โฆษณาและโปรโมทสินค้า
สนใจทั้งที่ผ่านสื่อโทรทัศน์ที่แสนแพงในการเก็บค่าโฆษณาและสื่ออนไลน์ต่างๆ
ที่มีคนนิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากๆ ทำให้คนที่งบน้อยหรือไม่สามารถเข้า
ถึงการโฆษณาในระบบโทรทัศน์นั้นมีทางเลือกมากขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดการชวนเชื่อ
โปรโมทสินค้าอะไรต่างๆนานา มันต้องมีรูปแบบและวิธีการว่ามีอะไรมั่ง
บทความนี้เราจะมานำเสนอ วิธีการโปรโมทและโฆษณาสินค้า แบบพื้นฐานและ
ง่ายๆให้ท่านผู้อ่านได้ลองไปวิเคราะห์ ปรับใช้กับสินค้าและบริการของท่านครับ
1.เข้าใจเป้าหมาย กลุ่มลูกค้า : ต้องเข้าใจและรู้ถึงลักษณะพิเศษส่วนบุคคล
ของเป้าหมายที่เราจะทำการโน้มน้าวหรือกลุ่มเป้าหมาย เช่น
- วัยรุ่นอาจจะล่อใจด้วยความทันสมัย
- คนมีอายุอาจจะใช้ความมั่นคงและเรียบง่ายเข้าสู้
- วัยทำงานอาจจะใช้เรื่องความคุ้มค่าและอนาคตเข้าไปดึงดูดแทน
2.ความน่าเชื่อถือ : การแต่งกาย การนำเสนอ หรือชื่อเสียงของกลุ่มบุคคลหรือ
ผู้พูดมีส่วนสำคัญในการใช้โฆษณา โน้มน้าวจิตใจของผู้คนได้เช่น
- ใช้ดาราสวยๆขายโปรโมทขายสินค้าความสวยความงาม
- ใช้นักกีฬาดังๆที่ประสบความสำเร็จมาโฆษณาอุปกรณ์กีฬาหรือยาที่
เกี่ยวกับกีฬา
3.การนำเสนอ : พยายามอย่านำเสนอโดยชี้ประเด็นให้คนบางส่วนไม่พอใจ
หมายถึงการกล่าวหา อ้างอิง พูดถึงบุคคลหรือ คนอื่น ให้เสื่อมเสียเพราะมีโอกาศ
ที่ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าและบริการของคุณ ถูกมองไปในแง่ลบของคนกลุ่มนั้นและ
อาจจะมีการเอาเรื่องหรือโฆษณาชวนเชื่อเผื่อทำลายสินค้าและบริการของคุณ
ทำให้เสียชื่อเสียงได้
4.สร้างประโยคเด็ด : ประโยคคำพูด ที่ทำให้คนสนใจและเป็นเหมือนคำคมใน
สินค้าเราให้คนจดจำและชอบ เป็นเหมือนสโลแกนของสินค้าคุณคนจะได้ติดตาม
และนึกถึง เช่น
5.ภาพลักษณ์ : มันเหมือนจะคล้ายกับความน่าเชื่อถือแต่ไม่ใช่ครับ ภาพลักษณ์
ในที่นี้หมายถึง ภาพลัษณ์ รูปแบบ และลักษณะของสินค้าและบริการของเรา
หีบห่อบรรจุภัณฑ์ สถานที่จำหน่าย ความน่าสนใจ ไอเดียของการบรรจุสินค้าทั้ง
หลาย หรือถ้าเป็นการโฆษณา สถานที่เช่น ร้านอาหาร โรงแรม อะไรจำพวกนี้ก็
ต้องนำเสนอจุดเด่นในการขายเช่น โรงแรม 5 ดาว ได้รับมาตราฐาน ร้านค้าร้าน
อาหารก็ต้องอร่อย สะอาด ดูดีในสายตาคนทั่วไปแลดูน่าใช้บริการอย่าดีแค่
โฆษณาชวนเชื่อ เพราะถ้าทั้งโปรโมทดีและคุณภาพดีคุณจะได้ลูกค้าประจำพร้อม
การบอกต่อปากต่อปาก
6.ปากต่อปาก : อะปูเรื่องมาจากหัวข้อที่แล้ว เรื่องการพูดต่อกันปากต่อปากถ้า
คุณให้บริการที่ดีมีประสิทธิภาพได้มาตราฐาน ก็จะได้การโปรโมทโฆษณาให้ฟรี
และในด้านที่ดีบอกปากต่อปากไปเรื่อยๆ แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ไร้มาตราฐานบริการแย่
สินค้าห่วยไร้ประโยชน์เขาก็จะโฆษณาให้คุณฟรีๆเหมือนกันแต่เป็นด้านลบทีนี้งาน
เข้าแน่นอนภาพลักษณ์ที่พูดถึงในข้อที่ 5 ก็จะเสียตามไปด้วยบางคนก็เก็บข้อมูล
เป็นความรู้รอบตัวเอาไว้บอกต่อคนอื่นได้เช่น เนี้ยมีพี่ที่ทำงานเล่าว่าร้าน ....
บริการห่วยแตก สู้ร้าน .. ไม่ได้เลย ถ้าคุณจะไปกินอาหารผมว่าร้านที่ 2 เหมาะกว่า
เพราะบริการดีกว่าลองไปดู (เห็นไหมครับมีเปรียบเทียบด้วย)
7. ทำให้เป็นกระแส : ส่วนใหญ่จะเป็นในทางที่ดีคนเราทั่วไปฮิตติดกระแสชอบอยู่
แล้วถ้าทำให้สินค้าของเราเป็นที่พูดถึงโดยคนหมู่มากเป็นกระแสสังคม (ในทางที่ดี
ด้วยนะ)ก็จะเป็นการโฆษณาที่ต่อยอดได้มากขึ้นไปอีกทำให้มีคนอยากรู้อยากลอง
ว่ามันจะเป็นอย่างไร
8.รักษามาตราฐาน : ทั้งฮิตติดกระแส ภาพลักษณ์ดี ก็มีการบอกปากต่อปาก
เพราะคุณภาพดี สุดท้ายเลยคือรักษามาตราฐานคุณภาพของตัวเองให้คงที่และจะ
เป็นการดีถ้าทำให้มันมีมาตราฐาน สูงขึ้นไปทั้งสินค้า และงานบริการ จะสามารถ
รักษาฐานลูกค้าเดิมและเพิ่มลูกค้าใหม่ได้เป็นอย่างดีทีเดียว
หวังว่าคงได้สาระอะไรจากบทความชิ้นนี้เพื่อไปใช้ไม่มากก็น้อยนะครับ
- ใช้คุณแม่ที่มีชื่อเสียง (อาจจะเปนดารานักร้อง)มาโฆษณานมผงเด็ก
- ใช้คนที่สังคมเห็นว่าฉลาดและเก่งมาโปรโมทสินค้าอาหารเสริมบำรุง
3.การนำเสนอ : พยายามอย่านำเสนอโดยชี้ประเด็นให้คนบางส่วนไม่พอใจ
หมายถึงการกล่าวหา อ้างอิง พูดถึงบุคคลหรือ คนอื่น ให้เสื่อมเสียเพราะมีโอกาศ
ที่ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าและบริการของคุณ ถูกมองไปในแง่ลบของคนกลุ่มนั้นและ
อาจจะมีการเอาเรื่องหรือโฆษณาชวนเชื่อเผื่อทำลายสินค้าและบริการของคุณ
ทำให้เสียชื่อเสียงได้
4.สร้างประโยคเด็ด : ประโยคคำพูด ที่ทำให้คนสนใจและเป็นเหมือนคำคมใน
สินค้าเราให้คนจดจำและชอบ เป็นเหมือนสโลแกนของสินค้าคุณคนจะได้ติดตาม
และนึกถึง เช่น
- Dtac ง่ายสำหรับคุณ
- โตชิบา นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต
- เบอร์ดี้ 1 ในใจคุณ เป็นต้น
5.ภาพลักษณ์ : มันเหมือนจะคล้ายกับความน่าเชื่อถือแต่ไม่ใช่ครับ ภาพลักษณ์
ในที่นี้หมายถึง ภาพลัษณ์ รูปแบบ และลักษณะของสินค้าและบริการของเรา
หีบห่อบรรจุภัณฑ์ สถานที่จำหน่าย ความน่าสนใจ ไอเดียของการบรรจุสินค้าทั้ง
หลาย หรือถ้าเป็นการโฆษณา สถานที่เช่น ร้านอาหาร โรงแรม อะไรจำพวกนี้ก็
ต้องนำเสนอจุดเด่นในการขายเช่น โรงแรม 5 ดาว ได้รับมาตราฐาน ร้านค้าร้าน
อาหารก็ต้องอร่อย สะอาด ดูดีในสายตาคนทั่วไปแลดูน่าใช้บริการอย่าดีแค่
โฆษณาชวนเชื่อ เพราะถ้าทั้งโปรโมทดีและคุณภาพดีคุณจะได้ลูกค้าประจำพร้อม
การบอกต่อปากต่อปาก
6.ปากต่อปาก : อะปูเรื่องมาจากหัวข้อที่แล้ว เรื่องการพูดต่อกันปากต่อปากถ้า
คุณให้บริการที่ดีมีประสิทธิภาพได้มาตราฐาน ก็จะได้การโปรโมทโฆษณาให้ฟรี
และในด้านที่ดีบอกปากต่อปากไปเรื่อยๆ แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ไร้มาตราฐานบริการแย่
สินค้าห่วยไร้ประโยชน์เขาก็จะโฆษณาให้คุณฟรีๆเหมือนกันแต่เป็นด้านลบทีนี้งาน
เข้าแน่นอนภาพลักษณ์ที่พูดถึงในข้อที่ 5 ก็จะเสียตามไปด้วยบางคนก็เก็บข้อมูล
เป็นความรู้รอบตัวเอาไว้บอกต่อคนอื่นได้เช่น เนี้ยมีพี่ที่ทำงานเล่าว่าร้าน ....
บริการห่วยแตก สู้ร้าน .. ไม่ได้เลย ถ้าคุณจะไปกินอาหารผมว่าร้านที่ 2 เหมาะกว่า
เพราะบริการดีกว่าลองไปดู (เห็นไหมครับมีเปรียบเทียบด้วย)
7. ทำให้เป็นกระแส : ส่วนใหญ่จะเป็นในทางที่ดีคนเราทั่วไปฮิตติดกระแสชอบอยู่
แล้วถ้าทำให้สินค้าของเราเป็นที่พูดถึงโดยคนหมู่มากเป็นกระแสสังคม (ในทางที่ดี
ด้วยนะ)ก็จะเป็นการโฆษณาที่ต่อยอดได้มากขึ้นไปอีกทำให้มีคนอยากรู้อยากลอง
ว่ามันจะเป็นอย่างไร
8.รักษามาตราฐาน : ทั้งฮิตติดกระแส ภาพลักษณ์ดี ก็มีการบอกปากต่อปาก
เพราะคุณภาพดี สุดท้ายเลยคือรักษามาตราฐานคุณภาพของตัวเองให้คงที่และจะ
เป็นการดีถ้าทำให้มันมีมาตราฐาน สูงขึ้นไปทั้งสินค้า และงานบริการ จะสามารถ
รักษาฐานลูกค้าเดิมและเพิ่มลูกค้าใหม่ได้เป็นอย่างดีทีเดียว
หวังว่าคงได้สาระอะไรจากบทความชิ้นนี้เพื่อไปใช้ไม่มากก็น้อยนะครับ
ขอบคุณที่อ่านจบจบจ้า ^_^