สัญญาปางหลวง
การประชุมปางหลวงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่พม่า ไทใหญ่ ชิน กะฉิ่น ที่เป็นผลสืบเนื่อง
มาจากการประชุมปางหลวงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อต่อรองขอเอกราชจากอังกฤษ
ซึ่งดินแดนต่างๆทั้งหมด เป็นกลุ่มรัฐอิสระต่อกันที่อังกฤษรวบรวมกันไว้ เช่น พม่า คะฉิ่น
กลุ่มไทใหญ่รัฐมอญ คะยา กะเหรี่ยง และฉาน ซึ่งเป็นต่างกลุ่มต่างเหล่ากันมาก่อน เพื่อขอ
เอกราชจากอังกฤษนำโดย ออง ซาน มีข้อตกลงกันว่ารวมตัวกันก่อนเพื่อตกลงขอแยกตัว
เป็นเอกราชจากอังกฤษ แล้วอยู่รวมกัน 10 ปี จึงค่อยแยกตัวกันไปปกครองตนเองกันอิสระ
หลังการประชุมครั้งนี้ ในวันที่ 7 ก.พ. 2490 ตัวแทนฝ่าย ชนกลุ่มน้อยและรัฐต่างๆต่อรอง
กับฝ่ายพม่าพร้อมกับตัวแทนฝ่านรัฐบาลอังกฤษเข้าร่วมประชุมเมื่อ 10 ก.พ. เพื่อเจรจากับ
ตัวแทนสภาสูงสุดแห่งประชาชนชาวเขา(ชนกลุ่มน้อยและรัฐต่างๆ)จนเป็นที่มาของการ
ลงนามในสนธิสัญญาของ บรรดาเจ้าฟ้าไทยใหญ่ และตัวแทนจากรัฐต่าง ๆ จึงได้ร่วม
ลงนามในหนังสือสัญญาปางหลวงเมื่อ 12 ก.พ. 2490
สาระสำคัญของ สนธิสัญญา ปางหลวง
- ตัวแทนของชาวเขา จะได้รับการแต่งตั้ง เป็นที่ปรึกษาข้าหลวงเกี่ยวกับพื้นที่ของรัฐ
ชายแดน
- สมาชิกสภาสูงสุดแห่งประชาชนชาวเขา ต้องทำงานร่วมกับคณะกรรมการบริหาร
เฉพาะด้าน ที่เกี่ยวกับการป้องกันประเทศและกิจการต่างประเทศ
- ที่ปรึกษาข้าหลวงและผู้ช่วยที่ปรึกษา มีหน้าที่รับผิดชอบดินแดนของตนเองดูแลพื้นที่
ของตัวเอง
- ประชากรในรัฐชายแดนมีสิทธิเท่ากับประชากรในประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ
- การดำเนินงานตามสนธิสัญญาต้องไม่ละเมิดสิทธิทางการคลังของรัฐฉาน รัฐชิน และ
รัฐกะฉิ่น
ข้อตกลงในการถอนตัวเป็นอิสระ
ในระหว่างการจัดทำรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้เพื่อตั้งสหพันธรัฐพม่า อย่างจริงจังนั้น กลุ่มคน
ที่ไม่ต้องการให้รัฐต่างๆแยกตัวปกครองกันเองนั้นได้ลอบสังหารอองซานและที่ปรึกษา
คนอื่นเสียชีวิต เมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 ทำให้ร่างของรัฐธรรมนูญต่างๆนั้นที่เตรียม
การจะจัดแบ่งการปกครองกันต้องผิดแผนไป แต่เพื่อให้เกิดความสงบขึ้นจึงได้มีข้อตกลง
กันอย่างเช่น
- อยู่รวมกันก่อน ต้องผ่านไป 10 ปีจึงถอนตัวได้
- จะต้องได้รับความเห็นชอบด้วยเสียง 2 ใน 3 ของสภาแห่งรัฐ (State Counil)
- ผู้นำของรัฐต้องแจ้งให้ผู้นำของสหภาพทราบเพื่อดำเนินการลงประชามติในขณะที่
ร่างรัฐธรรมนูญมีเพียงรัฐฉานกับรัฐกะยาเท่านั้นที่มีสิทธิถอนตัว รัฐกะฉิ่นกับรัฐกะเหรี่ยง
ปฏิเสธการเข้าร่วมแต่แรกส่วนรัฐชินถูกกำหนดให้เป็นเขตปกครองพิเศษจึงไม่มีสถานะ
เป็นรัฐตามรัฐธรรมนูญนี้
- รัฐที่มิได้ใช้สิทธิถอนตัวเท่านั้น ที่ยังคงสามารถใช้สิทธิต่างๆที่บัญญัติเอาไว้ได้
ซึ่งในภายหลัง มีการฉีกรัฐธรรมนูญ โดยการเข้ายึดอำนาจโดยนายพลเน วินก่อรัฐ
ประหารขึ้นเสียก่อนเมื่อ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2508 และได้ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญ
จับผู้นำชนกลุ่มน้อยเข้าที่คุมขัง สิทธิในการถอนตัวจึงโดนยกเลิกไปอัติโนมัติ ทำให้
ในพม่าตามขอบชายแดนติดกับไทยและพื้นที่ชนกลุ่มน้อยชาวเขาต่างๆ ยังมีการสู้รบ
การต่อต้านกันอยู่อย่างต่อเนื่อง เป็นปัญหาแบ่งแยกดินแดนที่มีมานานของเมียนมาร์
และดูท่าทางจะจบลงยากเพราะเหมือนเป็นการหักหลังต่อข้อตกลงสัญญาที่มีต่อกัน
โดย ยะไข่เองก็ไม่ชอบพม่ามาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ไทใหญ่เป็นชนที่ต้องการเอกราช
และจัดตั้งประเทศของตัวเองเป็นอย่างมาก แต่จะรวมกันติดหรือไม่อีกเรื่องนึง ชนมอญ
ซึ่งเป็นคู่ปรับตลอดกาลของพม่าก็ไม่อยากจะอยู่ร่วมกันซํกเท่าไหร่ กะเหรี่ยงประกาศตน
มาแต่แรกแล้วว่าเมื่อหลุดจากอังกฤษกะเหรี่ยงต้องเป็นประเทศ แต่ก็โดนควบคุมและ
หักหลังในที่สุด คะฉิ่น ปัจจุบันก็ยังปะทะกับกองทัพพม่าอยู่แต่ละพื้นที่ยังมีความรุนแรง
กันอยู่เรื่อยๆ สาเหตุที่พม่าต้องนำกำลังเข้าควบคุมและมีการฉีกรัฐธรรมนุญเหมือนการ
หักหลังกลุ่มสมาชิกสภาสูงสุดแห่งประชาชนชาวเขา เพราะถ้านับดูแล้วถ้ากลุ่มเหล่านี้
แยกตัวกันหมดประเทศแทบจะเหลือดินแดนไม่มากเลยเสียดินแดนไปเยอะ โดยเฉพาะ
รัฐฉาน คะฉิ่นกะเหรี่ยง ที่อยู่ติดขอบกับศูนย์กลางของพม่าหรือเมียมาร์มากอาจเป็น
อันตรายได้เลยยึดอำนาจรวมตัวกันเป็นสหภาพ ไปแบบนี้อยู่ที่ว่าต่อไปกลุ่มแบ่งแยก
ดินแดนเรียกร้องสิทธิการปกครองจะสามารถสู้กับรัฐบาลกลางได้หรือไม่เท่านั้นเอง
นับเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของพม่า ที่มีการยกเลิกการแยกตัวเพื่อรวมเป็นชาติใน
ปัจจุบันส่งผลให้เกิดการสู้รบกับชนกลุ่มน้อยมากมาย ไม่จบไม่สิ้น
เกร็ดความรู้ ผู้ลงนามในสัญญาปางหลวงได้แก่
- ฝ่ายพม่า อองซาน
- ฝ่ายคะฉิ่น
1. สะมาตูวาสิ่นวาหน่อง(ตัวแทนจากเมือง มิดจีนา )
2. ตูวาจ่อริด(ตัวแทนจากเมือง มิดจีนา )
3. เต่งระต่าน(ตัวแทนจากเมือง มิดจีนา )
4. ตูวาเจ๊าะลุน(ตัวแทนจากเมือง บ้านหม้อ )
5. ละป่านกะหร่อง(ตัวแทนจากเมือง บ้านหม้อ )
- ฝ่ายไทใหญ่ ประกอบด้วย
1. เจ้าขุนปานจิ่ง(เจ้าฟ้า น้ำสั่น )
2. เจ้าส่วยแต๊ก( เจ้าฟ้า ย่องฮ่วย )
3. เจ้าห่มฟ้า( เจ้าฟ้า แสนหวีเหนือ )
4. เจ้าหนุ่ม( เจ้าฟ้า ลายค่า )
5. เจ้าจ่ามทุน( เจ้าฟ้า เมืองป๋อน )
6. เจ้าทุนเอ( เจ้าฟ้า ส่าเมืองคำ )
7. อูผิ่ว( ตัวแทนจากเมือง สี่แส่ง )
8. ขุนพง( ตัวแทนนักศึกษากลุ่มเพื่อเอกราชรัฐฉาน )
9. ติ่นเอ( ตัวแทนนักศึกษากลุ่มเพื่อเอกราชรัฐฉาน )
10. เกี่ยปุ๊( ตัวแทนนักศึกษากลุ่ม เพื่อเอกราชรัฐฉาน )
11. เจ้าเหยียบฟ้า( ตัวแทนนักศึกษากลุ่มเพื่อเอกราชรัฐฉาน )
12. ทุนมิ้น ( ตัวแทนนักศึกษากลุ่มเพื่อเอกราชรัฐฉาน )
13. ขุนจอ ( ตัวแทนนักศึกษากลุ่มเพื่อเอกราชรัฐฉาน )
14. ขุนที ( ตัวแทนนักศึกษากลุ่มเพื่อเอกราชรัฐฉาน
ฝ่ายชิน
1. ลัวะมง(ตัวแทนจากเมือง กะลาน )
2. อ่องจ่าคบ(ตัวแทนจากเมือง ต๊ะเต่ง )
3. กี่โหย่มาน(ตัวแทนจากเมือง ฮาคา )