีกหลายรัฐที่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นประเทศและยังมีอีก

หลายแห่งที่ต้องการแยกตัวเองขึ้นเป็นประเทศอยู่ตลอดทั่วโลกต้องมาดูกันครับ

ว่าจะมีประเทศไหนเพิ่มขึ้นมาอีกบ้างในอนาคต






วิธีคิดนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ





วิธีคิดนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

1. รักในงานที่ทำ : แน่นอน งานที่จริงจังด้วยนั่นแหละ บางคนเห็นว่าก็คนรวยหลายคน

ทำหลายอย่างนั่นเขารักทุกอย่างเลยหรอ ... เขาอาจจะไม่ได้รักทุกอย่างแต่เขารักการบริหาร

รักการวางแผนการทำหลายๆอย่างมันก็ตอบสนองเขาด้วยเหมือนกันนะ



2. ลงทุนกับสิ่งฟุ่มเฟือยบ้าง : เพื่อสร้างความเฉพาะตัวเป็นที่จดจำหรือ สร้างสไตล์

ให้ตัวเอง



3. อารมณ์ศิลป์เฉพาะด้าน : ด้านไหนหละ ด้านใดด้านนึงที่ช่วยเสริมงานหรือช่วยเพิ่ม

ประสิทธิภาพในตัวเอง ปล่อยกายปล่อยใจบ้าง



4. ปรับตัวไว : หลายบุคคลิก ใช้ชีวิตหลายด้าน ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่จะทำ



5. เพื่อนฝูงไม่ขาด : อันนี้สำคัญมันเป็นคอนเน็คชั่น และความช่วยเหลือรวมถึงกำลังใจ

มากมาย



6. สนุกในการแก้ปัญหา : ปัญหามีความเครียดแต่เชื่อเถอะหลายท่านเขาก็มองมันว่า

ต้องก้าวผ่านไปให้ได้ เอาชนะมันให้ได้



7. การเข้าสังคมผู้คน : รู้จักคนเยอะมากหน้าหลายตา เพื่อเปิดโอกาสและหนทางได้เยอะ



8. ไม่กลัวความผิดหวัง : มันเป็นของคู่กันครับเรื่องความผิดหวังกับการทำอะไรซักอย่าง

ข้อคิดเปลี่ยนชีวิต คิดบวก  ท้อแต่ไม่ถอย แพ้ช่างมันเอาใหม่



9. ความสำเร็จ ครั้งเดียวไม่เคยพอ : เป็น ข้อคิดเพื่อประสบความสำเร็จ เลยทีเดียวเชียว

เหมือนนักกีฬาที่กระหายชัยชนะเหมือนคนที่ไม่หยุดแค่ 1 แต่ก้าวต่อไปเรื่อยๆ



10. ไม่เคร่งเครียดกับสิ่งนั้นมากเกินไป : งานมันต้องมีเครียดบ้าง แต่ถ้าเครียดมากเกิน

ก็ไม่ช่วยอะไรคิดอะไรใหม่ๆไม่ออกแย่ คลายเครียดกันบ้างอะไรบ้าง ไปเที่ยว เปลี่ยน

บรรยากาศ หรือพักผ่อนเบาสมองก็เป็นทางเลือกที่ดี เผื่อได้ไอเดียใหม่ๆด้วย



11. หาความรู้กว้างขวางอยู่เสมอ : เพื่อจะได้ทันคนทันลูกน้อง ทันโลกที่เปลี่ยนไปไวมาก

ความรู้รอบตัว ก็เป็นสิ่งสำคัญ



12. ซื้อใจคนเป็นดี : มีคนที่ไว้ใจและทำงานให้ด้วยใจ น่าจะดีไม่ใช่หรอ



13. ความคุ้มค่าไม่ได้วัดที่ตัวเงินอย่างเดียว : มันมีหลายอย่าง ทั้ง ชื่อเสียง เครดิต

การเป็นที่รู้จัก และสิ่งที่จะต่อยอดได้



14. ลงทุนที่มีผลตอบแทน : ถึงไม่ได้ผลตอบแทนโดยตรงแต่ได้โดยทางอ้อมและมี

ประโยชน์กับเรามากพอ นั่นก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ



15. กล้าที่จะแตกต่างอยู่เสมอ : มันจะทำให้คุณเป็นผู้นำคนอื่นตลอดเวลาไม่ใช่

แตกต่างแบบไม่เข้าพวกแต่เป็นแตกต่างที่จะมีความคิดใหม่ๆลองทำในสิ่งใหม่เพื่อ

พัฒนาและหาลู่ทางใหม่ๆ




ความคิดผิดๆของคนไม่ก้าวหน้า



ความคิดผิดๆของคนไม่ก้าวหน้า

1. จะพยายามไปทำไมเดี๋ยวก็ตายกันหมดแล้ว แค่นั้นแหละมนุษย์ : คิดแบบนี้ไม่มีทาง

เจริญได้หลอกมันไม่ใช่การปลงแต่มันคือไม่เอาอะไรเลย


2. คยรวยทำอะไรก็ดีไปหมด หยิบจับอะไรก็เป็นไง :  เราต้องพยายามสิจ๊ะ


3. เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รวย : รอหวังจากหวยจะรวยหรือเจ๊ง ลองอ่าน ข้อคิดประสบความสำเร็จ


4. ปีนี้ดวงจะดี รอได้เลย : หวังพึ่งโชคชะตาบางทีมันก็ไม่เข้าข้างเราหรอก พึ่งตัวเองดีที่สุด


5. นายผิด ต้องแบบนี้ ต้องแบบนั้นทำไมไม่แบบนั้น : ถ้าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของ

จักรวาลตลอดเราก็จะไม่พัฒนาไปไหนเลย อยู่ในกะลานั่นแหละ


6. ทำไมเขาไม่ทำดีกับเรา ทำไมเขามองเราอย่างนั้น ใช้ไม่ได้ทำไม : อยากได้อะไร

จากใครก็ต้องทำแบบนั้นกับเขาก่อน การยิ้มเป้นการลงทุนที่ถูกที่สุดและได้ผลที่สุดที่

จะได้รับผลตอบแทน


7. ยิ่งรักยิ่งแค้น รักมากเกลียดมาก : เอาเวลาแค้น หรือเวลาที่นั่งเกลียดนั่งคิดเรื่องพวกนั้น

มาหาคนใหม่แจ่มๆดีกว่า ลองหา ข้อคิดเปลี่ยนชีวิต คิดบวก


8. ร้องไม่ได้มันอ่อนแอ : การร้องบางครั้งไม่ใช่เพราะอ่อนแอเสมอไป รองร้องไห้กับอะไร

ซักสิ่งดูสิ


9. พม่าเผาเมือง ทำให้เราเสียกรุงศรีอยุธยา บลาๆๆ เกลียดๆ : ถ้ายังยึดติดกับอดีตและ

ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาจนมากเกินไป ยิ่งจะไม่สามารถก้าวข้ามคำว่าการพัฒนาได้เลย

โดยเฉพาะสมอง บางทีอะไรที่มากเกินไปก็แน่ ลองดูอันนี้ ข้อคิดมากๆในชีวิต


10. ถ้า... : ไม่มีคำว่าถ้า ต้องลงมือทำ ถ้ารู้งี้ ไม่มี พลาดแล้วผ่านไปทำใหม่ ตั้งต้นใหม่เก็บ

ความผิดพลาดอย่าโทษคำว่าถ้า หรือพูดในสิ่งที่ กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว





20 ประเทศที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก



20 ประเทศที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก

จากเรื่องความรู้รอบตัว เราเคยเสนอเรื่องประชากรที่มากที่สุดในโลก ไปแล้ว มาวันนี้

มาเสนอเกี่ยวกับ พื้นที่หว้าง ขนาดใหญ่ที่ สุดในโลกกันครับ


1. รัสเซีย : 17,124,442  ตารางกิโลเมตร เป็นอีกชาติของกลุ่ม BRICS


2. แคนาดา : 9,984,670  ตารางกิโลเมตร


3. สหรัฐอเมริกา :  9,629,091 ตารางกิโลเมตร


4. จีน :  9,596,961 ตารางกิโลเมตร ไม่นับรวมเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊า


5. บราซิล : 8,514,877  ตารางกิโลเมตร


6. ออสเตรเลีย : 7,692,024  ตารางกิโลเมตร


7. อินเดีย : 3,287,263  ตารางกิโลเมตร


8. อาร์เจนตินา :  2,780,400 ตารางกิโลเมตร


9. คาซัคสถาน : 2,724,900  ตารางกิโลเมตร


10. แอลจีเรีย : 2,381,741  ตารางกิโลเมตร


11. สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก :  2,344,858 ตารางกิโลเมตร


12. กรีนแลนด์ : 2,166,086  ตารางกิโลเมตร  เป็นดินแดนทางเหนือสุดของโลก

ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอาร์กติกและเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีฐานะเป็นดินแดน

ปกครองตนเองของประเทศเดนมาร์ก


13. ซาอุดีอาระเบีย : 2,149,690  ตารางกิโลเมตร


14. เม็กซิโก : 1,964,375  ตารางกิโลเมตร


15. อินโดนีเซีย : 1,904,569  ตารางกิโลเมตร  ขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน


16. ซูดาน : 1,861,484  ตารางกิโลเมตร


17. ลิเบีย :  1,759,540 ตารางกิโลเมตร


18. อิหร่าน : 1,628,750  ตารางกิโลเมตร


19. มองโกเลีย : 1,564,100  ตารางกิโลเมตร


20. เปรู :  1,285,216 ตารางกิโลเมตร

แถมอีก 5 ชาติที่มีขนาดพื้นที่ เกิน 1.2 ล้านตารางกิโลเมตร


ชาด   1,284,000     ตารางกิโลเมตร

ไนเจอร์   1,267,000     ตารางกิโลเมตร

แองโกล   1,246,700     ตารางกิโลเมตร

มาลี   1,240,192     ตารางกิโลเมตร

แอฟริกาใต้   1,221,037 ตารางกิโลเมตร




ประเทศที่มีพื้นที่คาบเกี่ยว 2 ทวีป



ประเทศที่มีพื้นที่คาบเกี่ยว 2 ทวีป

ประเทศที่มีอาณาเขตครอบคลุม 2 ทวีป  จุดพรมแดนเชื่อมต่อทวีปต่างๆ ประเทศที่มี

ดินแดนคาบเกี่ยวกัน หรืออยู่ในจุดนั้นมีประเทศอะไรบ้างไปดูกันจ้าแบบติดกันนะครับ

ไม่ได้แยกว่าเป็นดินแดนที่อยู่ในทวีปอื่นแบบต่างกันเหมือน เดนมาร์กและ กรีนแลนด์


1. ประเทศคาซัคสถาน : มีพื้นที่ทั้งในทวีปเอเชียและทวีปยุโรป


2. ประเทศจอร์เจีย :  เป็นประเทศที่อยู่ทางตะวันออกของทะเลดำในคอเคซัสตอนใต้

ในอดีตเป็นสาธารณรัฐหนึ่งของสหภาพโซเวียต มีพื้นที่ทั้งในทวีปเอเชียและทวีปยุโรป


3. ประเทศตุรกี :  ตุรกีก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศ 2 ทวีป โดยเมือง

ที่คร่อมทั้งเอเชียและยุโรปคือ "อิสตันบูล"


4. ประเทศอาเซอร์ไบจาน : เป็นประเทศในแถบเทือกเขาคอเคซัส บริเวณที่เป็น

จุดเชื่อมต่อของภูมิภาคยุโรปตะวันออกกับเอเชียตะวันตกเฉียงใต้


5. ประเทศรัสเซีย : มีประชากรมากที่สุดของโลก อันดับที่ 9 เป็นถึงมหาอำนาจของโลก

และ ประเทศใหญ่ที่สุดในโลก *มีพื้นที่อยู่ทั้งในยุโรปและเอเชีย พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ใน

ทวีปเอเชียตามเกณฑ์ทางภูมิศาสตร์แต่โดยทั่วไปถือว่าเป็นประเทศในทวีปยุโรป

เนื่องจากดินแดนในเขตยุโรปเป็นที่ตั้งเมืองหลวงและมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นกว่า


6. ประเทศอียิปต์ : พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศตั้งอยู่ในแอฟริกาเหนือ แต่มีพื้นที่

บางส่วนคือ คาบสมุทรไซนาย (เป็นส่วนหนึ่งของเอเชียตะวันตกเฉียงใต้)


7. ประเทศตรินิแดดและโตเบโก : ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียนตอนใต้ได้รับการจัด

ให้เป็นประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ แต่เมื่อพิจารณาในแง่ภูมิศาสตร์กายภาพจะ

พบว่าทั้งเกาะตรินิแดดและเกาะโตเบโกต่างตั้งอยู่บนไหล่ทวีปของทวีปอเมริกาใต้





ตัวย่อ สถาบันมวยสากล ในโลก



ตัวย่อ สถาาบันมวย ในโลก

1. IBF : International Boxing Federation สหพันธ์มวยนานาชาติ


2. WBA : World Boxing Association สมาคมมวยโลก


3. WBC : World Boxing Council สภามวยโลก


4. WBF : World Boxing Foundation มูลนิธิมวยโลก จากเดิมคือ  สหพันธุ์มวยโลก

(World Boxing Federation)


5. WBO : World Boxing Organization องค์กรมวยโลก


6. WBU : World Boxing Union สหภาพมวยโลก


ด้านบนคือหลักๆ ที่สำคัญไม่ได้เรียงลำดับนะครับ ว่าอันไหนสำคัญหรือมีศักศรีดิ์มากน้อย

แค่ไหน ภาษาน่ารู้ จัดไปส่วนด้านล่างนี่ คือที่เราได้ยินบ่อยๆ จะลองหามาดูครับ


7. OPBF : Oriental & Pacific Boxing Federation สหพันธ์มวยภาคตะวันออกไกล

และแปซิฟิก


8. ABCO : Asian Boxing Council สภามวยเอเชีย


9. PABA : Pan Asian Boxing Association สมาคมมวยแห่งทวีปเอเชีย หรือที่นิยม

เรียกกันว่า พาบา


10. WIBA : Women's International Boxing Association สมาคมมวยหญิง


ส่วนอย่างอื่นเช่น Commonwealth Boxing Council Champions แชมป์มวยสากล

เครือจักรภพอังกฤษอะไรทำนองนี้เราไม่ได้ยินบ่อยเลยละไว้เอาที่ได้ยินบ่อยหรือ

จำเป็นต้องรู้มาแปะข้อมูลเป็น ความรู้รอบตัว

ที่อยู่ใกล้ตัวไว้ประกอบการดูมวยกันครับ



Boston tea party คืออะไร



Boston tea party  งานเลี้ยงน้ำชาที่บอสตัน

   Boston tea party บอสตัน ที ปาร์ตี้  งานเลี้ยงน้ำชาที่บอสตัน คือเหตุการณ์ที่เป็น

ชนวนนำไปสู่สงครามการปฏิวัติอเมริกาโดยการที่ชาวอาณานิคมของอังกฤษได้ทำการ

ต่อต้านภาษีใบชาที่มาจากความไม่เป็นธรรม ชาวอาณานิคมของอังกฤษ ในเมืองบอสตัน

จึงได้ประท้วงรัฐบาลอังกฤษและเป็นชนวนสู่สงครามอิสรภาพของอเมริกา จากการที่

รัฐบาลอังกฤษได้ร่างและประกาศเรื่องนี้ใน พระราชบัญญัติทาวเซนต์ใต ค.ศ. 1767

และหนำซ้ำยังให้บริษัทอินเดียตะวันออก (East India Company) ขายใบชาแก่ชาว

อาณานิคมได้โดยตรง ทำให้พ่อค้าชาวอเมริกันเสียผลประโยชน์ การทำให้เสียประโยชน์

รวมไปถึงการขึ้นภาษีชาที่จะส่งไปขายยังอังกฤษ จนสร้างความไม่พอใจ ในปี ค.ศ. 1773

มีเรือสินค้า 3 ลำบรรทุกใบชามายังท่า



   เรือบอสตันชาวอเมริกากลุ่มหนึ่งประมาณ 50 คนที่ไม่พอใจได้ทำการปลอมตัวเป็น

อินเดียแดงขึ้นไปบนเรือของอังกฤษที่จอดทอดสมออยู่ที่อ่านบอสตันแล้วโยนใบชาทิ้ง

ลงไปในทะเลทั้งหมด ทำให้รัฐบาลอังกฤษทำการตอบโต้โดยการประกาศปิดท่าเรือ

บอสตันและเป็นจุดเริ่มต้นของการออกพระราชบัญญัติการใช้กำลังบีบบังคับอาณานิคม

ใน ค.ศ. 1774จึงเป็นเหตุที่มา ของการเริ่มต้น สงครามปฏิวัติอเมริกา  จนในที่สุด อเมริกา

ก็สามารถประกาศอิสรภาพได้ในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776 ที่เมืองฟิลาเดเฟีย

(วอชิงตัน ดี.ซี. ในปัจจุบัน) เกิดประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนแรกคือ จอร์จ วอชิงตัน

และการที่คนฝรั่งเศสเข้าช่วยอเมริกานี้เอง ทำให้ทหารที่เข้ามาร่วมรบในสงครามปฏิวัติ-

อเมริกา ได้ซึบซับแนวคิด วิธีการและความต้องการอิสรภาพของชาวอเมริกันทั้งมวล

เข้าไว้ จึงส่งผลเป็นแรงผลักดันไปจนเกิดการปฏิวัติในฝรั่งเศส และด้วยสภาพเศรษฐกิจ

ที่ย่ำแย่สถาบันกษัตริย์ที่อ่อนแอ ทำให้ฝรั่งเศสได้เข้าสู่การปฏิวัติฝรั่งเศสจนกลายเป็น

แรงผลักและดันให้เกิดการปฏิวัติไปทั่วทั้งทวีปยุโรปในเวลาต่อมาอีกด้วย






ราชวงศ์สุดท้ายของ เวียดนาม จีน พม่า ลาว



ราชวงศ์สุดท้ายของ เวียดนาม จีน พม่า ลาว

ราชวงศ์สุดท้ายของ เวียดนาม จีน พม่า ลาว

มาดูเรื่องประวัติศาสตร์กันบ้างครับ ไว้เป็นความรู้รอบตัวกันนะจ๊ะ เรื่องราชวงศ์สุดท้าย

ของแต่ละประเทศ อย่าง จีน เวียดนาม ลาว และพม่า (เมียนมาร์)


ราชวงศ์สุดท้ายของ เวียดนาม 

  - ราชวงศ์เหงียน จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายคือ จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย จักรพรรดิองค์ที่

13 และพระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์เหงียน ตั้งแต่ พ.ศ. 2469 - พ.ศ. 2488

ทรงอยู่ในความคุ้มครองของฝรั่งเศสในช่วงตกเป็นอาณานิคม และเมื่อญี่ปุ่นขับไล่

ฝรั่งเศสไปในสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นก็เข้าเชิดพระองค์อีกครั้งพระองค์ทรง

สละราชบัลลังก์ในเดือนสิงหาคมเมื่อญี่ปุ่นยอมแพ้สงคราม


ราชวงศ์สุดท้ายของ จีน

  - ราชวงศ์ชิง หรือ ราชวงศ์แมนจู จักรพรรดิองสุดท้ายคือ จักรพรรดิ์ ปูยี (จักรพรรดิผู่อี๋)

จักรพรรดิองค์ที่ 13 ถ้านับ ตัวเอ่อร์กุ่นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในจักรพรรดิซุ่นจื้อ

โดยในช่วงต้นรัชกาลได้สถาปนาตนเองเป็น จักรพรรดิอี้  แต่ถูกถอดจากตำแหน่งในปี

ค.ศ.1651 ราชวงศ์ชิงได้ล่มสลายลงจากการเริ่มต้นด้วยความไม่พอใจในการบริการ

งานของพระนางซูสีไทเฮา ที่คุมอำนาจไว้หลังพระนางและ จักรพรรดิกวางสูสวรรคตใน

พ.ศ. 2451 จึงยิ่งเพิ่มความสั่นคลอนขึ้นเพราะ ผู่อี๋ โอรสขององค์ชายชุนที่ 2 ได้รับ

การอภิเษกให้เป็นจักรพรรดิองค์ต่อไปตั้งแต่พระชนมายุเพียง 2 ชันษา เท่านั้น

โดยให้พระราชบิดาเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ต่อมา นายพลหยวน ซื่อไข่ ถูกปลด

ออกจากตำแหน่งทางทหาร ทรงตั้งคณะรัฐมนตรีหลวงโดยให้พระญาติทั้งหมด

อยู่ในคณะนี้ซึ่งสร้างคงามไม่พอใจให้เหล่าขุนนาง ข้าราชการชั้นสูงตามไปด้วย

ในวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2454 ได้เกิดจลาจลอู่จางขึ้น และต่อมา นายพลซุน ยัดเซ็น

ได้ประกาศก่อตั้งรัฐบาลของตนขึ้นใหม่ ในนามสาธารณรัฐจีน ที่เมืองนานกิง

บรรดาหัวเมืองจึงตีห่างออกจากราชวงศ์ชิง เป็นการปฏิวัติซินไฮ่ ทำให้ฝ่ายชิง

เรียกนายพล หยวน ซื่อไข่ ที่เคยปลดไปเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์แต่จนแล้วจนรอด

นายพล หยวนก็บอกให้องค์ชายชุนลงจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการ ตามคำแนะนำ

ของสมเด็จพระพันปีหลวงหรงยู่พระอัครมเหสีในจักรพรรดิกวางซวี หลังจากนั้น

หยวน ซื่อไข่ ก็กุมอำนาจเด็ดขาดในรัฐบาลชิง ไว้หมด จีนจึงกลายมาเป็น 2 ขั้วทันที

ขั้นของราชวงศ์ชิง รัฐบาลหยวน นำโดย หยวน ซื่อไข่ และ ขั้วรัฐบาลสาธารณรัฐ

ของ ซุน ยัดเซ็นแต่ด้วยความที่ หยวน ซื่อไข่ไม่ต้องการทำสงครามกับ ซุน ยัดเซ็น

เพราะสิ้นเปลือง ทั้งคู่เลยตกลงเจรจาหาทางออกกันจบกันได้ที่ พระพันปีหลวง

หลงยู่เป็นผู้ลงพระนามาภิไธยใน


"พระบรมราชโองการสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ชิง

จักรพรรดิ์ ปูยี เป็นจักรพรรดิ์องค์สุดท้าย และเป็นราชวงศ์สุดท้ายก่อนสถาปนา

เป็นระบบสาธารณรัฐ เป็นราชวงศ์ของ เผ่าแมนจูเลีย


ราชวงศ์สุดท้ายของ พม่า

  - ราชวงศ์สุดท้ายคือ : ราชวงศ์คองบอง  กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของพม่า คือ

พระเจ้าธีบอ พระเจ้าธีบอถูกบังคับให้สละราชสมบัติและประกาศยกเลิกระบอบ

กษัตริย์ในพม่า  และองักฤษ ได้นำพระองค์ไปประทับที่รัตนคีรี ประเทศอินเดีย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> กษัตริย์ และ ราชวงศ์สุดท้ายของพม่า *

และ รายพระนาม กษัตริย์พม่าราชวงศ์คองบอง


ราชวงศ์สุดท้ายของ ลาว

  - ราชวงศ์ล้านช้างหลวงพระบาง  กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของลาว คือสมเด็จพระเจ้า

ศรีสว่างวัฒนา มีพระนามเต็มว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าเชษฐาขัติยวงศา พระมหา

ศรีสว่างวัฒนา

เมื่อ พรรคประชาชนปฏิวัติลาวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียตรวมถึง

คอมมิวนิสต์ในเวียดนามโดยการนำของ เจ้าสุภานุวงศ์ ก็สามารถทำการล้มล้างรัฐบาล

ประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของเจ้ามหาชีวิตสว่างวัฒนา ซึ่งได้รับ

การสนับสนุนจากฝั่งรัฐบาลฝรั่งเศส (เจ้าอาณานิคมเก่า)และสหรัฐอเมริกา

(ผู้ต่อต้านคอมมิวนิสต์) ได้สำเร็จ

จึงนำเจ้ามหาชีวิตและมเหสีไปคุมขังในค่ายกักกันจนสิ้นพระชนม์ และทำการสถาปนา

ประเทศลาวเป็น  "สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว" ขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.

2518

พระโอรสของพระองค์เจ้าฟ้าชายมงกุฎราชกุมารวงศ์สว่างเป็นผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์

ลาวถัดจากพระราชบิดา แต่หลังจากประเทศลาวเป็นคอมมิวนิสต์แล้ว พระองค์ถูกจับไป

เข้าค่ายสัมมนาที่เมืองเวียงไซ แขวงหัวพัน และเสียชีวิตในค่ายสัมมนา  ( ค่ายกักกัน )

โดยผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ลาวคือ เจ้าสุลิวงศ์ สว่าง เป็นพระราชนัดดาใน พระบาท

สมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา  เจ้ามหาชีวิตองค์สุดท้ายแห่งพระราชอาณาจักรลาว

ทรงเป็นผู้อ้างสิทธิในพระราชบัลลังก์ลาว ปัจจุบันประทับในฐานะผู้ลี้ภัย ณ กรุงปารีส

สาธารณรัฐฝรั่งเศส






ต้มไข่กี่นาทีสุก และ ต้มไข่กี่นาทีเป็นยางมะตูม




ต้มไข่กี่นาที ต้มไข่กี่นาทีเป็นยางมะตูม


   เรื่องของไข่ต้ม วันนี้ถือว่าเอามาเป็นเรื่องความรู้รอบตัวกันนิดหน่อยเอาไว้เวลา

ต้มไข่กินกันครับผม


ต้มไข่กี่นาทีสุก 

= โดยหลักแล้วการต้มไข่จะอยู่ใน ระยะเวลาประมาณ 8 - 10 นาทีในน้ำเดือด ( ข้อควรระวัง 

อย่าเปิดไฟแรง และค่อยๆใส่ไข่ลงเอาช้าๆ ) เพราะทั้งไฟที่แรง และการหย่อนไข่ลงไปแรงๆ

จะทำให้ไข่ปริแตกละเลอะเทอะไม่น่ากิน มาดูกันดีกว่าว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการทำไข่

แต่ละประเภท


ไข่เหลว (ลาวา) แบบที่ไม่สุกทั้งไข่แดงขาวยังเหลวๆ อยู่ ใช้เวลา 2 นาที

ในน้ำเดือด


ไข่ลวก ใช้เวลาในน้ำเดือดประมาณ 3-4 นาที ก็จะได้ไข่ลวกไว้กินอร่อยๆ


ไข่มะตูม  จัดไปเลย ต้มอยู่ในน้ำเดือดประมาณ  5-6 นาที ถ้าเกินนั้นมานิดนึง

ไข่แดงจะเริ่มสุก ถ้าไม่เกิน 8 นาทีก็ยังพอเรียกไข่มะตูมได้ แต่ก็ใกล้จะสุกเกินไป

แล้วแหละ


ไข่ต้มสุก เริ่มจาก 8 นาทีขึ้นไปจนถึง 10 นาที ตามนั้นจ่ะ


และข้อควรระวังในการต้มไข่คือ อย่าใส่ลงไปแรง และอย่าเปิดไฟต้มแรงเกินไป

พอน้ำเริ่มเดือดก็ใส่ไข่ลงไปได้เลย หรือท่านใดที่จะใส่ลงไปตอนตั้งหม้อต้มเลยก็

+ เพิ่มไป อีก 1-2 นาทีทุกกระบวนการจ้า


บางคนใช้วิธี ต้มไข่ใน้ำเดือด 8 นาที แล้วรีบยก ขึ้นมาน็อคในน้ำเย็นจะได้ไข่มะตูม

แสนสวย ยังไงก็ลองทำกันดูนะครับ


เคล็ด ตอนใส่ไข่ลงไปแรกๆ ให้คน วนเบาๆซักพัก เพื่อให้ไข่แดงอยู่ตรงกลาง

อะยังไงแบบไหนลองดูครับ





คำนิยามของคำว่า " เคยดูบอลหรือเปล่า ? "




คำนิยามของคำว่า " เคยดูบอลหรือเปล่า ? "

  ทำไมเวลาถามเรื่องฟุตบอล ถึงชอบตอบว่า "เคยดูบอลหรือเปล่า?"  ทำไมคำนี้ถึงพูด

ใช้แสดงความเห็นแบบโดดๆ โดยไม่มีคำอธิบายอะไรในตัวมันเลย มักจะมีคำนี้ออกมาใน

ทางที่โต้แย้งหรือถกเถียงกัน วันนี้ลองมานิยามกันดูว่าคำนี้มีความหมาย และภาพรวม

ของมันไปในทางไหนได้บ้าง เอาไว้เป็นความรู้รอบตัว*กันครับอยู่ในหมวดของ ภาษาน่ารู้*

แล้วกันนะครับ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตีความหมายและภาษา


1. เคยดูบอลหรือเปล่า : คือความมหายตรๆเลยว่าเคยดุบอลไหม ถามแบบ นิยามดีๆ

(แต่นิยามแบบนี้มีน้อย)


2. ความเห็นต่างไม่เห็นด้วย : คือคนที่ถูกถามอาจแสดงความเห็นแล้วคนถามไม่

เห็นด้วย อย่างแรงเลยถามแบบนั้นออกไปเพื่อเป็นการกระทบกระแทกโต้ตอบ


3. ดูบอลเป็นหรือเปล่า : คือบางครั้ง กติกาฟุตอลมันมีมากและต้องทำความเข้าใจ

มากกว่าที่เห็น อย่างโดนทำฟาล์ว แต่กรรมการไม่เป่าเพราะเป็นลูกได้เปรียบ

แต่นายเอ โวยวายไม่รู้เรื่อง นายบีเลยถามด้วยความรำคาญว่า ดูบอลเป็นรึเปล่า


4. คนไม่เคยดูบอลสินะ : ถึงได้แสดงความเห้นแบบนี้ออกมา (น่าจะเป็นความคิดเห็น

หรือพูดออกมาจากคนที่ไม่มีความรู้ ซึ่งมีหรือไม่มีอยู่ที่คนฟังว่าจะคิดเช่นไร)แต่ไม่

สามารถบอกได้ว่าคนพูดนั้น รู้เรื่องจริงหรือไม่ เพราะถ้าคนพูด พูดในเหตุผลที่เหมาะสม

แต่ไม่เข้าหูคนฟัง อันนี้ก็อยู่ที่วิจารณญาณของคนฟังเองที่จะตัดสิน ไม่มีใครผิด


5. คำตอบเท่ๆ : ตอบแบบกำปั้นทุบดินเท่ๆ แล้วไม่อธิบายต่อ เอาไว้ข่มผู้อื่น


6. เหยียดหยามดูถูก : ตามนั้น ทำเท่ดูถูก


7. คำถามเพื่อโชว์ภูมิไว้ข่มผู้อื่น : โชว์ภูมิว่าเอ้ยเอ้งดูบอลเป็นเปล่าวะ ไม่ได้เรื่อง

บลาๆๆๆ


8. ถ้าเคยดูจะไม่พูดแบบนี้ : คือคนพูดอาจจะพูดอะไรที่ไร้ซึ้งสาระมากจนทำให้

คนฟังถามแบบนี้ออกมา เพราะที่พูดมาอาจไม่เข้าเรื่องเข้าราวอย่างแรง


เลยต้องถามจี้จุดใจดำว่า เคยดูบอลหรือเปล่า ที่ปากพ่นๆออกมาแต่ละคำหนะ

เคยดูไหม ถามจริง (อะไรทำนองนี้) เช่นทีมชาติไทยชุด AFF*ทำไม ไม่เอากองหลังดีๆ

มาเล่นแทนธนบูรณ์ บลาๆ (ในเมื่อหลังเจ็บและเปลี่ยนผู้เล่นในทัวร์นาเม้นท์ไม่ได้)

จะให้ไปเอากองหลังจากไหนมาเพิ่ม








10 เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก




10 เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก

  หากไม่นับพื้นทวีป แล้ว วันนี้เราจะมาหากันว่า 10เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้น มีเกาะ

อะไรกันบ้าง (ไม่ใช่เกาะแน่นๆหน่อยนะน้องนะ แน่นอน)รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแแบกหามครับ

ฮ่าๆ ความรู้รอบตัว* อะนะ จัดไป


1. เกาะกรีนแลนด์ : Greenland มีพื้นที่  2,130,800 ตารางกิโลเมตร หรือ 822,706

ตารางไมล์ เป็นดินแดนทางเหนือสุดของโลก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอาร์กติกและเป็นเกาะ

ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อบู่ในฐานะของดินแดนปกครองตนเองของประเทศเดนมาร์ก

น่าจะเหมือนเขตปกครองตนเองของจีน * สถานะเดียวกัน


2. เกาะนิวกินี : New Guinea Island มีพื้นที่  785,753  หรือ 303,381  ตารางไมล์

ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศออสเตรเลีย เป็นที่ตั้งของจังหวัดปาปัวและจังหวัด

ปาปัวตะวันตก ของประเทศอินโดนีเซีย ส่วนฝั่งตะวันออกเป็นที่ตั้งของ แผ่นดิน

ใหญ่ของรัฐเอกราชปาปัวนิวกินี


3. เกาะบอร์เนียว : Borneo Island  มีพื้นที่  748,168  หรือ 288,869  ตารางไมล์

เป็นเกาะใหญ่ที่เป็นที่ตั้งของทั้ง 3 ประเทศคือ  มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย อยู่บริเวณ

ใจกลางกลุ่มเกาะมลายู  มีทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมากที่สุดในเอเชียตะวัน

ออกเฉียงใต้ (อาเซียน)


4. เกาะมาดากัสการ์ : Madagascar Island มีพื้นที่  587,713 หรือ 226,917

ตารางไมล์  เกาะมาดากัสการ์ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปแอฟริกาบนมหาสมุทร

อินเดีย มีช่องแคบโมซัมบิกคั่นระหว่างเกาะกับฝั่งทวีปแอฟริกาห่างกันเพียง 300 ไมล์

มีขนาดใหญ่กว่าประเทศไทยและประเทศสเปนอยู่เล็กน้อย


5. เกาะแบฟฟิน : Baffin Island มีพื้นที่ 507,451 หรือ 195,928 ตารางไมล์ เป็น

เกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแคนาดา และเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของ

โลกอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะกรีนแลนด์ ติดกับอ่าวแบฟฟิน ,คาบสมุทร

คัมเบอร์แลนด์


6. เกาะสุมาตรา : Sumatra มีพื้นที่ 443,066 หรือ 171,069 ตารางไมล์ เป็นเกาะ

ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอินโดนีเซีย เกาะใหญ่ที่สุดของอินโดเกือบเท่าทั้งประเทศ

ไทยเลยนะเนี้ย (ข้อมูล ขนาดพื้นที่ประเทศอาเซียน*) กลุ่มเกาะหมู่เกาะซุนดาใหญ่

พื้นที่นี้มีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่ออินโดนีเซียเป็นอย่างมาก ทั้งทรัยากรทาง

ธรรมชาติ เช่นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ ป่าชื้นเขตร้อน

หลายชนิดอย่างเช่น  ลิงอุรังอุตัง สมเสร็จ และ เสือสุมาตรา


7. เกาะฮอนชู : Honshu มีพื้นที่ 225,800 หรือ 87,182 ตารางไมล์ เกาะที่ใหญ่ที่สุด

ของประเทศญี่ปุ่น  เกาะตรงกลางของประเทศ มีพื้นที่คิดเป็น ร้อยละ60ของประเทศ

ทั้งหมด เป็นเกาะที่มีประชากรหนาแน่นแห่งนึงของโลก ตามดูได้ที่

 >> อันดับประชากรเยอะที่สุดในโลก* จะเห็นว่า ญี่ปุ่นติดอยู่ด้วยและเกาะฮอนชู

นั้นเป็นเกาะตรงกลางประเทศย่อมเป็นที่อยู่อาศัยที่หนาแน่นจากประชาการกว่า 130

ล้านคนแน่นอน


8. เกาะเกรตบริเตน หรือ บริเตนใหญ่ : Great Britain มีพื้นที่ 218,595 หรือ

84,400 ตารางไมล์ เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะบริเตน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียง

เหนือของภาคพื้นทวีปยุโรป มีเกาะไอร์แลนด์ตั้งอยู่ทางตะวันตก เกาะบริเตนใหญ่

เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป  เป็นที่ตั้งของอังกฤษ สกอตแลนด์ และเวลส์


9. เกาะวิกตอเรีย : Victoria Island มีพื้นที่ 217,291 หรือ 83,897 ตารางไมล์

เป็นเกาะของประเทศแคนาดา


10. เกาะเอลสเมียร์ : Ellesmere Island มีพื้นที่ 196,236 หรือ 75,767 ตารางไมล์

เป็นเกาะของประเทศแคนาดา ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอาร์กติกใหญ่เป็นอันดับสามของ

ประเทศแคนาดา รองจากเกาะ วิคตอเรีย และ แบฟฟิน


ใน 10 เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก มี 4 เกาะอยู่ในทวีปเอเชีย โดยมีประเทศอินโดนีเซีย

ติดมาถึง 3 เลยทีเดียว โดยมีเกาะจากยูฏปรมากที่สุดคือ 5 มีแคนาดา ติดมา 3เกาะ

ส่วน เกาะมาดากัสการ์ นั้นคือชาติเกาะในมหาสมุทรอินเดีย ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทาง

ตะวันออกของแอฟริกา





พายุดีเปรสชั่น คือ




พายุ ดีเปรสชั่น คือ

   พายุ ดีเปรสชั่น คือ  พายุดีเปรสชัน (Depression Storm) คือ

พายุหมุนเขตร้อนประเภทหนึ่งที่มีความเร็วที่จุดศูนย์กลางไม่สูงมากนัก ความเร็วลม

ไม่เกิน 61 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความรุนแรงที่ไม่สูงมากนัก โดยมีความเร็วของ

พายุ ดีเปรสชั่น นั้น น้อยกว่าพายุโซนร้อน ที่มีความเร็วตั้งแต่ 62- 117 กิโลกรัม

เอ้ย กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแน่นอนว่า น้อยกว่าพายุไต้ฝุ่น พายุไต้ฝุ่น เป็นพายุ

หมุนเขตร้อนความเร็วลมสูงสุด ที่มีความเร็วตั้งแต่ 118 กิโมเมตรต่อชั่วโมงชึ้นไป

พายุดีเปรสชั่น เป็นพายุที่อ่อนกำลังที่สุดแล้วในบรรดาพายุที่มีชื่อเรียกทั้งหลายแหล่

และเป็นพายุที่มีโอกาศทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองกระจาย ได้บ่อยครั้งแต่ไม่ค่อยเป็น

อันตรายมากนักเพราะความเร็วลมนั้นมีน้อยกว่าพายุชนิดอื่น ถึงไม่เป็นอันตรายแต่มัน

ก็สามารถสร้างความเสียหายให้บ้านเรือนต้นไม้ เสาไฟ เอ้อ ตกลงมันอันตรายไม่ล่ะ

เอาเป็นว่าขึ้นชื่อว่าพายุก็อย่าไปไว้ใจมันเลยจ้า ด้วยว่ามันเป้นพายุเลยมีลมกรรโชกแรง

ฝนตกหนักและอาจทำให้น้ำท่วมฉับพลันได้อีกด้วย

       ซึ่งแน่นอนสามารถทำให้เกิดฝนตกติดต่อกันหลายวัน ดินโคลนถล่ม น้ำท่วม

ดินไสลด์ อะไรทำนองนี้สรุปคือไว้ใจไม่ได้นั่นแหละ ถ้าเกิดใกล้ชายฝั่งก็จะสงบ

สลายตัวไปในไม่นานกว่า 1 สัปดาห์ แต่ถ้าเกิดในทะเลไกลออกไปจากชายฝั่งเยอะๆ

อาจจะเพิ่มแรงกดอากาศ และพายุอื่นๆที่อยู่ใกล้เข้ามาร่วมก่อตัวกลายเป็นพายุ

โซนร้อนและพายุใต้ฝุ่นได้เช่นเดียวกัน ซึ่งนั้นจะโหดและแรงกว่าพายุดีเปรสชั่น

เลยทีเดียว




Area51 คือ (แอเรีย 51)




Area51 คือ (แอเรีย 51)

  Area51 เป็นชื่อเรียกของฐานทัพที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐเนวาดาในสหรัฐอเมริกา

ตะวันตก ห่างจากดาวน์ทาวน์ในลาสเวกัส 83 ไมล์ เชื่อกันว่าเป็นฐานทัพลับที่มีการ

ป้องกันแน่นหนา และยากที่จะมีสิ่งใดเล็ดรอดเข้าไปได้ของ สหรัฐอเมริกา และไม่มี

ใครรรู้ว่ามันซุกซ่อนอะไรเอาไว้ถึงต้องมีการป้องกันอย่างแน่นหนา ขนาดนั้นแบบสุดๆ

เลยก็ว่าได้ มีข้อสงสัยว่า อาจจะเป้นที่เก็บซากมนุษย์ต่างดาว ภารกิจทางทหาร

การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ ความลับทางอวกาศ เช่น ทดลองยานอวกาศ การลงจอด

ของยานอะไรทำนองนั้น   ในบริเวณพื้นที่มีฐานทัพบินลับขนาดมหึมา มีจุดประสงค์

เพื่อสนับสนุนและต่อยอดการพัฒนาและทดสอบอากาศยานและระบบอาวุธ ซึ่งไม่มี

ใครสามารถบอกได้เลย เพราะมันเป็นความลับอย่างมาก อาจจะมีมนุษย์ต่างดาว

อาวุธที่ทันสมัย เทคโนโลยี ระดับไฮเทคสุดๆ การทดลองทงการทหาร หรืออะไรก็

ไม่สามารถทราบได้มีเพียงแต่ข่าวลือเรื่อง นั้นเรื่องยนี้อยู่ตลอดสำหรับฐานทัพแห่งนี้

อเมริกามี รัฐของสหรัฐอเมริกา* อยู่ 50 รัฐ พื้นที่นี้แตกต่างออกไป อยู่ในพื้นที่เขต

ทะเลทรายอันห่างไกล จึงเรียกว่า Area51 เหมือนรัฐที่ 51 ที่มีข้อมูลออกมาน้อยๆ

มากๆเป็นที่รู้จักทั่วโลกแต่แทบไม่มีใครรู้เลยว่าทำอะไร และอย่างไร เนื่องจาก

ข้อมูลต่างๆมักไม่ออกมาเลยว่าทำอะไร เพราะถูกปิดเป็นความลับทำให้มีคนสงสัย

ว่าอาจจะเป้นที่ทดลองอาวุธร้ายแรงหรือ ที่ที่ใช้สำรวจและเก็บ UFO และมนุษย์

ต่างดาวก็เป็นได้





ประชากรอาเซียน มีกี่คน




ประชากรอาเซียน มีกี่คน


พูดถึงประชาคมอาเซียน*ก็ทำให้อยากรู้ว่า ประเทศทั้ง 10 ประเทศในอาเซียนนั้น

มีประชากรเท่าไหร่กันบ้าง อันนี้เราพอจะรู้แล้วจากบทความ


 -- > ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในอาเซียน  ว่าประเทศอะไรมีประชากรประมาณ

เท่าไหร่ต้องใช้คำว่าประมาณนะครับ มาลองรวมๆกันดูเลยจ้า อะนี่ข้อมูล

>> จำนวนประชากรแต่ละประเทศอาเซียน


1.อินโดนีเซีย ประมาณ 251 ล้านคน = 251  ล้านคน


2.ฟิลิปปินส์ ประมาณ 105 ล้านคน +105 = 356  ล้านคน


3.เวียดนาม ประมาณ 92 ล้านคน + 92 = 448  ล้านคน


4.ไทย ประมาณ 67 ล้านคน + 67 = 515  ล้านคน


5.พม่า ประมาณ 55 ล้านคน +55 = 570  ล้านคน


6. มาเลเซีย ประมาณ 30 ล้านคน + 29 = 600  ล้านคน


7.กัมพูชา ประมาณ15 ล้านคน + 15 = 615  ล้านคน


8.ลาว ประมาณ 7 ล้านคน + 7 = 622 ล้านคน


9.สิงคโปร์ ประมาณ 5 ล้านคน + 5 = 627  ล้านคน


10.บรูไน ดารุสซาลาม ประมาณ 420,000 คน ตีตรงๆว่า 5 แสน


ประชากรอาเซียน ก็เท่ากับ 627.5 ล้านคน


ถ้าจะรวมว่า ประชากรอาเซียน + 3 +6 มีจํานวน*  เท่าไหร่ยังไงก็+ ประเทศที่

+ 3+6  เข้าไปนะครับ คลิ๊กได้ที่ลิ้งตัวหนาเลย ตัวเลขทั้งหมดคือ 627.5 ล้านคน

สำหรับอาเซียน ซึ่งเป็นตัวเลขคร่าวๆข้อมูลอาจจะเก่า แต่แน่นอนคืออยู่ในหลัก

600 - 700 ล้านคน (ยังไม่ได้ครึ่งนึงของประชากรจีนเลยแหะ 55+)  จีนพื้นที่เยอะ

เขตการปกครองจีน* ก็เยอะประชากรเลยมากเป็นธรรมดาอะนะตามนั้น เหมือน

อินเดียไรด้วยเยอะพื้นที่ก็เยอะ คนก็แน่น