แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กษัตริย์พม่า แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กษัตริย์พม่า แสดงบทความทั้งหมด

กษัตริย์พม่าที่ชนะไทย





กษัตริย์พม่าที่ชนะไทย

   กษัตริย์พม่าที่ชนะไทย ในที่นี้หมายถึงที่สามารถตีไทยจนพ่ายแพ้ไปได้ในอดีตอย่าง

เสียกรุง ครั้งที่ 1 และ 2นะครับ นั้นหมายความว่าจะมี 2 พระองค์ที่สามารถทำสำเร็จในการตี

กรุงศรีแตก ต่อไปอาจไปตี กสิกร เอ้ยไม่ใช่ละ กษัตริย์พม่าที่รบไทย* นั้นมีอยู่หลาย

พระองค์เลยครับ ตามลิ้งตัวหนาที่มีดอกจัน ไปเลยส่วนสาเหตุของการเสียกรุงนั้น

ตามนี้ >>> สาเหตุของการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 (มีตอนที่ 2 นะครับอ่านไปโลด)


ส่วน กษัตริย์ของพม่าทั้ง 2 พระองค์ที่ทำให้อยุธยาเสียเอกราชนั้นคือ พระเจ้าบุเรงนอง

และ พระเจ้ามังระ



1. พระเจ้าบุเรงนอง หรือที่เรียกกันว่า ผู้ชนะสิบทิศเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ 1 ใน

3 กษัตริย์พม่า* เลยทีเดียว โดยปราบทั้งอาณาจักรอยุธยา ล้านนา ล้านช้าง มณีปุระ

ไทใหญ่ และดินแดนใหญ่น้อยมากมายรวมพม่าเป็นปึกแผ่น พระเจ้าบุเรงนองยังถือว่า

เป็นกษัตริย์นักปกครองและบริหารที่เก่งกาจมีความสามารถในการสงครามและการ

ปกครองอย่างดี โดยผู้ที่มาช่วยอยุธยาปลดแอกกู้เอกราชกลับมาได้นั้นคือ สมเด็จ

พระนเรศวรมหาราช นั่นเองซึ่งในสมัยของพระเจ้าบุเรงนองนั้น พระองค์คือองค์ดำที่โดน

พาไปเป็นตัวประกันที่หงสาด้วย


2. พระเจ้ามังระ ในครั้งที่ 2นี้ถึงกับโค่นล้มอาณาจักรอยุธยาไม่ให้สามารถกลับมาตั้ง

เป็นราชธานีได้อีก ต่อไปซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ โดยพระเจ้ามังระ ให้ทั้งเนเมียวสีบดี

 กับมังมหานรธา เป็นแม่ทัพฝั่งพม่า เข้ามาตีอยุธยา และยังมีเหตุการณ์ของ บ้านบางระจัน

เกิดขึ้นด้วยเป็นการดำเนินการสงครามที่พม่าเตรียมตัวมาอย่างดีทุกด้าน + กับแก้เกมส์ของ

ทางฝั่งอยุธยาที่ใช้วิธีป้องกันในกำแพงเมืองมาอย่างดีมากจนทำให้สามารถเอาชนะอยุธยา

ตีเมืองแตกไปได้ อ่านได้ที่ >>> Timeline การเสียกรุงครั้งที่ 2 : พระเจ้ามังระตีกรุง*

ผู้ที่มากอบกู้บ้านเมืองในประวัติศาสตร์ไทย*อีกครั้งคือ พระเจ้าตากสินมหาราชนั่นเอง ปราบ

เหล่าก๊กต่างๆที่ตั้งตนเป็นใหญ่และตั้งเมืองหลวงคือกรุงธนบุรีขึ้นมา ด้วยโชคดีที่ขณะนั้น

พม่าติดศึกกับจีนทำให้ทำการง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย






รายพระนาม กษัตริย์พม่าราชวงศ์คองบอง




รายพระนาม กษัตริย์พม่าราชวงศ์คองบอง




1. พระบาทสมเด็จพระมหาโพธิสัตว์เจ้า หรือ พระเจ้าอลองพญา : ปฐมกษัตริย์แห่ง

ราชวงศ์คองบอง ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของพม่า*แต่เดิมนั้นเป็นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้าน

มอกโชโบหรือหมู่บ้านคองบองหรือเมืองชเวโบในปัจจุบัน สามารถขับไล่ชาวต่างชาติ

ที่สนับสนุนมอญออกไปได้ กอบกู้รวบรวมบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น พระองค์ทรงก่อตั้ง

เมืองย่างกุ้ง สามารถยึดเมืองคืนจากราชวงศ์ชิง ของจีน ยึดแหลมเนกิสคืนจากอังกฤษ

ยึดครองมณีปุระและทำสงครามกับอยุธยา แต่ไม่สำเร็จและสวรรคตในครั้งนั้น

               ในประวัติศาสตร์ไทยกล่าวว่าพระองค์สวรรคตจากปืนใหญ่ระเบิดแต่ใน

พงศาวดารพม่าบอกไว้ว่าพระองค์สวรรคตจากโรคบิด นอกจากนี้พระองค์ยังเป็น 1 ใน

3 กษัตริย์พม่าผู้ยิ่งใหญ่* มีอนุสาวรีย์อยู่ที่เมือง เนปิดอว์ เมองหลวงของพม่า ร่วมกับ

พระเจ้าอโนรธามังช่อ และ พระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งทั้ง 3 พระองค์เป็นมหาราชของพม่า



2. พระเจ้าเนียงดอคยี : หรือ พระเจ้าเมิงลอก (มังลอก) พระบรมเชษฐาธิราช

พระราชโอรส (ราชโอรสองค์โตในพระเจ้าอลองพญา) ในสมัยของพระองค์นั้นมีการ

เกิดกบฏหลังจากพระเจ้าอลองพญาสวรรคตไป แต่พระองค์ก็ไม่ได้ลงโทษให้อภัยโทษ

เนื่องด้วยเกรงว่าจะเกิดการนองเลือดขึ้นได้ พระเจ้าเนียงดอคยีสวรรคตด้วยพระโรคบิด

เช่นเดียวกับพระราชบิดาของพระองค์ ที่ตามพงศาวดารพม่าได้บอกไว้



3. พระเจ้ามังระ : สิริสุริยาธรรมราชาธิบดี สินพยูฉิน หรือพระเจ้าสินพยูฉิน เรียกกันอีก

ชื่อว่า พระเจ้าช้างเผือก ในสมัยพระองค์นั้น สาารถตีเอาเมืองมณีปุระคืนมาได้ และยึด

ลาวกับล้านนาได้และผลงานชิ้นสำคัญของพระองค์คือ การที่สามารถยึดกรุงศรีอยุธยา

(โยเดีย) ได้ เป็นสาเหตุให้เสียกรุงครั้งที่2*  ในวันที่ 7 เมษายน 1767 ในสมัยพระองค์

ยังได้ทำสงครามกับ ราชวงศ์ชิงในยุคของจักรพรรดิเฉียนหลงอีกด้วยและได้รับชัยชนะ

อย่างสวยงาม พระองค์ยังได้ทำการรบกับพระเจ้าตาก แต่ยังไม่เสร็จศึกพระองค์ก็

สวรรคตเสียก่อน ในวันที่ 10 มิถุนายน 1776 สิริพระชนมายุ 39 พรรษา



4. พระเจ้าจิงกูจา : หรือพระเจ้าซินกูมิน ขึ้นครองราชย์ด้วยพระชันษาเพียง 19 ปี

พระเจ้าจิงกูจาครองราชย์เพียงชั่วระยะเวลาไม่นาน ก็ถูกเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง คือ

หม่องหม่อง โอรสของพระเจ้ามังลอก แย่งราชสมบัติอีก



5. พระเจ้าหม่องหม่อง : พองกาซาหม่องหม่อง อยู่ในอำนาจได้เพียงแค่ 7 วันเท่านั้น

ปโดงเมง เจ้าเมืองปโดง ซึ่งเป็นพระโอรสพระองค์หนึ่งของพระเจ้าอลองพญา ก็ยกทัพ

เข้ามา ยึดอำนาจไป  ปโดงเมง คนนั้นก็คือพระเจ้าปดุง



6. พระเจ้าปดุง : พระบรมอัยกาธิราชพระเจ้าบาดงพระเจ้าช้างเผือก เป็นอีกพระองค์ที่มา

ทำการรบกับสยาม ในขณะนั้นคือกรุงรัตนโกสินทร์ เป็น 1 ในหลายๆพระองค์ และนั่นเอง

พระองค์เป็น กษัตริย์พม่าที่รบกับไทย*  ที่ดังๆเลยคือ สงคราม 9 ทัพ* พระองค์ ทรง

ย้ายเมืองหลวงไปที่อมรปุระ และได้มีการรุกรานอาณาจักรยะไข่และตีสำเร็จในเวลาต่อมา

พระเจ้าปดุง สวรรคตในปี พ.ศ. 2362 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

ของไทย รวมระยะเวลาการครองราชย์นานถึง 37 ปี




7. พระเจ้าพาคยีดอ : พระเจ้าจักกายแมง   มีนโยบายขยายอำนาจเข้าไปในแคว้นอัสสัม

และมณีปุระ และสามารถทำได้ แต่ปัญหาของพระองค์คืออาณาจักรมณีปุระกับอาณาจักร

อาหมหรืออัสสัมถูกพระองค์ยึดไว้นี่แหละครับ เพราะทำให้มีปัญหากับอังกฤษ จนเกิดเป็น

สงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่ 1 ส่งผลให้พระองค์เสียพระทัยอย่างมากเพราะต้องลงนามใน

สัญญาดาโบ ที่มีรายละเอียดว่า


1.ยกดินแดนอัสสัม,มณีปุระ,ยะไข่,ตะนาวศรี และทางตอนใต้ของแม่น้ำสาละวิน


2.ไม่เข้ามาแทรกแซงกาชาร์กับไจน์ติญา


3.จ่ายค่าปฏิกรรมสงครามเป็นจำนวนเงินล้านปอนด์


4.อนุญาตให้มีการติดต่อระหว่างผู้แทนของอังวะกับกัลกาตา


5.เซ็นสัญญาร่วมการค้า  (คงไม่ต่างกันมากกับ สนธิสัญญาเบาว์ริง *  ที่ไทยโดน)


ทำให้พระองค์ไม่มีจิตใจบริหารปกครองประเทศ ส่งผลให้อำนาจตกอยู่ที่มเหสี และ

พระเชษฐา ถูกกักบริเวณจากข้อหาว่าเป็นโรคประสาทจนพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อ

15 ตุลาคม พ.ศ. 2389



8. พระเจ้าสารวดี :  หรือพระเจ้าแสรกแมง  พระองค์คือผู้ที่ตับประเจ้าพาคยีดอ คุมขัง

ไว้แล้วขึ้นครองราชย์แทน ต่อมาพระองค์เองก็ทรงมีพระสติวิปลาสและถูกพระโอรสคือ

เจ้าชายพุกาม มิน หรือในพงศาวดารไทยเรียกพระเจ้าพุกามแมงควบคุมตัวไว้ตั้งแต่

พ.ศ. 2385 และสวรรคตเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2389



9. พระเจ้าพุกาม : ในรัชสมัยของพระองค์ พม่าได้ทำสงครามกับอังกฤษอีกครั้งจนต้อง

เสียดินแดนพะโคและพม่าตอนใต้เกือบทั้งหมด และได้มีกบฏเกิดขึ้นโดยเจ้าชายมินดง

พระอนุชาของพระเจ้าพุกามแมงซึ่งไม่เห็นด้วยกับการทำสงครามกับอังกฤษตั้งแต่ต้น

และปลดพระองค์ออกจากราชสมบัติเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2395



10. พระเจ้ามินดง : พระองค์เป็นผู้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่อมรปุระ และมัณฑะเลย์ ทรง

ปฏิรูปการปกครองพม่าใหม่ให้ทันสมัยกว่าเดินและสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับอังกฤษแต่ถึง

อย่างนั้นก็ยังเกิดความขัดแย้งกับอังกฤษทำให้ต้องเสียดินแดนไปให้อีกจำนวนมาก

ปัญหาการแย่งชิงอำนาจภายในประเทศทำให้เกิดการสังหารหมู่พระราชวงศ์จำนวนมาก

หลังสิ้นรัชกาลพระเจ้ามินดงแล้ว เป็นจุดที่ให้ลจะสูญสิ้นของราชวงศ์คองบองเต็มที



11. พระเจ้าธีบอ : พระเจ้าสีป่อ หรือ พระเจ้าธีบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งพม่า ต้องยอม

ประกาศสงครามกับอังกฤษอีกครั้ง เพราะโดนเอาเปรียบเรื่องการค้าไม้ และแน่นอนว่า

พระองค์ไม่สามารถเอาชนะอังกฤษได้จำต้องยอมแพ้และถูกบังคับให้สละราชสมบัติและ

เนรเทศไปอยู่ที่เมืองรัตนคีรี ประเทศอินเดีย หลังสิ้นสงครามพม่า-อังกฤษ ครั้งที่ 3 และ

สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2459


จบราชวงศ์คองบองราชวงศ์สุดท้ายของพม่า







พระเจ้าอลองพญา : ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์คองบอง




พระเจ้าอลองพญา



        ราชวงศ์คองบองนั้น ก่อตั้งโดย ผู้นำหมู่บ้านที่รวบรวมกำลังชนพม่าเข้าต่อสู้

กับพวกมอญ จนสามารถขับไล่และทำลายอาณาจักรมอญให้ล่มสลาายได้สำเร็จ

สามารถปราบปรามมอญที่ขึ้นมามีอิทธิพลแทนที่ชนชาวพม่า หลังการล่มสลาย

ของราชวงศ์ตองอู ได้สถาปนาตนขึ้นเป็นกษัตริย์ ในปี พ.ศ. 2295 จนได้รับ

ชัยชนะเด็ดขาด ในปี ค.ศ. 1757หรือประมาณปี พ.ศ. 2300 และตั้งเมือง ชเวโบ

เป็นเมืองหลวง และได้ย้ายเมืองหลวงมาที่อังวะ ตามลำดับนับเป็นอาณาจักรยุคที่ 3

ของพม่า


   ในสมัยราชวงศ์คองบอง นี้พม่ามีการทำสงครามกับหลายเชื่อชาติหลักๆคือกับ

สยาม (ไทย) จีน เพื่อทำการยึดเมืองคืนจากราชวงศ์ชิง  รวมถึงตอนที่หนักที่สุด

คือการรบกับอังกฤษ ถึงขั้นสิ้นราชวงศ์กันเลยทีเดียว


กษัตริย์ราชวงศ์คองบอง


 พระเจ้าอลองพญา

 - ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์คองบอง ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของพม่า พระองค์

กำเนิดเป็นสามัญชน โดยเป็นผู้นำหมู่บ้านแถบพม่าตอนบน สามารถรวบรวมบ้าน

เมืองให้เป็นปึกแผ่น ปราบปรามมณีปุระ เข้าตีชิงดินแดนล้านนาคืนจากอยุธยา

และขับชาวอังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งให้การสนับสนุนราชอาณาจักรหงสาวดีของ

ชาวมอญ พระองค์ทรงก่อตั้งเมืองย่างกุ้งในปี พ.ศ. 2298 ทรงเป็นกษัตริย์พม่าที่

ยิ่งใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 พระองค์ มหาราช 3 กษัตริย์พม่า เพราะพระองค์เป็นผู้นำของ

พม่าในยุคอาณาจักรที่ 3 ที่สามารถปราบปรามมอญที่มีอิทธิพลแทนที่ชาวพม่า

ลงได้ หลังจากสิ้นราชวงศ์ตองอู พัฒนาบ้านเมืองไปถึงขีดสุดทำพม่าให้เป็น

ปึกแผ่น


การสงครามพระเจ้าอลองพญากับไทย (กษัตริย์พม่าที่รบไทย)


  - ในประวัติศาสตร์มี 1 ครั้งคือตอนที่พม่ากล่าวหาว่าไทยช่วยมอญ (เพราะมอญ

ที่โดนพม่าของพระเจ้าอลองพญาตีแตกมาขออยู่ในเมืองมะริดซึ่งตอนนั้น

เป็นของไทย) พม่าจึงเคืองใจ อยุธยาไม่น้อย  หลังจากพระเจ้าอลองพญาทรง

ฉลองพระเกศธาตุที่เมืองย่างกุ้งที่ได้ให้ลงมือ ปรับปรุงปฏิสังขรขึ้นมาใหม่แล้ว

จึงได้ยกทัพนำโดยมังระราชบุตรและมังฆ้องนรธา ยกทหารมาเข้ามาหมายจะ

ตีเอาทวายและตะนาวศรี แต่ด้วยความที่อยุธยาในตอนนั้นรู้จักแต่ทำการค้า

ไม่สนใจเรื่องการป้องกันประเทศไม่สนใจด้านการทหารเท่าที่ควรทำให้กอง

กำลังอ่อนแอลงมากพม่าเห็นว่าอยุธยานั้นอ่อนแอยิ่งนักจึงพ้นเข้ามาล้อมกรุงศรี

เอาไว้ หลังจากพระเจ้าอลงพญาตีค่ายที่ทุ่งตาลานแตกก็ยกทัพเข้ามาสมทบ

ที่กรุงศรีอยุธยาทันทีพม่าฆ่าฟันชาวกรุงทั้งไทยจีนตายลงไปเป็นอันมาก

ได้ใจใหญ่จึงรุกตีเข้ามาเรื่อยๆแต่ก็ไม่มีปรากฏว่าไทยออกไปรบพุ่งกับพม่าอีก

แค่รักษาพระนครไว้เท่านั้น พม่าจึงเปลี่ยนกลยุทธใหม่โดยการเอาปืนใหญ่ไป

ตั้งที่วัดหน้าพระเมรุและวัดช้าง(หัสตาวาส) ได้ระดมยิงปืนใหญ่เข้ามาทั้งกลางวัน

และกลางคืน กระสุนปืนใหญ่ไปถูกเอายอดพระที่นั่งสุริยอัมรินทร์หักลงมา ในการ

ยิงปืนใหญ่ของพม่าพระเจ้าอลองพญาทรงลงมาบัญชาการเอง บรรจุกระสุน

ปืนใหญ่เอง และยิงเองแต่โชคร้ายปืนใหญ่ที่พระองค์ยิงแตก ปืนแตกถูกพระองค์

บาดเจ็บสาหัส พม่าจึงต้องรีบยกทัพกลับอย่างเร่งด่วน แต่ยังไม่ทันถึงเมืองพม่า

ยังไม่ทันพ้นเมืองตากพระเจ้าอลองพญาก็สิ้นพระชนม์ลงไป พม่ารับถอยทัพโดย

ทิ้งปืนใหญ่เอาไว้มากมาย ฝังดินทิ้งไว้ (เดี๋ยวคงได้เอาคืนตอน เสียกรุงครั้งที่ 2)


พระเจ้าอลองพญาสิ้นพระชนม์ลงในวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2303 ใน

พงศาวดารไทยบอกว่าบาดเจ็บจากปืนใหญ่แตกและสิ้นพระชนม์กลางทาง

ยกทัพกลับแต่ของพม่าระบุว่าทรงสิ้นพระชนม์เพราะประชวร การสงครามและ

รัชสมัยของพระองค์นั้นตรงกับ รัชสมัยของ รัชสมัยพระเจ้าเอกทัศน์

แห่งอยุธยา (ช่วงใกล้เสียกรุง)

กษัตริย์ และ ราชวงศ์สุดท้ายของพม่า คือ


กษัตริย์ และ ราชวงศ์สุดท้ายของพม่า



 พม่าในอดีตเคยเป็นประเทศ เอ้อไม่สิเรียกว่าอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ มาก่อนที่จะโดน

พิษของการล่าอาณานิคม จากอังกฤษทำให้ประเทศต้องตกเป็นเมืองขึ้นต่างชาติ

กษัตริย์ของพม่าก็ต้องสิ้นสุดลงแบ่งเป็นชนกลุ่มน้อยต่างๆมากมาย (ยังเป็นปัญหา

อยู่จนถึงทุกวันนี้) เรามาดูกันว่า ราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองพม่าและกษัตริย์องค์

สุดท้ายที่เป็นกษัตริย์ปกครองพม่านั้นคือพระองค์ใด


ราชวงศ์สุดท้ายคือ : ราชวงศ์คองบอง 

ราชวงศ์คองบอง เป็นราชวงศ์ที่ 3 ในประวัติศาสตร์พม่า และเป็นราชวงศ์สุดท้าย

ของพม่า ก่อนที่จะตกเป็นเมืองขึ้นของสหราชอาณาจักร โดยมี

- พระเจ้าอลองพญา  เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์คองบอง 1 ใน 3 กษัตริย์พม่า

( 3 มหาราช )ซึ่งมาจากสามัญชนที่สามารถรวบรวมแผ่นดินพม่าให้เป็นปึกแผ่น 

เด่นๆเลยคือ ปราบปรามมณีปุระ(คือหนึ่งในรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย)

และ กอบกู้ล้านนาคืนจากอยุธยาและประสบความสำเร็จในกรเข้ายึดครองอยุธยา 

(เสียกรุงครั้งที่ 2 ) ในรัชสมัยของ พระโอรสพระเจ้าอลองพญา คือ พระเจ้ามังระ
 
ที่ส่ง เนเมียวสีหบดี เข้ามากวาดต้อนผู้คนและกำลังพลจากหัวเมืองเหนือก่อน และ

ได้ส่งทัพจากทางใต้คือ มังมหานรธา เข้ามาเสริมช่วยอีกทัพหนึ่งทั้ง 2 ทัพนั้นเข้า

มาปิดล้อมอยุธยาอยู่ปีกว่าๆ ด้วยความไร้ประสิทธิภาพและการปล่อยประละเลย

ทางการทหารของอยุธยาทำให้ ต้องเสียให้แก่พม่าไปในสมัย

พระเจ้ามังระแห่งคองบอง    พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์พม่าที่รบกับไทย แล้วได้

รับชัยชนะจนอยุธยายับเยินที่สุดเท่าที่เคยมีมา    


กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของพม่า :  พระเจ้าธีบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งพม่า 

ต้องยอมประกาศสงครามกับอังกฤษอีกครั้ง เนื่องจากถูกอังกฤษเอาเปรียบเรื่องการ

ค้าไม้ จนในช่วงท้ายนั้นไม่สามารถต้านทานเทคโนโลยีและความทันสมัยทางทหาร

ของอังกฤษได้ พระเจ้าธีบอถูกบังคับให้สละราชสมบัติและประกาศยกเลิกระบอบ

กษัตริย์ในพม่าอังกฤษได้นำไปประทับที่รัตนคีรี ประเทศอินเดีย ซึ่งอยู่ใกล้ทะเล

อาหรับ เสมือนการเนรเทศพระองค์ออกไปจากอำนาจปกครองดินแดน และทรง

สวรรคตในวันที่ 19 ธันวาคม 1916 พระมเหสีได้รับอนุญาตให้อาศัยในย่างกุ้งได้จน

สิ้นพระชนม์เมื่อ 24 พฤศจิกายน 1925


ราชวงศ์คองบองเป็นราชวงศ์ที่มีความแข็งแกร่งในยุคเริ่มแรกถึงพระเจ้ามินดง

ที่พยายามปฏิรูปการปกครองและต่อสู้กับอังกฤษจนไม่สามารถต้านทานการล่า

อาณานิคมลงได้และในช่วงประเจ้าธีบอ พยายามเอาฝรั่งเศสเข้ามาถ่วงดุลและ

พยายามปรับเงินอังกฤษที่เอารัดเอาเปรียบในเรื่องการค้าขายจนเป็นเหตุให้

เกิดสงครามครั้งสุดท้ายที่ทำให้พม่าสิ้นสุดระบอบกษัตริย์ และราชวงศ์สุดท้าย

ของพม่า


3 กษัตริย์พม่าผู้ยิ่งใหญ่





3 กษัตริย์พม่า



    กษัตริย์พม่า ถ้าจะพูดถึงบรรดาพระมหากษัตริย์ของประเทศเพื่อนบ้าน

หลายๆพระองค์ที่เป็นของประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างพม่าที่เคยเกรียงไกรยิ่ง

ใหญ่ในอดีต  คงต้องพูดถึง กษัตริย์ 3 พระองค์ หรือจะเรียกว่า 3 กษัตริย์ของพม่า 

ที่ทางพม่าถือว่าเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ

ได้รับการยกยย่องจากชนรุ่นหลังว่าเป็นยอดกษัตริย์ของพม่า 3 กษัตริย์ของพม่า

นั้นมหาราชกษัตริย์พม่าถึงขนาดมี อนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์พระบรมราชานุสาวรีรย์

มหาราชทั้ง 3พระองค์ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเนย์ปีดอ

แลดูยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม

บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของพม่าในอดีตเป็นอย่างดี (ดูจากรูปใหญ่มาก อลังมาก

จริงๆขอบอก) ทั้งสามพระองค์ถือเป็นผู้ที่รวมพม่าให้เป็นปึกแผ่น ทั้ง 3 ท่าน

มีพระนาม(ชื่อ) ว่าอย่างไร ทรงมีอะไรที่ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป้นมหาราชบ้าง

มีคำอธิบายเล็กน้อยมาบอกเล่าครับเอาไว้เป็นความรู้รอบตัว



รูปสมเด็จพระนเรศวรในตอนที่บุกเข้าหงสา ซึ่งพระองค์เคยถูก

พระเจ้าบุเรงนอง นำไปอยู่ที่หงสาสมัยเป็นองค์ประกันซึ่งพระเจ้าบุเรงนอง

เองนั้นก็เป็น 1 ใน 3 มหาราชของพม่าด้วยเช่นกัน (ดูรูป กษัตริย์ทั้ง 3 

ของพม่าให้คลิ๊กที่รูปพระนเรศวรด้านบนไปดูได้เลยครับอยู่อีกหน้านึง 

1. พระเจ้าอโนรธามังช่อ  หรือ พระเจ้าอโนรธา 

ปฐมกษัตริย์พม่าแห่งราชวงศ์พุกามผู้ก่อตั้งอาณาจักรพุกาม เรื่องราวของพระเจ้า

อโนรธานั้นมีกล่าวอยู่มากมายในประวัติศาสตร์พม่า ทั้งตำนานพื้นบ้าน ศิลาจารึก

และปรัมปราต่าง ๆ จนดูคล้ายเป็นกษัตริย์ในตำนานมากกว่าจะมีพระองค์จริง

พระองค์ได้สถาปนาราชอาณาจักรที่แข็งแกร่งมั่นคงโดยรวมเอาเมืองประเทศราช

เล็ก ๆ ที่แยกกันเป็นส่วน ๆ มารวบรวมเข้ากับตอนกลางของพม่าหรือพุกามในอดีต

จนกลายเป็นปึกแผ่นเมืองต่างๆอย่างสะเทิมและยะไข่เข้ามาแล้วพร้อมด้วยการ

บริหารจัดการอย่างมีระบบทั้งเรื่องน้ำ มีเศรษฐกิจแบบพึ่งตนเอง มีการกั้นเหมือง

ฝายตามคู สามารถดำเนินการปกครองอย่างเป็นระบบ และสร้างเอกภาพโดยรวม

ให้กับพม่าและยังเป็นกษัตริย์ที่ทรงนำพระพุทธศาสนาเข้ามาในพม่าเป็น

พระองค์แรก


2. พระเจ้าบุเรงนองกะยอดินนรธา หรือ พระเจ้าบุเรงนอง

เป็นพระมหากษัตริย์พม่าจากราชวงศ์ตองอู เสวยราชย์ตั้งแต่ปี 2094 ถึงปี 2124 ทั้ง

เป็นพระมหากษัตริย์ไทย ล้านนา ล้านช้าง เงี้ยว และมณีปุระด้วย (รัฐมณีปุระคือ

หนึ่งในรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย)พระองค์ยังทรงเป็นที่รู้จักในประเทศ

ไทยว่า "พระเจ้าชนะสิบทิศ"   ยุคสมัยของพระองค์ อาณาจักรตองอูเข้มแข็งและ

แผ่ไพศาลอย่างที่สุดในประวัติศาสตร์ กินอาณาเขตมากมายมีประเทศราชอย่าง

ได้แก่ หงสาวดี ล้านช้าง ไทยใหญ่ เขมร ญวน อยุธยา เชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งถือว่า

ยิ่งใหญ่อย่างสุดีดเลยทีเดียว ง่ายๆคือมีอาณาเขตจากลุ่มน้ำอิระวดีจนถึงลุ่มแม่น้ำ

โขง ในปัจจุบันก็เป้นดินแดนในหลายประเทศของอาเซียนเลย การรบว่าเลิศงาน

ปกครองก็ไม่ยิ่งหย่อนพระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองอย่างปกติสุขไม่มีการแข็ง

เมืองของเหล่าประเทศราชนับว่าเป็นมหาราชของพม่าที่นำพาความยิ่งใหญ่และ

ความเป็นปึกแผ่นมาให้แก่อาณาจักรตองอู ได้อย่างไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน



3. พระเจ้าอลองพญา หรือ พระเจ้าอลองพญารี 

ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์คองบอง ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของพม่า พระองค์

กำเนิดเป็นสามัญชน โดยเป็นผู้นำหมู่บ้านแถบพม่าตอนบน สามารถรวบรวม

บ้านเมืองที่แตกเป็นเสี่ยงๆ จากชมกลุ่มน้อยต่างๆและอำนาจทางการเมือง

ของบรรดาเจ้าแคว้นใหญ่ๆให้เป็นปึกแผ่น ปราบปรามมณีปุระ ตีล้านนาคืน

จากอยุธยา ได้และขับชาวอังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งให้การสนับสนุนราชอาณา

จักรหงสาวดีฟื้นฟูของชาวมอญ ปราบปรามมอญที่ขึ้นมามีอิทธิพลแทนที่

ชนชาวพม่า หลังการล่มสลายของราชวงศ์ตองอู จนได้รับชัยชนะเด็ดขาด

และปกครองพม่ามาอย่างผาสุข พระเจ้าอลองพญาสิ้นพระชนม์ระหว่างทาง

กลับจากการทำสงครามกับอยุธยา รัชสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ตามพงศาวดาร

ไทยระบุว่าสิ้นพระชนม์เพราะปืนใหญ่แตกที่วัดหน้าพระเมรุ แต่ทางพงศาวดาร

พม่าระบุว่าสิ้นพระชนม์เพราะประชวร


กษัตริย์พม่าทั้ง 3 มีจุดที่เหมือนกันคือ ทรงเป็นผู้รวบรวมพม่าให้เป็นปึกแผ่นและ

บริหารปกครองบ้านเมืองเป็นอย่างดีทำให้ได้รับเป็น 3 กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งพม่า

มหาราชกษัตริย์พม่า 


* 2 ใน 3พระองค์นั้น เป็นกษัตริย์พม่าที่รบกับไทย  (อยุธยา) มีพระองค์แรกคือ

พระเจ้าอโนรธามังช่อ  ที่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าทำสงครามกับไทย






กษัตริย์พม่าที่รบกับไทย






กษัตริย์พม่าที่รบกับไทย



  กษัตริย์พม่าที่รบกับไทยเป็นบทความที่พยายามรวบรวมกษัตริย์พม่าที่เข้ามาทำศึก

กับอยุธยาหรือไทยในทุกๆรัชกาล เพื่อนำไว้เป็นความรู้รอบตัวด้วยว่าพม่าและไทย

ทำสงครามกันในสมัยของกษัตริย์พม่าองค์ใดกันบ้างด้วยคำอธิบายเล็กๆน้อยๆหลัง

รายพระนามกษัตริย์พม่า  (เป็นการรวบรวมขึ้นมาเองโดยผู้เขียนถ้าผิดพาดหรือตก

หล่นประการใดขอภัยท่านผู้อ่านมา ณ ที่นี้ด้วย) สงครามพม่ารบไทย

กองทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเข้าสู่กรุงหงสาวดี


1. พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ : ทรงได้รับการกล่าวขานว่าเป็นกษัตริย์นักรบที่เก่งกาจ

เพราะตลอดรัชกาลพระองค์ทำสงครามเป็นส่วนใหญ่ อยูะยาแน่นอนก็เคยโดนบุก

มาแล้วน่าจะจำกันได้ก็สงครามที่ฝ่ายอยุธยาต้องเสียสมเด็จพระสุริโยทัย ในการ

ทำสงครามระหว่างอาณาจักรตองอูกับอาณาจักรอยุธยา


2. บุเรงนอง : ผู้พิชิต พิชิตอาณาจักรอยุธยา ล้านนา ล้านช้าง มณีปุระ ไทใหญ่

พระองค์ถือเป็นหนึ่งในสามมหาราชพม่าพร้อมด้วยพระเจ้าอโนรธามังช่อและ

พระเจ้าอลองพญา  พระเจ้าบุเรงนองยังถือว่าเป็นกษัตริย์นักปกครองและบริหารที่

เก่งกาจมีความสามารถในการสงครามและการปกครองอย่างดี


3. พระเจ้านันทบุเรง : เป็นพระราชโอรสพระองค์โตของพระเจ้าบุเรงนอง ผู้ที่

หมายจะจับตัวพระนเรศวรเป็นกลับไปอีกครั้งแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้จนในช่วงท้าย

ของชีวิตนั้นพระเจ้านันทบุเรงได้ทำสงครามกับอาณาจักรอยุธยาหลายต่อหลายครั้ง

เพื่อปราบปรามอยุธยาลงให้ได้ประเทศราชอื่นๆจะได้ไม่แข็งเมืองตาม ที่น่าจะจด

จำกันได้คือโอรสของพระองค์คือ มังสามเกียดหรือพระอุปราชที่มาทำยุทธหัตถีกับ

สมเด็จพระนเรศวร และเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จนถึงขั้นสิ้นพระชนม์ขาดคอช้าง


4. พระเจ้าอโนเพตลุน หรือ พระเจ้าอังวะมหาธรรมราชา : เคยทำศึกที่ทวาย

และเลยไปตีที่ตะนาวศรีของอยุธยาได้สู้รบกันกับอยุธยาแล้วแพ้ไปรวมทั้งไปทำศึก

ที่ล้านนาเพื่อจัดการความวุ่นวายเสร็จหลังจากนั้นอยุธยาก็ยกทัพไปล้านนาล้านนา

ก็กลับไปเข้าข้างไทยและไล่ขุนนางพม่าไปหมด


5. พระเจ้าปเย (พระเจ้ามหาสีหสุรสุธรรมราชา) : เป็นรช่วงเดียวกับรัชสมัย

ของ  สมเด็จพระนารายณ์ และในสมัยของพระเจ้าปเยนั้นก็ได้รับศึกจากอยุธยา

ที่สมเด็จพระนารายณ์นั้นได้สั่งให้ยกเข้ามาตีอังวะเพื่อแก้แค้นที่กองทัพพม่ายก

ทัพเข้ามาติดตามครอบครัวชาวรามัญที่หนีเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารครั้งนั้น

พระองค์โปรดให้เจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) เป็นแม่ทัพ ยกกองทัพไปตีเมือง

ทวาย เมืองเมาะตะมะ แต่สุดท้ายด้วยขัดสนซึ่งเสบียง ทหารเจ็บป่วยเป็นไข้กัน

มากมายจึงได้ยกทัพกลับ


6. พระเจ้าอลองพญา : ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์คองบอง สามารถรวบรวมบ้าน

เมืองให้เป็นปึกแผ่น ปราบปรามมณีปุระ กอบกู้ล้านนาคืนจากอยุธยา ฟื้นฟูอาณา-

จักรหงสาวดีทรงเป็นกษัตริย์พม่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 พระองค์ ร่วมกับ พระเจ้า

อโนรธามังช่อ และ พระเจ้าบุเรงนอง พระเจ้าอลองพญา สิ้นพระชนม์ระหว่างทาง

กลับจากการทำสงครามกับอยุธยา ตามพงศาวดารไทยระบุว่าสิ้นพระชนม์เพราะ

ปืนใหญ่แตกที่วัดหน้าพระเมรุ แต่ทางพงศาวดารพม่าระบุว่าสิ้นพระชนม์เพราะ

ประชวร (พระองค์เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์สุดท้ายของพม่าอีกด้วย)


7. พระเจ้ามังระ :  เป็นพระโอรสองค์ที่ 2 ในจำนวน 6 พระองค์ของพระเจ้าอลอง-

พญาส่งกองทัพนำโดยเนเมียวสีหบดีและมังมหานรธาเข้ามาปิดล้อมกรุงศรีอยุธยา

นานถึง 1 ปีกับสองเดือน แม้ถึงฤดูน้ำหลากก็ไม่หนี ก็สามารถเข้าตีพระนครได้ทำให้

เสียกรุงเป็นครั้งที่ 2 นับว่าเป็นสงครามพม่ารบไทย และทำให้ไทยยับเยินที่สุดนับ

ตั้งแต่มีสงครามมา


8. พระเจ้าจิงกูจา :  พระโอรสของพระเจ้ามังระ ขึ้นครองราชย์ด้วยพระชันษา

เพียง 19 ปี พระเจ้าจิงกูจาต้องการรักษาอำนาจในล้านนาเอาไว้จึงส่งทัพเข้ามาช่วย

คนของพระองค์ที่ดูแลเชียงใหม่อยู่ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้แก่ไทย ทางไทยจึงให้ทิ้ง

เมืองเชียงใหม่เป็นเมืองร้างไม่มีประโยชน์อันใดเสียเพื่อภายหลังจะได้ไม่ต้อง

แย่งชิงกัน เชียงใหม่จึงกลายเป็นเมืองร้างอยู่ถึงประมาณ 15 ปี และหลังจากนั้น

ไทยกับพม่าก็ว่างสงครามกันมาเป็นเวลา 8 ปีเลยทีเดียว ( เชียงใหม่เคยร้าง 15 ปี

ถือว่าเป็นความรู้รอบตัวที่ดีเลยครับ อ่านมาจากหนังสือไทยรบพม่าครับ)


9. พระเจ้าปดุง : ขึ้นครองราชย์โดยการปราบดาภิเษกในปี พ.ศ. 2325 ปีเดียวกับ

การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ทรงทำสงครามกับไทยมากมายหลายครั้งทั้งศึกเล็ก

จนไปถึงศึกใหญ่อย่างสงคราม 9 ทัพนับว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงทำสงครามกับ

ไทยมากพระองค์นึงเลยทีเดียวผลัดแพ้ชนะในศึกเล็กๆกับไทยตลอดแต่ศึกใหญ่นั้น

ก็ยังไม่สามารถล้มไทยลงได้เลย พระองค์จึงไม่สามารถสร้างประวัติศาตร์ให้จารึก

ได้ว่าล้มสยามลงได้ ทั้งๆที่พยายามอยู่หลายครั้งก็ตามแต่


10. พระเจ้าจักกายแมง : ในสมัยเดียวกับพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า-

นภาลัย กับ สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ไทยช่วยอังกฤษรุกรานพม่าผลสรุป

สุดท้ายพระเจ้าจักกายแมงก็ต้องขอยอมแพ้หลังจากโดนตีถอยร่นเรื่อยๆจนถึง

อังวะ