ประเภทเรือรบ
ความรู้จักเรือรบลักษณะเรือให้มากขึ้น แนะนำว่าให้เอาชื่อภาษาอังกฤษไปเสิร์ซดูใน
กูเกิ้ล Google อีกทีนะครับ จะได้รูปที่คมชัดและหลากหลายมากกว่า เรือรบประเภท
ไหนก็เอาชื่อภาษาอังกฤษ ไปค้นหาได้เลยครับคมชัด และหลากหลายกว่ามาก
ส่วนเรื่องประเภทเรือรบในวันนี้เราได้พยายามนำความรู้ จากหลายๆเว็บมา
ประกอบกันคร่าวๆ เพื่ออธิบายการใช้งานและประโยชน์ของมันคร่าวๆว่ามีเรือประเภท
ไหนใช้การในทางไหนลักษณะจำเพาะยังไงนิดๆหน่อยๆพอเข้าใจกันครับ
1.Armored cruiser - เรือลาดตระเวนหุ้มเกราะ เป็นเรือที่เคยมีประสิทธิภาพมากใน
สงครามเก่าๆ ทั้งเร็วและพิษสงรอบตัวในระยะหลังไม่เพียงแต่ปฎิบัติงานทางทหารได้
อย่างเดียวยังสามารถทำงานอื่นๆได้หลายสถานการณ์อีกด้วยเรือนี้สามารถพลิกแพลง
เป็นอาวุธโจมตีได้มากมาย
2.Amphibious assault ship - เรือสะเทินน้ำสะเทินบกเป็นเรือที่ใช้สำหรับการขนส่ง
อาวุธยุทธปัจจัยรวมถึงกำลังพลไว้ใช้ในภารกิจต่างๆเปรียบเหมือนกองเสบียงเคลื่อนที่
หรือกำลังเสริมในยามจำเป็นสามารถบันทุกเฮลิคอปเตอร์เพื่อขนส่งของต่างๆได้อย่าง
รวดเร็ว
3.Aircraft carrier - เรือบรรทุกเครื่องบินเป็นกำลังรบหลักของการโจมตีที่มีรันเวย์
ให้เครื่องบินรบขึ้นลงไปทำภารกิจซึ่งเป็นเครื่องบินรบที่กองทัพเรือใช้ในการปฎิบัติ
ภาระกิจซึ่งสำคัญมากเพราะมันบรรทุกเครื่องบินมาเต็มลำจะให้โดนโจมตีไม่ได้
เด็ดขาด
4.Battlecruiser - เรือรบลาดตระเวนอยู่ในระดับขีดความสามารถที่พอๆกับเรือ
ประจัญบานใช้ในการศึกทางทะเลที่สำคัญมีอาวุธพร้อมรบมีเกราะอยู่ในระดับเรือลาด
ตระเวนหุ้มเกราะเคยเป็นเรือหลักในสงครามแต่เมื่อมีการเข้ามาแทนที่ของเรือประจัญ
บานทำให้เรือชนิดนี้เลิกนิยมไป
5.Battleship - เรือประจัญบาน เป็นเรือที่ใช้ยิงต่อสูประจัญหน้ากันทางทะเล หรือ
ใช้ในการยิงเข้ามาเพื่อสนับสนุนกองกำลัง ตัวเรือจะมีเกราะหนา อาวุธหนักอย่าง
ครบครัน เพื่อเอาไว้ป้องกัน อาวุธจากเรือลำอื่นเพราะเรือประเภทนี้ส่วนใหญ่มักจะ
ปะทะกันโดยตรงอาวุธนั้นมีขนาดใหญ่ทรงประสิทธิภาพและอันตรายเป็นอย่างมาก
6.Capital ship - เรือรบขนาดใหญ่และสำคัญที่สุดในเชิงสัญลักษณ์ของกองเรือรบ
ของแต่ละชาติ
7.Corvette - เรือคอร์เวต เป็นเรือที่มีขนาดเล็ก เกราะบาง ออกแบบมาเป็นเรือ
ตรวจการมากกว่าการเข้าประทะซึ่งหน้าเป็นเรือที่มีระวางขับน้ำประมาณ 650–1500 ตัน
สามารถใช้งานได้หลากหลายภาระกิจแล้วแต่การติดอาวุธของเรือซึ่งส่วนใหญ่จะติด
อาวุธอเนกประสงค์ให้ครอบคลุมในหลายๆภาระกิจ
8.Cruiser - เรือลาดตระเวนเป็นเรือที่จำเป็นมากในกองทัพเรือเพื่อใช้ลาดตระเวน
ดูความเคลื่อนไหวของศัตรูหรือคอยสอดส่องดูแลเขตน่านน้ำของตัวเองมีความเร็ว
ติดอาวุธพอที่จะปกป้องตัวเองได้ สำคัญมากที่กองเรือรบจะต้องมีเรือประเภทนี้ไว้
เป็นตาคอยสอดส่องหรือใช้เป็นเรือต่อสู้อากาศยานไว้ปกป้องเรือบรรทุกเครื่องบิน
9.Destroyer - เรือพิฆาต ออกแบบมาใช้สำหรับการรบประจัญหน้าบู๊ล้างผลาญ
โดยตรงติดอาวุธหนักครบถ้วน ความเร็วสูง ระวางขับน้ำมากมีระบบตรวจจับที่ดีเยี่ยม
ซึ่งพัฒนามาจากtorpedo boats หรือเรือตอร์ปิโด นั้นเอง ซึ่งเรือพิฆาตได้ถูกใส่อาวุธ
หนักเรือประเภทนี้มีส่วนสำคัญในการป้องกัน ภัยอันตรายต่างๆได้ เนื่องด้วยมีการปฏิบัต
งานที่ค่อนข้างไกลเป็นเรือป้องกันอย่างดีให้แก่กองเรือ หรือเรือสินค้า ถือเป็นเรือรบ
หลักในที่สำคัญในน่านน้ำเลยทีเดียว
10.Dreadnought - เรือรบประจันบาน"เอชเอ็มเอส เดรดนอท" (HMS Dreadnought)
ที่ติดปืนใหญ่ที่ยิงได้ทั่วทุกทิศ ทุกชาติต่างพากันสร้างเรือประจัญบาน หลังสงคราม
โลกครั้งที่หนึ่ง Dreadnought เรือผู้เปลี่ยนตำนานการต่อเรือยุคใหม่เพราะเรือลำนี้ คือ
ต้นแบบของการต่อเรือสมัยใหม่ ทำให้ทุกประเทศต้องพัฒนาตามอังกฤษเพื่อแข่งขัน
กันเป็นเจ้าครองน่านน้ำ
11.Fast attack craft - เรือเร็วโจมตีติดอาวุธนำวิถี มีขนาดเล็ก เร็ว ปราดเปรียว
ติดอาวุธต่อต้านขีปนาวุธจากเรือมีปืนหรือตอร์ปิโดเป็นอาวุธมักเหมาะกับการปฎิบัติ
การใกล้ฝั่งมากกว่าการออกนอกน่านน้ำไกลๆพวกมันมีการคงทนต่อสภาพทะเลที่
รุนแรงได้ต่ำและอยู่รอดในทะเลลึกได้ยากระยะทำการใกล้ ระบบป้องกันตัวเองต่ำ
เพราะบรรทุกอาวุธได้น้อยอากาศยานอย่างเฮลิคอปเตอร์ก็สามารถใช้โจมตีเรือ
ชนิดนี้ได้ ทำภาระกิจได้ไม่หลากหลายแต่ยังพอมีประโยชน์กับกองทัพเรือที่มีงบ
น้อยที่ทำการแบบฉาบฉวยรวดเร็ว จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในชาติมหาอำนาจเพราะ
เรือคอร์เวตหรือ OPVที่ปฏิบัติภารกิจได้หลากหลายจะคุ้มค่ากว่า
12.Frigate - เรือฟริเกต เป็นเรือรบอเนกประสงค์มีความสามารถในการปฎิบัติงาน
รอบด้านไม่ว่าจะลาดตระเวน คุ้มกันกองเรือ หรือรบเต็มรูปแบบประจัญบานมีความ
เร็วพอประมาณมีความคงทนทะเลสูงมีทั้งเรด้าร์อากาศ พื้นน้ำ และโซน่าร์ เรือชนิดนี้
เป็นกำลังรบหลักในหลายๆประเทศที่มีกองเรือค่อนข้างจำกัด เพราะใช้งานได้คุ้มค่า
กว่าแบบอื่น
13.Gunboat เรือปืน
14.heavy cruiser - เรือลาดตระเวนขนาดใหญ่ เป็นเรือรบที่ถูกออกแบบให้มัน
ความเร็วสูงปืนใหญ่ 203 มม.ระหว่างปฎิบัติหน้าที่ปกติจะใช้เป็นเรือสอดแนมเพื่อ
โจมตีกองเรือและป้องกัน ค้นหาติดต่อกับเรือพานิชย์ค้าขายที่ผิดกฏหมายหรือ
อันตราย
15.Helicopter carrier - เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์
16.Minesweeper ship - เรือกวาดทุ่นระเบิด เรือรบที่มีหน้าที่หลักในการกวาดและ
ทำลายทุ่นระเบิด มีหลายประเภทแตกต่างตามขนาดและภาระกิจเช่นเรือกวาดทุ่นระเบิด
น้ำลึกเรือกวาดทุ่นระเบิดชายฝั่ง เรือกวาดทุ่นระเบิดน้ำตื้น และเรือล่า ทำลายทุ่นระเบิด.
17.Missile boat - เรือยิงจรวด
18.Offshore patrol vessel(OPV) - เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง เป็นเรือตรวจการณ์ใช้
สำหรับลาดตระเวนนอกพื้นที่ที่ไกลจากชายฝั่งหรือทะเลลึก เป็นเรือในแบบใหม่ค่าใช้
จ่ายในการปฏิบัติการนั้นถูกกว่าเรือฟริเกตมาก สามารถติดอาวุธเพิ่มได้ตามต้องการ
ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์พร้อมรบได้
19.pocket battleship - เรือพิฆาตติดอาวุธหนักหรือเรือประจัญบานขนาดกระเป๋า เรือรบ
ที่หุ้มเกราะและมีอาวุธยุทธภัณฑ์เต็มที่ที่ย่อขนาดลงมาจากเรือประจัญบาน ขนาดใหญ่
แต่พิษสง รอบตัวใช่ย่อย
20.Protected cruiser - เรือลาดตระเวนคุ้มกัน มีอาวุธขนาดกลางพอป้องกันตัวได้
แต่ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพรบเต็มที่พอจะรบในสงครามเต็มรูปแบบได้ เน้นภาระกิจ
ช่วยเหลือซะมากกว่า
21.Submarine - เรือดำน้ำ ปัจจุบันเป็นที่ต้องการของหลายๆประเทศมากขึ้นเพราะ
มีประสิทธิภาพที่อันตรายสามารถจมกองเรือรบที่ขาดความชำนาญในการรีะวังตัว
ได้เป็นอย่างดีสามารถเป็นทางเลือกที่หลากหลายในการรบ
22.Torpedo boat - เรือตอร์ปิโด
23.Supercarrier - เรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่
ประเภทเรือรบ เรือรบกองทัพ