กษัตริย์พม่าที่รบกับไทย






กษัตริย์พม่าที่รบกับไทย



  กษัตริย์พม่าที่รบกับไทยเป็นบทความที่พยายามรวบรวมกษัตริย์พม่าที่เข้ามาทำศึก

กับอยุธยาหรือไทยในทุกๆรัชกาล เพื่อนำไว้เป็นความรู้รอบตัวด้วยว่าพม่าและไทย

ทำสงครามกันในสมัยของกษัตริย์พม่าองค์ใดกันบ้างด้วยคำอธิบายเล็กๆน้อยๆหลัง

รายพระนามกษัตริย์พม่า  (เป็นการรวบรวมขึ้นมาเองโดยผู้เขียนถ้าผิดพาดหรือตก

หล่นประการใดขอภัยท่านผู้อ่านมา ณ ที่นี้ด้วย) สงครามพม่ารบไทย

กองทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเข้าสู่กรุงหงสาวดี


1. พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ : ทรงได้รับการกล่าวขานว่าเป็นกษัตริย์นักรบที่เก่งกาจ

เพราะตลอดรัชกาลพระองค์ทำสงครามเป็นส่วนใหญ่ อยูะยาแน่นอนก็เคยโดนบุก

มาแล้วน่าจะจำกันได้ก็สงครามที่ฝ่ายอยุธยาต้องเสียสมเด็จพระสุริโยทัย ในการ

ทำสงครามระหว่างอาณาจักรตองอูกับอาณาจักรอยุธยา


2. บุเรงนอง : ผู้พิชิต พิชิตอาณาจักรอยุธยา ล้านนา ล้านช้าง มณีปุระ ไทใหญ่

พระองค์ถือเป็นหนึ่งในสามมหาราชพม่าพร้อมด้วยพระเจ้าอโนรธามังช่อและ

พระเจ้าอลองพญา  พระเจ้าบุเรงนองยังถือว่าเป็นกษัตริย์นักปกครองและบริหารที่

เก่งกาจมีความสามารถในการสงครามและการปกครองอย่างดี


3. พระเจ้านันทบุเรง : เป็นพระราชโอรสพระองค์โตของพระเจ้าบุเรงนอง ผู้ที่

หมายจะจับตัวพระนเรศวรเป็นกลับไปอีกครั้งแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้จนในช่วงท้าย

ของชีวิตนั้นพระเจ้านันทบุเรงได้ทำสงครามกับอาณาจักรอยุธยาหลายต่อหลายครั้ง

เพื่อปราบปรามอยุธยาลงให้ได้ประเทศราชอื่นๆจะได้ไม่แข็งเมืองตาม ที่น่าจะจด

จำกันได้คือโอรสของพระองค์คือ มังสามเกียดหรือพระอุปราชที่มาทำยุทธหัตถีกับ

สมเด็จพระนเรศวร และเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จนถึงขั้นสิ้นพระชนม์ขาดคอช้าง


4. พระเจ้าอโนเพตลุน หรือ พระเจ้าอังวะมหาธรรมราชา : เคยทำศึกที่ทวาย

และเลยไปตีที่ตะนาวศรีของอยุธยาได้สู้รบกันกับอยุธยาแล้วแพ้ไปรวมทั้งไปทำศึก

ที่ล้านนาเพื่อจัดการความวุ่นวายเสร็จหลังจากนั้นอยุธยาก็ยกทัพไปล้านนาล้านนา

ก็กลับไปเข้าข้างไทยและไล่ขุนนางพม่าไปหมด


5. พระเจ้าปเย (พระเจ้ามหาสีหสุรสุธรรมราชา) : เป็นรช่วงเดียวกับรัชสมัย

ของ  สมเด็จพระนารายณ์ และในสมัยของพระเจ้าปเยนั้นก็ได้รับศึกจากอยุธยา

ที่สมเด็จพระนารายณ์นั้นได้สั่งให้ยกเข้ามาตีอังวะเพื่อแก้แค้นที่กองทัพพม่ายก

ทัพเข้ามาติดตามครอบครัวชาวรามัญที่หนีเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารครั้งนั้น

พระองค์โปรดให้เจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) เป็นแม่ทัพ ยกกองทัพไปตีเมือง

ทวาย เมืองเมาะตะมะ แต่สุดท้ายด้วยขัดสนซึ่งเสบียง ทหารเจ็บป่วยเป็นไข้กัน

มากมายจึงได้ยกทัพกลับ


6. พระเจ้าอลองพญา : ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์คองบอง สามารถรวบรวมบ้าน

เมืองให้เป็นปึกแผ่น ปราบปรามมณีปุระ กอบกู้ล้านนาคืนจากอยุธยา ฟื้นฟูอาณา-

จักรหงสาวดีทรงเป็นกษัตริย์พม่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 พระองค์ ร่วมกับ พระเจ้า

อโนรธามังช่อ และ พระเจ้าบุเรงนอง พระเจ้าอลองพญา สิ้นพระชนม์ระหว่างทาง

กลับจากการทำสงครามกับอยุธยา ตามพงศาวดารไทยระบุว่าสิ้นพระชนม์เพราะ

ปืนใหญ่แตกที่วัดหน้าพระเมรุ แต่ทางพงศาวดารพม่าระบุว่าสิ้นพระชนม์เพราะ

ประชวร (พระองค์เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์สุดท้ายของพม่าอีกด้วย)


7. พระเจ้ามังระ :  เป็นพระโอรสองค์ที่ 2 ในจำนวน 6 พระองค์ของพระเจ้าอลอง-

พญาส่งกองทัพนำโดยเนเมียวสีหบดีและมังมหานรธาเข้ามาปิดล้อมกรุงศรีอยุธยา

นานถึง 1 ปีกับสองเดือน แม้ถึงฤดูน้ำหลากก็ไม่หนี ก็สามารถเข้าตีพระนครได้ทำให้

เสียกรุงเป็นครั้งที่ 2 นับว่าเป็นสงครามพม่ารบไทย และทำให้ไทยยับเยินที่สุดนับ

ตั้งแต่มีสงครามมา


8. พระเจ้าจิงกูจา :  พระโอรสของพระเจ้ามังระ ขึ้นครองราชย์ด้วยพระชันษา

เพียง 19 ปี พระเจ้าจิงกูจาต้องการรักษาอำนาจในล้านนาเอาไว้จึงส่งทัพเข้ามาช่วย

คนของพระองค์ที่ดูแลเชียงใหม่อยู่ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้แก่ไทย ทางไทยจึงให้ทิ้ง

เมืองเชียงใหม่เป็นเมืองร้างไม่มีประโยชน์อันใดเสียเพื่อภายหลังจะได้ไม่ต้อง

แย่งชิงกัน เชียงใหม่จึงกลายเป็นเมืองร้างอยู่ถึงประมาณ 15 ปี และหลังจากนั้น

ไทยกับพม่าก็ว่างสงครามกันมาเป็นเวลา 8 ปีเลยทีเดียว ( เชียงใหม่เคยร้าง 15 ปี

ถือว่าเป็นความรู้รอบตัวที่ดีเลยครับ อ่านมาจากหนังสือไทยรบพม่าครับ)


9. พระเจ้าปดุง : ขึ้นครองราชย์โดยการปราบดาภิเษกในปี พ.ศ. 2325 ปีเดียวกับ

การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ทรงทำสงครามกับไทยมากมายหลายครั้งทั้งศึกเล็ก

จนไปถึงศึกใหญ่อย่างสงคราม 9 ทัพนับว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงทำสงครามกับ

ไทยมากพระองค์นึงเลยทีเดียวผลัดแพ้ชนะในศึกเล็กๆกับไทยตลอดแต่ศึกใหญ่นั้น

ก็ยังไม่สามารถล้มไทยลงได้เลย พระองค์จึงไม่สามารถสร้างประวัติศาตร์ให้จารึก

ได้ว่าล้มสยามลงได้ ทั้งๆที่พยายามอยู่หลายครั้งก็ตามแต่


10. พระเจ้าจักกายแมง : ในสมัยเดียวกับพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า-

นภาลัย กับ สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ไทยช่วยอังกฤษรุกรานพม่าผลสรุป

สุดท้ายพระเจ้าจักกายแมงก็ต้องขอยอมแพ้หลังจากโดนตีถอยร่นเรื่อยๆจนถึง

อังวะ