เจ้าอนุวงศ์ วีรบุรุษ หรือ กบฏ




เจ้าอนุวงศ์  พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 5


เป็นกษัตริย์องสุดท้ายของอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ในยุค ลาว 3 อาณาจักร

พระราชสมภพ พ.ศ. 2310  ที่กรุงเวียงจันทน์

สวรรคต พ.ศ. 2371 กรุงเทพมหานคร ราชอาณาจักรสยาม พระชนมพรรษา 61

พรรษา

ครองราชย์  พ.ศ. 2348 - พ.ศ. 2371

ระยะครองราชย์ 23 ปี

เป็นพระโอรสองค์ที่ 3 ของพระเจ้าสิริบุญสาร


          ผู้ที่ชาวลาวเรียกว่า “วีระบุรุษ ”  แต่ผู้ปกครองเรียก กบฏหรือบางคนเรียก

ขายชาติ“ กบฏเจ้าอนุวงศ์ ” เหตุการณ์เกิดขึ้นในรัชสมัยของรัชกาลที่ 3 คือสยาม

เองก็ไม่สามารถปกป้องเชียงตุงจากพม่าได้จนตอนนี้อังกฤษก็เข้ายึดครองพม่า

เชียงตุงจึงอยู่กับอังกฤษไปเจ้าอนุวงศ์ได้ฉวยโอกาสหลังจากที่เจ้าพระยานคร

ราชสีมาและพระยาปลัดเมืองนครราชสีมาไปราชการที่เมืองขุขันธ์และเหตุการณ์

ทางใต้ที่รัฐเปรัค ที่ทางสยามก็โดนอังกฤษฮึ่มๆใส่อยู่เข้ายึดเมืองและกวาดต้อน

ครอบครัว ชาวเมืองขึ้นไปเวียงจันทน์จากนั้นก็ได้ทำการเผาโคราชระหว่างการ

เดินทาง กองทัพเวียงจันทน์ได้พักพลและชาวบ้านที่เทครัวมา ที่ทุ่งสัมฤทธิ์

จึงได้เกิดเหตุการณ์ที่ คุณหญิงโม ใช้อุบายเลี้ยงสุราแก่ทหารลาว เมื่อเห็นได้

โอกาส ชาวเมืองทั้งหลายต่างก็ใช้อาวุธฆ่าฟันทหารลาวตายเป็นจำนวนมาก

กองทัพเวียงจันทน์ที่ได้ปล้นเมืองเผาเมืองไปก็แตกกระเจิงจากน้ำมือของเชลย

ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงเมื่อเจ้าอนุวงศ์จะยกทัพกลับมาตีคืนก็ไม่ทันเสียแล้ว ทาง

กรุงเทพยกทัพมาช่วยนครราชสีมา เจ้าอนุวงศ์เลยต้องยกทัพกลับเวียงจันทน์

ทางสยามเห็นว่าเจ้าอนุวงศ์คิดเป็นกบฏ มุ่งร้ายต่อสยามและอาณาเขตการ

ปกครองของสยาม รัชกาลที่ 3 ทรงจัดทัพให้ขึ้นไปปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์นำโดย

เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ผู้ชาญศึก และสามารถตีเวียงจันทน์แตก

ในเวลาไม่ถึง 10 วันก็จัดการเวียงจันทน์ได้อยู่หมัดเจ้าอนุวงศ์เห็นท่าไม่ดีเลยหนี

ไปขอพึ่งใบบุญทาง ญวนแทน

เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 

          ทางญวนจึงนำเอาตัวของเจ้าอนุวงศ์มาขอขมาสารภาพผิดให้ทางสยามยก

โทษให้ "อนุทำผิดหนีไปหาญวน  ฝ่ายญวนเหมือนมารดาเจ้อนุ ฝ่ายสยาม

เหมือนบิดาเจ้าอนุ บิดาโกรธบุตรแล้ว มารดาต้องพามาขอโทษ"   โดย

ตกลงกันว่าจะให้นำตัวเจ้าอนุวงศ์มาชำระความที่กรุงเทพฯ แต่ครั้นตกดึกทาง

ทหารสยามที่เวียงจันทน์ประมาทละเลย


   ► เจ้าอนุวงศ์จึงได้นำทหารเข้าจู่โจมทหารสยาม จากที่จะมาขอขมากลับกลาย

เป็นว่าเจ้าอนุวงศ์สั่งฆ่าทหารไทยที่อยู่ในเวียงจีนทน์เกือบหมด ถือเป็นเรื่องที่ให้

อภัยไม่ได้อีกต่อไป จนทางสยามเข้าไปปราบเจ้าอนุวงศ์จะนำครอบครัวหนีไปยัง

ญวนอีก แต่ถูกจับตัวได้ ถูกส่งมายังกรุงเทพมหานครพร้อมครอบครัวทางสยาม

เห็นว่าความผิดที่เผานครราชสีมายังไม่ทันจะชำระความ กลับมาทำร้ายทหาร

สยามจนหมดสิ้นที่เวียงจันทน์ มีใจคิดร้ายที่จะเผากรุงเทพฯทำตัวเป็นกบฏ จึงสั่ง

ให้เผาเวียงจันทน์เทครัวกวาดต้อนผู้คนมายังหัวเมืองชั้นในและได้นำตัวเจ้า

อนุวงศ์และครอบครัวมาขังประจานตากแดดตากฝนท้าลมท้าแดดให้ชาวบ้าน

สาปแช่งอยู่ได้ 7-8 วัน เจ้าอนุวงศ์  ก็สิ้นลมตาย สงครามเริ่มต้นปี พ.ศ. 2369 -

พ.ศ.2371


" ทางสยามทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ "ที่ทำกับเจ้าอนุวงศ์อย่างนั้น เราก็ตอบไม่ได้

อยากยกในสิ่งที่เจ้าอนุวงศ์ทำไว้กับสยามให้ได้พิจารณากันดู

"

  เจ้าอนุวงศ์คิดการใหญ่ถึงขั้นอยากเผากรุงเทพฯ (มีจุดประสงค์แน่ชัดที่จะมา

ทำลายกรุงเทพฯ ถ้าหากสามารถยึดได้เสียทั้งหมด)


  จะเอาเมืองแถบภาคอิสานเข้าไปผนวกกับเวียงจันทน์รวมถึง ลาวอีก 2

อาณาจักรที่ยังเป็นประเทศราชของสยาม


 ► เผานครราชสีมาตอนบุกปล้นเมืองเทครัวชาวเมืองโคราช


  เจ้าอนุวงศ์สั่งฆ่าทหารไทยที่อยู่ในเวียงจีนทน์เกือบหมดสิ้น ทั้งๆที่มาขอให้

ทางกรุงเทพฯยกโทษให้เป็นการทรยศต่อสยามครั้งที่ 2 ซึ่งสยามไม่จำเป็นต้อง

ให้อภัยอีก


  เจ้าอนุวงศ์เป็นที่ชื่นชอบของรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 รวมถึงเสนาบดีฝ่าย

ไทยมาก่อน ผิดรอบแรกในฐานเป็นกบฏพอจะยกโทษให้กันได้

     "

 แต่ยังมาฆ่าทหารที่ทางสยามส่งไปคุมเวียงจันทน์ในตอนดึกทั้งๆที่ ให้ญวนพามา

รับสารภาพผิด นับเป็นการทรยศต่อความไว้วางใจของรัชกาลที่ 3 เป็นอย่างยิ่งก็

ลองพิจารณากันดูว่าการที่สยามเผาเวียงจันทน์ และการขังเจ้าอนุวงศ์ให้ทรมาน

จนตาย สมเหตุสมผลกับที่เจ้าอนุวงศ์ทำกับสยามหรือไม่ (ใช้วิจารณญาณกันครับ)

ทางสยามจำเป็นต้องเชือดไก่ให้ลิงดูเพราะในตอนนั้นพม่าได้ถูกอังกฤษยึดไปเมื่อ

ปี 2369  ปีเดียวกับที่เจ้าอนุวงศ์ก่อกบฏ พอเสร็จเรื่องเจ้าอนุวงศ์ในปี 2371 สยาม

เลยต้องจัดการเด็ดขาดเพื่อเป็นการป้องปรามหัวเมืองประเทศราชอื่นไม่ให้เอา

เยี่ยงอย่างเวียงจันทน์เพราะอาจจะทำให้ชาติตะวันตกที่เข้ามาล่าอาณานิคม

ฉวยโอกาศในจุดนี้มาแบ่งแยกดินแดนเหล่านั้นไป (ขนาดทำแบบนี้ยังมิวายต้อง

เฉือนดินแดนบางส่วนให้ไปเลย) 


มุมองต่อเรื่องนี้


                 ทางลาวมองว่า เจ้าอนุวงศ์คือผู้ปลดแอกลาว เป็นวีรบุรุษถูกฝ่ายลาว

ใช้เป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้เพื่ออิสระภาพจากไทย ทั้งๆที่ตอนนั้นเป็นแค่ผู้

ปกครองเวียงจันทน์ไม่ใช่อาณาจักรล้านช้างทั้งหมด เพราะยังมี อาณาจักรล้าน

ช้างจำปาศักดิ์ และอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง เพราะที่จริงเป็นการใช้สื่อ

เพื่อลดความชอบธรรมของพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา ที่โดนพรรคประชาชน

ปฏิวัติลาวเข้ากุมอำนาจรัฐสำเร็จ และสวรรคตเลยใช้เจ้าอนุวงศ์สื่อความหมาย

แทนการต่อสู้ปลดปล่อยตัวเองให้รู้จักชาตินิยม ใช้เพื่อนบ้านคือไทยที่อยู่คนละฝั่ง

ในสมัยนั้นเป็นเครื่องมือสร้างชาตินิยม เพราะไทยที่ต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ (ลาวและ

เวียดนามเป็นคอม)และชูว่าแกวคือเพื่อนที่แสนดีปลดปล่อยลาว สยามคือผู้กดขี่

(ปัจจุบันตามโลกโซเชี่ยลจะเห็นว่า คนฝั่งนั่นที่พิมพ์ภาษาไทยได้ใช้ภาษาไทยได้

มักจะเรียกไทยว่าโจรสยามเผาเวียงจันทน์โดนคำสาปให้ต้องข้า(ฆ่า)กันตายทุกมื้อ

คือคำสาปนั้นไม่มีจริงและ เรื่องภัยธรรมชาติมันคือเรื่องปกติที่ต้องเจอทางเกรียน

ฝั่งนั่นก็จะชอบบอกว่าเป็นคำสาป บ้างอะไรบ้าง คือเขาถูกสอนให้เชื่อว่าไทยคือ

ผู้ร้ายเวียดนามเป็นพระเอก แทน ซึ่งฝั่งคนไทยโลกสวยเองก็จะบอกว่าไทยชอบ

ไปดูถูกเขาว่า....


            ก็จริงครับในสมัยก่อนสมัยนี้เรามักจะไม่ใช่คำนั้น รณรงค์กันแพร่หลายว่า

ไม่ใช้คำนี้ จึงไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะเกลียดชังอะไรเราเพราะเรื่องที่เขาว่ามานั้นเรื่อง

ดูถูกนั้นจะถูกยกมาคุยน้อยมากถ้าเทียบกับการที่คนพวกนั้นชอบพูดเรื่องเผา

เวียงจันทน์ (ทีเอ็งเผานครราชสีมาก่อนหล่ะ) ฆ่าเจ้าอนุวงศ์ (แล้วทีเอ็งฆ่าทหาร

ไทยหล่ะ) หรือเรื่องทวงคืนภาคอีสาน (ถ้าจะทวงแบบนั้นสงสัยทุกประเทศต้องคืน

พื้นที่ให้อาณาจักรฟูนันกันหมดแล้ว


    ภาคอีสานบางจังหวัดเพิ่งมาตั้งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง) เป็นเรื่องการทำสงคราม

แย่งชิงดินแดนสมัยก่อนทั้งสิ้นเรื่องทวงพระแก้ว พวกเขามักคิดว่าพระแก้วมรกต

นั้นเป็นของประเทศตัวเองทั้งๆที่จริงแล้วก่อนที่พระแก้วมรกต จะไปอยู่ที่ลาว

พระแก้วมรกต ไปอยู่ที่ไหนมาก่อนบ้างอย่างน้อยก็เชียงใหม่ ล้านนาที่พระเจ้า

ไชยเชษฐามาครองแล้วเอาพระแก้วมรกตไปจากเมืองเชียงใหม่ซึ่งทางเชียงใหม่

เคยทวงพระแก้วคืนแต่ทางฝั่งนั้นก็ไม่ยอมคืนให้ เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกตีเมือง

เวียงจันทน์ได้ (ในสมัยกรุงธนบุรี)ก็อัญเชิญเอาพระแก้วมาในฐานะเป็น สินสงคราม

ปัจจุบันเชียงใหม่ล้านนาก็คือประเทศไทยอีกนั่นแหละ เป็นการสอนประวัติศาสตร์

แบบชาตินิยมที่สอนไม่หมดยกเอาแต่ที่ตัวเองโดนกระทำย่ำยีมาสร้างชาตินิยม

ให้อีกฝั่งเป็นผู้ร้าย และตอนนั้นไม่มีรัฐ อะไรเป็นอาณาจักรไม่มีการแบ่งเขตแดน

ที่ชัดเจนเหมือนทุกวันนี้การที่จะนำเอาประวัติศาสตร์มาเสี้ยมให้เกิดชาตินิยมจึง

เป็นเรื่องที่ผู้ปกครองทำกันให้เกิดความชอบธรรมแก่ฝั่งตัวเอง (คนเราไม่ควรยึด

ติดกับอดีตรู้ไว้เป็นสิ่งเตือนใจประดับความรู้ไม่ใช่ให้อดีตมาครอบงำจนไม่แยกแยะ

อะไรเลย) คนฝั่งนู้นที่ดีๆก็มีเยอะครับแต่คนที่รับการสั่งสอนประวัติศาสตร์ชาติ

นิยมแบบถ่ายมาไม่หมดก็มีเยอะเช่นกันเหมือนไทยในสมัยนึงก็มีแบบนี้แต่เราเลย

จุดนั้นมาพอสมควรแล้วจึงไม่ค่อยอะไรกับประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาตั้งหน้าตั้งตา

ทำมาหากินเรื่องดูตัวเองแลครอบครัว พวกคลั่งชาติแบบล้าสมัยที่ยึดติดกับสิ่ง

ของและดินแดนควรหันมาสร้างประวัติศาสตร์ที่ดีร่วมกันพัฒนาประเทศให้เจริญ

ให้ลูกหลานได้กล่าวถึงไม่ดีกว่าหรือไร