แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ราชวงศ์คองบอง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ราชวงศ์คองบอง แสดงบทความทั้งหมด

รายพระนาม กษัตริย์พม่าราชวงศ์คองบอง




รายพระนาม กษัตริย์พม่าราชวงศ์คองบอง




1. พระบาทสมเด็จพระมหาโพธิสัตว์เจ้า หรือ พระเจ้าอลองพญา : ปฐมกษัตริย์แห่ง

ราชวงศ์คองบอง ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของพม่า*แต่เดิมนั้นเป็นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้าน

มอกโชโบหรือหมู่บ้านคองบองหรือเมืองชเวโบในปัจจุบัน สามารถขับไล่ชาวต่างชาติ

ที่สนับสนุนมอญออกไปได้ กอบกู้รวบรวมบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น พระองค์ทรงก่อตั้ง

เมืองย่างกุ้ง สามารถยึดเมืองคืนจากราชวงศ์ชิง ของจีน ยึดแหลมเนกิสคืนจากอังกฤษ

ยึดครองมณีปุระและทำสงครามกับอยุธยา แต่ไม่สำเร็จและสวรรคตในครั้งนั้น

               ในประวัติศาสตร์ไทยกล่าวว่าพระองค์สวรรคตจากปืนใหญ่ระเบิดแต่ใน

พงศาวดารพม่าบอกไว้ว่าพระองค์สวรรคตจากโรคบิด นอกจากนี้พระองค์ยังเป็น 1 ใน

3 กษัตริย์พม่าผู้ยิ่งใหญ่* มีอนุสาวรีย์อยู่ที่เมือง เนปิดอว์ เมองหลวงของพม่า ร่วมกับ

พระเจ้าอโนรธามังช่อ และ พระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งทั้ง 3 พระองค์เป็นมหาราชของพม่า



2. พระเจ้าเนียงดอคยี : หรือ พระเจ้าเมิงลอก (มังลอก) พระบรมเชษฐาธิราช

พระราชโอรส (ราชโอรสองค์โตในพระเจ้าอลองพญา) ในสมัยของพระองค์นั้นมีการ

เกิดกบฏหลังจากพระเจ้าอลองพญาสวรรคตไป แต่พระองค์ก็ไม่ได้ลงโทษให้อภัยโทษ

เนื่องด้วยเกรงว่าจะเกิดการนองเลือดขึ้นได้ พระเจ้าเนียงดอคยีสวรรคตด้วยพระโรคบิด

เช่นเดียวกับพระราชบิดาของพระองค์ ที่ตามพงศาวดารพม่าได้บอกไว้



3. พระเจ้ามังระ : สิริสุริยาธรรมราชาธิบดี สินพยูฉิน หรือพระเจ้าสินพยูฉิน เรียกกันอีก

ชื่อว่า พระเจ้าช้างเผือก ในสมัยพระองค์นั้น สาารถตีเอาเมืองมณีปุระคืนมาได้ และยึด

ลาวกับล้านนาได้และผลงานชิ้นสำคัญของพระองค์คือ การที่สามารถยึดกรุงศรีอยุธยา

(โยเดีย) ได้ เป็นสาเหตุให้เสียกรุงครั้งที่2*  ในวันที่ 7 เมษายน 1767 ในสมัยพระองค์

ยังได้ทำสงครามกับ ราชวงศ์ชิงในยุคของจักรพรรดิเฉียนหลงอีกด้วยและได้รับชัยชนะ

อย่างสวยงาม พระองค์ยังได้ทำการรบกับพระเจ้าตาก แต่ยังไม่เสร็จศึกพระองค์ก็

สวรรคตเสียก่อน ในวันที่ 10 มิถุนายน 1776 สิริพระชนมายุ 39 พรรษา



4. พระเจ้าจิงกูจา : หรือพระเจ้าซินกูมิน ขึ้นครองราชย์ด้วยพระชันษาเพียง 19 ปี

พระเจ้าจิงกูจาครองราชย์เพียงชั่วระยะเวลาไม่นาน ก็ถูกเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง คือ

หม่องหม่อง โอรสของพระเจ้ามังลอก แย่งราชสมบัติอีก



5. พระเจ้าหม่องหม่อง : พองกาซาหม่องหม่อง อยู่ในอำนาจได้เพียงแค่ 7 วันเท่านั้น

ปโดงเมง เจ้าเมืองปโดง ซึ่งเป็นพระโอรสพระองค์หนึ่งของพระเจ้าอลองพญา ก็ยกทัพ

เข้ามา ยึดอำนาจไป  ปโดงเมง คนนั้นก็คือพระเจ้าปดุง



6. พระเจ้าปดุง : พระบรมอัยกาธิราชพระเจ้าบาดงพระเจ้าช้างเผือก เป็นอีกพระองค์ที่มา

ทำการรบกับสยาม ในขณะนั้นคือกรุงรัตนโกสินทร์ เป็น 1 ในหลายๆพระองค์ และนั่นเอง

พระองค์เป็น กษัตริย์พม่าที่รบกับไทย*  ที่ดังๆเลยคือ สงคราม 9 ทัพ* พระองค์ ทรง

ย้ายเมืองหลวงไปที่อมรปุระ และได้มีการรุกรานอาณาจักรยะไข่และตีสำเร็จในเวลาต่อมา

พระเจ้าปดุง สวรรคตในปี พ.ศ. 2362 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

ของไทย รวมระยะเวลาการครองราชย์นานถึง 37 ปี




7. พระเจ้าพาคยีดอ : พระเจ้าจักกายแมง   มีนโยบายขยายอำนาจเข้าไปในแคว้นอัสสัม

และมณีปุระ และสามารถทำได้ แต่ปัญหาของพระองค์คืออาณาจักรมณีปุระกับอาณาจักร

อาหมหรืออัสสัมถูกพระองค์ยึดไว้นี่แหละครับ เพราะทำให้มีปัญหากับอังกฤษ จนเกิดเป็น

สงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่ 1 ส่งผลให้พระองค์เสียพระทัยอย่างมากเพราะต้องลงนามใน

สัญญาดาโบ ที่มีรายละเอียดว่า


1.ยกดินแดนอัสสัม,มณีปุระ,ยะไข่,ตะนาวศรี และทางตอนใต้ของแม่น้ำสาละวิน


2.ไม่เข้ามาแทรกแซงกาชาร์กับไจน์ติญา


3.จ่ายค่าปฏิกรรมสงครามเป็นจำนวนเงินล้านปอนด์


4.อนุญาตให้มีการติดต่อระหว่างผู้แทนของอังวะกับกัลกาตา


5.เซ็นสัญญาร่วมการค้า  (คงไม่ต่างกันมากกับ สนธิสัญญาเบาว์ริง *  ที่ไทยโดน)


ทำให้พระองค์ไม่มีจิตใจบริหารปกครองประเทศ ส่งผลให้อำนาจตกอยู่ที่มเหสี และ

พระเชษฐา ถูกกักบริเวณจากข้อหาว่าเป็นโรคประสาทจนพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อ

15 ตุลาคม พ.ศ. 2389



8. พระเจ้าสารวดี :  หรือพระเจ้าแสรกแมง  พระองค์คือผู้ที่ตับประเจ้าพาคยีดอ คุมขัง

ไว้แล้วขึ้นครองราชย์แทน ต่อมาพระองค์เองก็ทรงมีพระสติวิปลาสและถูกพระโอรสคือ

เจ้าชายพุกาม มิน หรือในพงศาวดารไทยเรียกพระเจ้าพุกามแมงควบคุมตัวไว้ตั้งแต่

พ.ศ. 2385 และสวรรคตเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2389



9. พระเจ้าพุกาม : ในรัชสมัยของพระองค์ พม่าได้ทำสงครามกับอังกฤษอีกครั้งจนต้อง

เสียดินแดนพะโคและพม่าตอนใต้เกือบทั้งหมด และได้มีกบฏเกิดขึ้นโดยเจ้าชายมินดง

พระอนุชาของพระเจ้าพุกามแมงซึ่งไม่เห็นด้วยกับการทำสงครามกับอังกฤษตั้งแต่ต้น

และปลดพระองค์ออกจากราชสมบัติเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2395



10. พระเจ้ามินดง : พระองค์เป็นผู้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่อมรปุระ และมัณฑะเลย์ ทรง

ปฏิรูปการปกครองพม่าใหม่ให้ทันสมัยกว่าเดินและสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับอังกฤษแต่ถึง

อย่างนั้นก็ยังเกิดความขัดแย้งกับอังกฤษทำให้ต้องเสียดินแดนไปให้อีกจำนวนมาก

ปัญหาการแย่งชิงอำนาจภายในประเทศทำให้เกิดการสังหารหมู่พระราชวงศ์จำนวนมาก

หลังสิ้นรัชกาลพระเจ้ามินดงแล้ว เป็นจุดที่ให้ลจะสูญสิ้นของราชวงศ์คองบองเต็มที



11. พระเจ้าธีบอ : พระเจ้าสีป่อ หรือ พระเจ้าธีบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งพม่า ต้องยอม

ประกาศสงครามกับอังกฤษอีกครั้ง เพราะโดนเอาเปรียบเรื่องการค้าไม้ และแน่นอนว่า

พระองค์ไม่สามารถเอาชนะอังกฤษได้จำต้องยอมแพ้และถูกบังคับให้สละราชสมบัติและ

เนรเทศไปอยู่ที่เมืองรัตนคีรี ประเทศอินเดีย หลังสิ้นสงครามพม่า-อังกฤษ ครั้งที่ 3 และ

สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2459


จบราชวงศ์คองบองราชวงศ์สุดท้ายของพม่า







พระเจ้าอลองพญา : ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์คองบอง




พระเจ้าอลองพญา



        ราชวงศ์คองบองนั้น ก่อตั้งโดย ผู้นำหมู่บ้านที่รวบรวมกำลังชนพม่าเข้าต่อสู้

กับพวกมอญ จนสามารถขับไล่และทำลายอาณาจักรมอญให้ล่มสลาายได้สำเร็จ

สามารถปราบปรามมอญที่ขึ้นมามีอิทธิพลแทนที่ชนชาวพม่า หลังการล่มสลาย

ของราชวงศ์ตองอู ได้สถาปนาตนขึ้นเป็นกษัตริย์ ในปี พ.ศ. 2295 จนได้รับ

ชัยชนะเด็ดขาด ในปี ค.ศ. 1757หรือประมาณปี พ.ศ. 2300 และตั้งเมือง ชเวโบ

เป็นเมืองหลวง และได้ย้ายเมืองหลวงมาที่อังวะ ตามลำดับนับเป็นอาณาจักรยุคที่ 3

ของพม่า


   ในสมัยราชวงศ์คองบอง นี้พม่ามีการทำสงครามกับหลายเชื่อชาติหลักๆคือกับ

สยาม (ไทย) จีน เพื่อทำการยึดเมืองคืนจากราชวงศ์ชิง  รวมถึงตอนที่หนักที่สุด

คือการรบกับอังกฤษ ถึงขั้นสิ้นราชวงศ์กันเลยทีเดียว


กษัตริย์ราชวงศ์คองบอง


 พระเจ้าอลองพญา

 - ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์คองบอง ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของพม่า พระองค์

กำเนิดเป็นสามัญชน โดยเป็นผู้นำหมู่บ้านแถบพม่าตอนบน สามารถรวบรวมบ้าน

เมืองให้เป็นปึกแผ่น ปราบปรามมณีปุระ เข้าตีชิงดินแดนล้านนาคืนจากอยุธยา

และขับชาวอังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งให้การสนับสนุนราชอาณาจักรหงสาวดีของ

ชาวมอญ พระองค์ทรงก่อตั้งเมืองย่างกุ้งในปี พ.ศ. 2298 ทรงเป็นกษัตริย์พม่าที่

ยิ่งใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 พระองค์ มหาราช 3 กษัตริย์พม่า เพราะพระองค์เป็นผู้นำของ

พม่าในยุคอาณาจักรที่ 3 ที่สามารถปราบปรามมอญที่มีอิทธิพลแทนที่ชาวพม่า

ลงได้ หลังจากสิ้นราชวงศ์ตองอู พัฒนาบ้านเมืองไปถึงขีดสุดทำพม่าให้เป็น

ปึกแผ่น


การสงครามพระเจ้าอลองพญากับไทย (กษัตริย์พม่าที่รบไทย)


  - ในประวัติศาสตร์มี 1 ครั้งคือตอนที่พม่ากล่าวหาว่าไทยช่วยมอญ (เพราะมอญ

ที่โดนพม่าของพระเจ้าอลองพญาตีแตกมาขออยู่ในเมืองมะริดซึ่งตอนนั้น

เป็นของไทย) พม่าจึงเคืองใจ อยุธยาไม่น้อย  หลังจากพระเจ้าอลองพญาทรง

ฉลองพระเกศธาตุที่เมืองย่างกุ้งที่ได้ให้ลงมือ ปรับปรุงปฏิสังขรขึ้นมาใหม่แล้ว

จึงได้ยกทัพนำโดยมังระราชบุตรและมังฆ้องนรธา ยกทหารมาเข้ามาหมายจะ

ตีเอาทวายและตะนาวศรี แต่ด้วยความที่อยุธยาในตอนนั้นรู้จักแต่ทำการค้า

ไม่สนใจเรื่องการป้องกันประเทศไม่สนใจด้านการทหารเท่าที่ควรทำให้กอง

กำลังอ่อนแอลงมากพม่าเห็นว่าอยุธยานั้นอ่อนแอยิ่งนักจึงพ้นเข้ามาล้อมกรุงศรี

เอาไว้ หลังจากพระเจ้าอลงพญาตีค่ายที่ทุ่งตาลานแตกก็ยกทัพเข้ามาสมทบ

ที่กรุงศรีอยุธยาทันทีพม่าฆ่าฟันชาวกรุงทั้งไทยจีนตายลงไปเป็นอันมาก

ได้ใจใหญ่จึงรุกตีเข้ามาเรื่อยๆแต่ก็ไม่มีปรากฏว่าไทยออกไปรบพุ่งกับพม่าอีก

แค่รักษาพระนครไว้เท่านั้น พม่าจึงเปลี่ยนกลยุทธใหม่โดยการเอาปืนใหญ่ไป

ตั้งที่วัดหน้าพระเมรุและวัดช้าง(หัสตาวาส) ได้ระดมยิงปืนใหญ่เข้ามาทั้งกลางวัน

และกลางคืน กระสุนปืนใหญ่ไปถูกเอายอดพระที่นั่งสุริยอัมรินทร์หักลงมา ในการ

ยิงปืนใหญ่ของพม่าพระเจ้าอลองพญาทรงลงมาบัญชาการเอง บรรจุกระสุน

ปืนใหญ่เอง และยิงเองแต่โชคร้ายปืนใหญ่ที่พระองค์ยิงแตก ปืนแตกถูกพระองค์

บาดเจ็บสาหัส พม่าจึงต้องรีบยกทัพกลับอย่างเร่งด่วน แต่ยังไม่ทันถึงเมืองพม่า

ยังไม่ทันพ้นเมืองตากพระเจ้าอลองพญาก็สิ้นพระชนม์ลงไป พม่ารับถอยทัพโดย

ทิ้งปืนใหญ่เอาไว้มากมาย ฝังดินทิ้งไว้ (เดี๋ยวคงได้เอาคืนตอน เสียกรุงครั้งที่ 2)


พระเจ้าอลองพญาสิ้นพระชนม์ลงในวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2303 ใน

พงศาวดารไทยบอกว่าบาดเจ็บจากปืนใหญ่แตกและสิ้นพระชนม์กลางทาง

ยกทัพกลับแต่ของพม่าระบุว่าทรงสิ้นพระชนม์เพราะประชวร การสงครามและ

รัชสมัยของพระองค์นั้นตรงกับ รัชสมัยของ รัชสมัยพระเจ้าเอกทัศน์

แห่งอยุธยา (ช่วงใกล้เสียกรุง)

กษัตริย์ และ ราชวงศ์สุดท้ายของพม่า คือ


กษัตริย์ และ ราชวงศ์สุดท้ายของพม่า



 พม่าในอดีตเคยเป็นประเทศ เอ้อไม่สิเรียกว่าอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ มาก่อนที่จะโดน

พิษของการล่าอาณานิคม จากอังกฤษทำให้ประเทศต้องตกเป็นเมืองขึ้นต่างชาติ

กษัตริย์ของพม่าก็ต้องสิ้นสุดลงแบ่งเป็นชนกลุ่มน้อยต่างๆมากมาย (ยังเป็นปัญหา

อยู่จนถึงทุกวันนี้) เรามาดูกันว่า ราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองพม่าและกษัตริย์องค์

สุดท้ายที่เป็นกษัตริย์ปกครองพม่านั้นคือพระองค์ใด


ราชวงศ์สุดท้ายคือ : ราชวงศ์คองบอง 

ราชวงศ์คองบอง เป็นราชวงศ์ที่ 3 ในประวัติศาสตร์พม่า และเป็นราชวงศ์สุดท้าย

ของพม่า ก่อนที่จะตกเป็นเมืองขึ้นของสหราชอาณาจักร โดยมี

- พระเจ้าอลองพญา  เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์คองบอง 1 ใน 3 กษัตริย์พม่า

( 3 มหาราช )ซึ่งมาจากสามัญชนที่สามารถรวบรวมแผ่นดินพม่าให้เป็นปึกแผ่น 

เด่นๆเลยคือ ปราบปรามมณีปุระ(คือหนึ่งในรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย)

และ กอบกู้ล้านนาคืนจากอยุธยาและประสบความสำเร็จในกรเข้ายึดครองอยุธยา 

(เสียกรุงครั้งที่ 2 ) ในรัชสมัยของ พระโอรสพระเจ้าอลองพญา คือ พระเจ้ามังระ
 
ที่ส่ง เนเมียวสีหบดี เข้ามากวาดต้อนผู้คนและกำลังพลจากหัวเมืองเหนือก่อน และ

ได้ส่งทัพจากทางใต้คือ มังมหานรธา เข้ามาเสริมช่วยอีกทัพหนึ่งทั้ง 2 ทัพนั้นเข้า

มาปิดล้อมอยุธยาอยู่ปีกว่าๆ ด้วยความไร้ประสิทธิภาพและการปล่อยประละเลย

ทางการทหารของอยุธยาทำให้ ต้องเสียให้แก่พม่าไปในสมัย

พระเจ้ามังระแห่งคองบอง    พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์พม่าที่รบกับไทย แล้วได้

รับชัยชนะจนอยุธยายับเยินที่สุดเท่าที่เคยมีมา    


กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของพม่า :  พระเจ้าธีบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งพม่า 

ต้องยอมประกาศสงครามกับอังกฤษอีกครั้ง เนื่องจากถูกอังกฤษเอาเปรียบเรื่องการ

ค้าไม้ จนในช่วงท้ายนั้นไม่สามารถต้านทานเทคโนโลยีและความทันสมัยทางทหาร

ของอังกฤษได้ พระเจ้าธีบอถูกบังคับให้สละราชสมบัติและประกาศยกเลิกระบอบ

กษัตริย์ในพม่าอังกฤษได้นำไปประทับที่รัตนคีรี ประเทศอินเดีย ซึ่งอยู่ใกล้ทะเล

อาหรับ เสมือนการเนรเทศพระองค์ออกไปจากอำนาจปกครองดินแดน และทรง

สวรรคตในวันที่ 19 ธันวาคม 1916 พระมเหสีได้รับอนุญาตให้อาศัยในย่างกุ้งได้จน

สิ้นพระชนม์เมื่อ 24 พฤศจิกายน 1925


ราชวงศ์คองบองเป็นราชวงศ์ที่มีความแข็งแกร่งในยุคเริ่มแรกถึงพระเจ้ามินดง

ที่พยายามปฏิรูปการปกครองและต่อสู้กับอังกฤษจนไม่สามารถต้านทานการล่า

อาณานิคมลงได้และในช่วงประเจ้าธีบอ พยายามเอาฝรั่งเศสเข้ามาถ่วงดุลและ

พยายามปรับเงินอังกฤษที่เอารัดเอาเปรียบในเรื่องการค้าขายจนเป็นเหตุให้

เกิดสงครามครั้งสุดท้ายที่ทำให้พม่าสิ้นสุดระบอบกษัตริย์ และราชวงศ์สุดท้าย

ของพม่า