แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บุคคลสำคัญ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บุคคลสำคัญ แสดงบทความทั้งหมด

บุคคลสำคัญในสมัยยุคเรเนอซองส์ Renaissance

 


บุคคลสำคัญในสมัยยุคเรเนอซองส์ Renaissance


บุคคลสำคัญ ในสมัยรุ่งเรืองมาก ยุคเรเนอซองส์ Renaissance ก่อนจะเข้ายุคสงครามโลก ครั้งที่ 1ซึ่ง

ถือเป็นการสิ้นสุดของยุคข้อมูลรายละเอียด 

บุคคลสำคัญในสมัยยุคเรเนอซองส์ Renaissance


รายชื่อด้านล่างเป็นใคร มีความสำคัญอย่างไรบ้าง 



ผู้ปฏิรูปศาสนาคริสต์ 



- มาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther)



ศิลปินและนักสถาปนิก ที่สำคัญในสมัยเรอเนซองส์ 



- ฌอง โฟเคท์ (Jean Fouquet)



- เลโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci)



- ไมเคิล แองเจลโล (Michel Angelo)



-  ราฟาเอล (Raphael) 



-  ซานโดร  บอตติเซลลี (Sandro Botticelli)



- ติเตียน เกรกโก 



- อันเดรอา ปัลลาดีโอ Andrea Palladio



- ฟีลิปโป บรูเนลเลสกี (Filippo Brunelleschi)



วิทยาศาสตร์ และ นักประดิษฐ์ ที่สำคัญในสมัยเรอเนซองส์ 



- โยฮันน์ กูเทนแบร์ก (Johannes Gensfleisch zur Laden zum Gutenberg)



- นิโคลัส โคเพอร์นิคัส ( Nicolaus Copernicus Torinensis)



- กาลิเลโอ  กาลิเลอี (Galileo Galilei)



- ไอแซก นิวตัน  ( Isaac Newton)



- ริชาร์ด เทรวิทิค (Richard Trevithick)



- จอห์น สมีตัน 



วรรณกรรม และนักเขียน และนักปราชญ์ ที่สำคัญในสมัยเรอเนซองส์ 



- ฟรองซัวส์ ราเบเลส์ (Francois Rabelais)



- ปีแยร์ เดอ รอนซาร์ด (Pierre de Ronsard) 



- วิลเลียม เชกสเปียร์ (William Shakespeare)



- คริสโตเฟอร์ มาร์โลว์ (Christopher Marlowe) 



- เดสิเดอริอุส อีราสมุส รอตเตอโรดามุส (Desiderius Erasmus Roterodamus 



- โทมัสมอร์ (Thomas More)



- โทมัส ฮอบส์ (Thomas Hobbes) 



- จอห์น ล็อก (John Locke) 



- นิกโกเลาะ ดี แบร์นาโด เดย์ มาเกียเวลลี (Niccol? di Bernardo dei Machiavelli)





แอนเดอร์ เซลเซียส (องศาเซลเซียส) Anders Celsius

 


แอนเดอร์ เซลเซียส (องศาเซลเซียส)

แอนเดอร์ เซลเซียส (องศาเซลเซียส)



แอนเดอร์ เซลเซียส ( Anders Celsius) 


แอนเดอร์ เซลเซียส (องศาเซลเซียส) Anders Celsius



 - แอนเดอร์ เซลเซียส เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 17011



 - เกิดที่เมืออุปซอลา (หรือ อุปซัลลา เป็นศูนย์กลางของมณฑลอุปซอลาและเมืองใหญ่สุดลำดับที่สี่

ของประเทศสวีเดน รองจากสต็อกโฮล์ม, โกเทนบอร์ย และ มัลโม่) 

ประเทศสวีเดน เป็นนักดาราศาสตร์ชาวสวีเดน



 - แวดวงและสาขางานของ แอนเดอร์ เซลเซียส คือ ดาราศาสตร์ , วิชาฟิสิกส์ , คณิตศาสตร์ 

และ ธรณีวิทยา 



 - ได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ในมหาววิทยาลัย Uppsala University เมื่ออายุได้ 29 ปีและ

ทำงานที่นั่นตั้งแต่



ปี ค.ศ. 1730 - 1744



 - เซลเซียสเป็นผู้คิดแบ่งช่องหรือขีดเทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดอุณหภูมิเมื่อปี ค.ศ. 1742



 - โดยนับอุณหภูมิของน้ำแข็งเท่ากับ 0 องศา และที่จุดเดือดของน้ำที่ 100 องศา โดยเรียกชื่อว่า

องศาเซนติเกรด ซึ่งใช้มาเป็นเวลานาน ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่เป็นองศาเซลเซียสเพื่อ

เป็นเกียรติเขา หน่วยนี้มีชื่อเรียกต่างกัน ได้แก่  เซนติเกรด (centigrade)



องศาเซลเซียส



 - ในปี 1741 เซลเซียสได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการหอดูดาวของมหาวิทยาลัยที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติ

แก่ แอนเดอร์ เซลเซียส นักดาราศาสตร์ชาวสวีเดนผู้นี้นี่เอง



 - แอนเดอร์ เซลเซียส  เซลเซียสเสียชีวิตด้วยอายุเพียง 42 ปี ในวันที่ 25 เมษายน 1744



 -  แต่นับจากนั้นมา ชื่อที่ถูกเลือกเป็นทางการคือ องศาเซลเซียส จากการประชุม General Conference 

on Weights and Measures ครั้งที่ 9 โดยมีจุดประสงค์เพื่อระลึกถึงเซลเซียส และเป็นการตัดปัญหา

ความสับสนที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้คำนำหน้า centi- กับระบบเอสไอ และจากการที่นิยามเดิมไม่

เหมาะสมที่จะใช้เป็นมาตรฐานอย่างเป็นทางการ



 - ปัจจุบันองศาเซลเซียสใช้กับแพร่หลายทั่วโลกในชีวิตประจำวัน จะยกเว้นก็มีสหรัฐอเมริกาและ

ประเทศจาไมกาเท่านั้นที่นิยมใช้หน่วยองศาฟาเรนไฮต์ แต่ในประเทศดังกล่าว องศาเซลเซียส

และเคลวินก็ใช้มากในด้านวิทยาศาสตร์






เอ็ดวิน ฮับเบิล Edwin Hubble

 


เอ็ดวิน ฮับเบิล  Edwin Hubble

เอ็ดวิน ฮับเบิล  Edwin Hubble




เอ็ดวิน พาเวลล์ ฮับเบิล ( Edwin Powell Hubble) 


เป็นนักดาราศาสตร์ อเมริกัน อย่าสับสนกับ เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ นะ ที่ค้นพบว่า เอกภพนั้นกำลังขยายตัว 

เขาเป็นบุคคลสำคัญในการศึกษารายละเอียดของดาวฤกษ์แต่ละดวงในกาแล็กซี เอ็ม 33 ซึ่งเป็น

กาแล็กซีเพื่อนบ้าน พบว่าดาวฤกษ์เหล่านี้อยู่นอกกาแล็กซี่ของเราออกไปกำลังเคลื่อนห่างจาก

กาแลคซี่ ของเราออกไปทุกทีๆ และเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจกาล-อวกาศในมุมมองใหม่ที่น่าอัศจรรย์


เอ็ดวิน ฮับเบิล  Edwin Hubble


 - เอ็ดวิน ฮับเบิล เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1889 ที่ มาร์ชฟิลด์, มิสซูรี, สหรัฐอเมริกา



 - สถาบันการศึกษาที่เรียน  มหาวิทยาลัยชิคาโก และ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด



 - ฮับเบิล ทำงานที่ มหาวิทยาลัยชิคาโก University of Chicago และ หอดูดาวภูเขาวิลสัน 

Mount Wilson Observatory



 - ฮับเบิล ยังค้นพบRedshift การเคลื่อนไปทางแดงเมื่อการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 

(โดยมากเป็นแสงที่ตามองเห็น) มีการเปล่งแสงหรือสะท้อนกับวัตถุ แล้วเกิดปรากฏการณ์ดอปเพลอร์

ทำให้คลื่นเคลื่อนตัวไปในทางฝั่งสีแดงของสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า (ซึ่งมีพลังงานน้อยกว่า) 

การเคลื่อนไปทางแดงจึงหมายถึง การที่ผู้สังเกตหรืออุปกรณ์ตรวจจับได้รับรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

ที่มีความยาวคลื่นเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับแหล่งกำเนิด การที่ความยาวคลื่นเพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับการที่

ความถี่ หลังจากความคิดเรื่องจักรวาลเชิงสัมพัทธ์ และค่าคงที่จักรวาลของ ไอน์สไตน์ ทำให้ 

ไอน์สไตน์เองละทิ้งแนวทางนี้เพราะมีแนวคิด



ผลสังเกตการณ์การเคลื่อนไปทางแดง ของ เอ็ดวิน ฮับเบิล ซึ่งบ่งชี้ว่าเอกภพไม่ได้มีสภาวะสถิต

หรือหยุดนิ่งกับที่ แต่เอกภพกำลังขยายตัว



 - ฮับเบิลใช้ปรากฏการณ์ดอปเปลอร์วัดความเร็วของกาแล็กซีต่างๆ และค้นพบความสัมพันธ์เหลือเชื่อ

ที่ว่า กาแล็กซี่ยิ่งอยู่ไกลยิ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงขึ้น 



นั่นคือเขาค้นพบว่า อัตราเร็วของกาแล็กซีเป็นปฏิภาคโดยตรงกับระยะห่าง ปัจจุบันเรียกว่า 

กฎของฮับเบิล กฎนี้แสดงว่าเอกภพทั้งหมดกำลังมีขนาดโตขึ้น ( ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ 

(อังกฤษ: Doppler Effect) หรือบางครั้งเรียกว่า การเคลื่อนดอปเพลอร์ (อังกฤษ: Doppler shift) 

เป็นปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่งที่ตั้งชื่อตาม คริสเตียน ดอปเพลอร์ เกี่ยวกับการ

เปลี่ยนแปลงความถี่ของคลื่นและความยาวคลื่นในมุมมองของผู้สังเกตเมื่อมีการเคลื่อนที่ที่สัมพันธ์

กับแหล่งกำเนิดคลื่นนั้น )



 - กฎของฮับเบิล  เป็นสมการในวิชาฟิสิกส์จักรวาลวิทยาที่อธิบายปรากฏการณ์การเคลื่อนไปทางแดง

ของแสงที่ได้รับจากดาราจักรอันห่างไกลซึ่งมีค่าแปรผันไปตามระยะห่าง กฎนี้คิดค้นขึ้นครั้งแรกโดย

 เอ็ดวิน ฮับเบิล ในปี ค.ศ. 1929



 - ลำดับฮับเบิล เป็นรูปแบบการจัดหมวดหมู่ของดาราจักรโดยลักษณะของสัณฐานที่ปรากฏ คิดค้นขึ้น

โดยเอ็ดวิน ฮับเบิล ในปี ค.ศ. 1936วิธีการจัดดาราจักรออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ตามลักษณะปรากฏของ

พวกมัน ได้แก่ ดาราจักรชนิดรี ชนิดลูกสะบ้า และชนิดก้นหอย ส่วนประเภทที่ 4 เป็นดาราจักรที่ไม่

สามารถระบุรูปร่างที่ปรากฏได้อย่างชัดเจน จึงเรียกว่า ดาราจักรไร้รูปแบบ ในปัจจุบัน ลำดับฮับเบิล

เป็นวิธีการจัดประเภทดาราจักรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งในหมู่นักวิชาการดาราศาสตร์และ

นักดาราศาสตร์สมัครเล่น



 - กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล คือ กล้องโทรทรรศน์ในวงโคจรของโลกที่กระสวยอวกาศดิสคัฟเวอรี

นำส่งขึ้นสู่วงโคจรเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1990 ตั้งชื่อตามนักดาราศาสตร์คนสำคัญชาวอเมริกันชื่อ 

เอ็ดวิน ฮับเบิล



 - รางวัลของ ฮับเบิล 


Newcomb Cleveland Prize 1924



Bruce Medal 1938



Franklin Medal 1939



Gold Medal of the Royal Astronomical Society 1940



Legion of Merit 1946



 - ฮับเบิล เสียชีวิตในวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 1953 (63 ปี) ซานมารีโน, แคลิฟอร์เนีย



 - เขาเป็นหนึ่งในแรงบัลดาลใจที่มีอิทธิพลต่อ Allan Sandage นักจักรวาลวิทยา ดาราศาสตร์ที่เกี่ยวกับ

โครงสร้างและการกำเนิดของจักรวาล ผู้ที่ได้รับรางวัลมากมายอีกด้วย


เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ ( Edmond Halley) ดาวหางฮัลเลย์

 


เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์  ( Edmond Halley) ดาวหางฮัลเลย์

เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์  ( Edmond Halley)  


เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์  ( Edmond Halley) ดาวหางฮัลเลย์


 - เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์  เป็นนักดาราศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ นักวิชาการฝนดาวตก และนายแพทย์ชาวอังกฤษ  


 - สาขางานที่ เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ ทำคือด้าน ดาราศาสตร์, ธรณีฟิสิกส์, คณิตศาสตร์, อุตุนิยมวิทยา , 

วิชาฟิสิกส์, วิชาการทำแผนที่หรือแผนภาพ


 - เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ เกิดในวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1656 ที่ Haggerston, Shoreditch, London, England


 - เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ มีภรรยาชื่อ Mary Tooke


 - มีลูก 3 คน คือ 


Dr Edmond Halley 


Margaret 


Richelle 



 - ในวัยเด็กเขาศึกษาที่ St Paul's School แล้วในปี 1673 ได้เขาศึกษาต่อที่ The Queen's College, Oxford



 - ขณะที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่นั้น เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ ได้ตีพิมพ์เอกสารเกี่ยวกับ ระบบสุริยะจักรวาล

 และ จุดบอดบนดวงอาทิตย์



 - เขาได้เข้าไปทำงานเป็นผู้ชายของ จอห์น เฟลมสตีค ในดาราศาสตร์ราชสำนัก ที่  Greenwich

 Observatoryและได้ดำรงตำแหน่งนักดาราศาสตร์หลวงเป็นคนที่ 2 ต่อจาก เฟลมสตีดอีกด้วย



 - เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ เป็นบุคคลสำคัญผู้คำนวณและทำนายการปรากฏตัวของดาวหางแบบมีคาบโคจร

ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก 



 - โดยเขาเสนอว่า ดาวหางที่ปรากฏในปี ค.ศ. 1531, 1607 และ 1682 น่าจะเป็นดาวหางดวงเดียวกัน และจะกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในปี ค.ศ. 1759 การคำนวณและทำนายของเขาถูกต้อง



 - ดาวหางที่เขาคำนวณนั้นมีชื่อว่า ดาวหางฮัลเลย์ตามชื่อของเขา  โดยเขาเสนอว่า ดาวหางที่ปรากฏ

ในปี ค.ศ. 1531, 1607 และ 1682 น่าจะเป็นดาวหางดวงเดียวกัน และจะกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในปี 

ค.ศ. 1759 การคำนวณและทำนายของเขาถูกต้อง



 -  ดาวหางฮัลเลย์มีคาบโคจรรอบละประมาณ 75-76 ปี



 - ดาวหางฮัลเลย์นับเป็นดาวหางคาบสั้นเพียงดวงเดียวที่มีความสว่างมากจนสามารถมองเห็นได้ด้วย

ตาเปล่า และเป็นดาวหางที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเพียงดวงเดียวที่หวนกลับมาให้เห็นได้อีกใน

ช่วงชีวิตของคนๆ หนึ่ง



 - เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ เสียชีวิตในวันที่ 14 มกราคม 1742  ในอายุ 85 ปี ศพของเขาถูกนำไปไว้ที่

 St. Margaret's, Lee, South London





เลโอนาร์โด ดา วินชี ( Leonardo da Vinci)

 


เลโอนาร์โด ดา วินชี  ( Leonardo da Vinci) 

เลโอนาร์โด ดา วินชี  ( Leonardo da Vinci) 


เลโอนาร์โด ดา วินชี  ( Leonardo da Vinci) เป็นผู้รอบรู้ หรือ พหูสูตร ชาวอิตาลี 


เลโอนาร์โด ดา วินชี  ( Leonardo da Vinci)


 - เลโอนาร์โด ดา วินชี เกิดวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1452เมืองวินชี จังหวัดฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี




 - เลโอนาร์โด ดา วินชี เป็นบุคคลสำคัญของโลกในช่วงคแห่งการฟื้นฟูอย่างยุคเรเนอซองส์ เขามี

ความสามารถรอบด้าน เช่น สถาปนิก นักดนตรี นักกายวิภาค นักประดิษฐ์ วิศวกร ประติมากร 

นักเรขาคณิต นักวาดภาพ  นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะบุคคลในยุคสมัยนั้นเลยทีเดียว



 - เลโอนาร์โด ดา วินชี มีผลงานทั้งภาพเขียนสิ่งประดิษฐ์ รวมถึงรูปแบบ งานต่างๆที่ยังไม่ได้ทำเอาไว้

มากมาย จนคนในรุ่นหลังเอามาศึกษาปรับใช้ให้เข้ากับยุค อย่าง เครื่องร่อน  เครื่องยิงปืนใหญ่หรือกล 3

 แถว  เฮลิคอปเตอร์ หรือ Aerial Screw  หรือแม้กระทั่งรถถัง



 - ผลงานเด่นๆและแนวคิดของ ดาวินชีมีอยู่มากมายแต่เราจะยกมาให้ดูกัน



1.โมนาลิซ่า ภาพวาดสีน้ำมันที่มีชื่อเสียงทั่วโลกภาพหนึ่ง เป็นที่รู้จักในฐานะภาพของสุภาพสตรีที่มี

รอยยิ้มอันเป็นปริศนา ที่ไม่รู้ว่าเธอจะยิ้ม หัวเราะ หรือร้องไห้กันแน่ ปัจจุบันอยู่ในความครอบครอง

ของรัฐบาลฝรั่งเศส และเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์



2. พระกระยาหารมื้อสุดท้าย (The Last Supper)งานจิตรกรรม ภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดคือภาพที่เขียน

โดยเลโอนาร์โด ดา วินชี ตามความเชื่อของคริสต์ศาสนิกชนคืออาหารมื้อสุดท้ายที่พระเยซูเสวย

ร่วมกับสาวกของพระองค์ ก่อนจะมีการตรึงพระเยซูที่กางเขน “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย”



3. วิทรูเวียส มีชื่อเต็มว่า "มาร์คัส วิทรูเวียส โพลลิออ" แนวคิดเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ดังกล่าว 

ได้รับการนำไปถ่ายถอดเป็นภาพเขียนที่มีชื่อเสียงชื่อ "วิทรูเวียนแมน" หรือ มนุษย์ของ วิทรูเวียส 

ซึ่ง เขียนโดย เลโอนาร์โด ดา วินชี



4. เทคนิคการเขียนกลับทาง เทคนิคการเขียนตัวอักษรย้อนกลับทิศทางจากตัวหลังไปตัวหน้า 

อาจเป็น วิธีการเข้ารหัสแบบโบราณที่เขาสร้างขึ้นเพื่อป้องกัน ไม่ให้บุคคลอื่นๆ   แอบขโมยข้อมูล

ในบันทึกต่างๆแนวคิดความจำ ผลงานที่ยังอยู่ในช่วงค้นคว้าก็เป็นได้



5.สะพานชักรอก (The Revolving Bridge) เป็นเครื่องทุ่นแรง ในการใช้เคลื่อนพลของกองทัพ

เวลาไปในถิ่นที่ทุรกันดาร ซึ่งสามารถเป็นสะพานให้กองทัพเคลื่อนพลไปได้อย่างไร้ปัญหา 

สามารถพับเก็บได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันก็มีรถสะพานที่มักใช้ในการทหารเพื่อให้ กองทัพข้ามริมน้ำ 

ยานเกราะ รถถังได้ข้ามไปชั่วคราว Folding Mobile Bridge



6.เครื่องร่อน (The Winged Gilder) 



7.เครื่องยิงปืนใหญ่หรือกล 3 แถว แถวละ 11 กระบอก The Triple-Barreled Cannon



8.เฮลิคอปเตอร์ หรือ Aerial Screw เป็นแนวคิดที่ไม่น่าจะสามารถทำให้มันบินได้เขาออกแบบ

เครื่องมาเพื่อใช้ใฟ้มันหมุนและลอยขึ้นมาในอากาศ ซึ่งปัจจุบันนั้น คงเปรียบได้เหมือนกับ เฮลิคอปเตอร์

ที่ใช้ใบพัดแทน



9.Geology ธรณีวิทยา  นักคิดส่วนมากในสมัยของดาวินชีนั้นมีความเห็นตรงกันเป็นส่วนใหญ่ว่า

ซาก ฟอสซิลของพวกหอย ปู ปลาหมึกต่างๆที่พบบนยอดเขานั้นเป็นสิ่งที่ หลงเหลือจากการเกิด

น้ำท่วมครั้งใหญ่ แต่ดาวินชีกลับไม่คิดเช่นนั้น เขาตั้งข้อสงสัยไว้ (ซึ่งก็ถูกเสียด้วย) ว่าภูเขาเหล่า

นั้นจะต้องเคยเป็นชายฝั่ง มาก่อน ก่อนที่จะค่อยๆยกตัวสูงขึ้นๆในเวลาต่อมา



10. 10.Leonardo's 'Tank' เครื่องจักรสงครามในรูปแบบของ ดา วินชี ที่ได้ออกแบบไว้อีกอย่างนึงซึ่ง 

เปรียบได้เหมือนรถถังในปัจจุบัน รูปทรงมีหลังคาเป็นรูปกรวย สูง ด้านล่างกรวยมีปืนอยู่รอบด้าน 



 - รวมไปถึงแนวคิดอีกหลายๆอย่าง เช่น รถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (The Self-Propelled Car) 

ชุดดำน้ำ (Scuba Gear)



ศึกษาตัวอ่อนมนุษย์ (Studies of embryos) 



เรือขุด ใช้หลักการเหมือนกับระหัดเกลียวของอาร์คิมีดีส



ปั้นจั่น เป็นเครื่องผ่อนแรงใช้สำหรับยกของหนัก



และอื่นๆอีกมากมาย รวมไปถึงผลงานในด้านผลงานศิลปะจิตรกรรมของดาวินชี 



 - บุคคลที่อยู่ร่วมยุคเดียวกับ เลโอนาร์โด ดา วินชี (ยุคเรเนอซองส์ Renaissance) คือ มีเกลันเจโล 

(ไมเคิลแองเจโล ) , เซอร์ไอแซก นิวตัน , มาร์ติน ลูเธอร์, ฟีลิปโป บรูเนลเลสกี , กาลิเลโอ  กาลิเลอี ,  

วิลเลียม เชกสเปียร์ ซึ่งเป็นยุคที่รุ่งเรืองเฟื่องฟู ด้านทรัพยากรบุคคลเป็นอย่างมาก 



 - ในปี ค.ศ. 1506 เลโอนาร์โดได้รับเชิญจากพระราชสำนักพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 (King Louis XII) 

แห่งฝรั่งเศส ให้เข้ามาดำรงตำแหน่งวิศวกร และจิตรกรประจำราชสำนัก



 - เลโอนาร์โด ดา วินชี เสียชีวิต 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1519 เมืองออมบัวซ์ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศฝรั่งเศส)





เพลโต นักปรัชญาแห่งกรีก (Plato)

 


เพลโต นักปรัชญาแห่งกรีก (Plato)

เพลโต นักปรัชญาแห่งกรีก (Plato)


เพลโต เกิดเมื่อช่วง 427 ปีก่อนคริสตศักราช ถึง 347 ก่อนคริสตศักราช เพลโตเป็นนักปรัชญาชาวกรีก

ที่มีความคิดมีอิทธิพลต่ออย่างสูงต่อแนวคิดตะวันตก


บิดาชื่อ อริสตัน Ariston


มารดาชื่อ เพริคเทียน Perictione


อาจารย์ของเขาคือ โสกราตีส  Socrates


ลูกศิษย์คนสำคัญ อาริสโตเติล Aristotle


  เขาเกิดที่ เอเธนส์หรือ อะทีนา เป็นเมืองหลวงของประเทศกรีซในปัจจุบันหนี่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุด

ในโลก ตั้งชื่อตามเทพเจ้าอะธีน่า ในตระกูลที่ดี เขาได้รับการศึกษาร่ำเรียนและสอนที่ดีจากอาจารย์

ของเขา คือ โสคราติส เขาได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วในดินแดนแถบเมดิเตอร์เรเนียน อย่าง อิตาลี 

อียิปต์ ซิซิลี เป็นต้น เขายังได้ไปหาความรู้เพิ่มเติมกับสำนักของ พีทาโกรัส (เป็นนักคณิตศาสตร์

และนักปราชญ์ชาวกรีกโบราณ)อีกด้วยในขณะที่อยู่อิตาลี เขามีความเชี่ยวชาญในความรู้หลายอย่าง


เรียกได้ว่ามีความรู้รอบตัวที่ดี เขาไม่แค่ศึกษาอย่างเดียว เพลโตยังนำปรัชญาของตัวเองไปเผยแพร่

ในสถานที่ต่างๆมากมายจนเป็นที่รู้จัก หลังจากที่เขาได้ศึกษาวิชาการต่างๆจนเชี่ยวชาญแล้ว

และได้เผยแพร่แนวคิดปรัชญาของตัวเองตามที่ต่างๆเขาก็กลับเข้ามา สู่เอเธนส์อีกครั้งพร้อมกับตั้ง

โรงเรียนขึ้นในกรุงเอเธนส์ ชื่อว่า อะคาเดมี่ (Academy)

* คุ้นๆชื่อกันใช่ไหมหละ มาจากชายผู้นี้แหละเพลโต ... ในอะเคเดมี่ของเขานั้นมีการสอนเกี่ยวกับ

วิชาปรัชญา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ครอบคลุมทั้งการบริหาร


วรรณคดี ดนตรี และรวมไปถึงศาสตร์ขั้นสูงอย่างดาราศาสตร์ เขามักสอนให้ลูกศิษยืมีอิสระทาง

ความคิดซึ่งแตกต่างจากสำนักวิชาอื่นๆในสมัยนั้นของกรีกใช้การตั้งคำถามให้ลูกศิษย์ได้มีการสนทนา

เพื่อหาคำตอบ หาเหตุผลของเรื่องต่างๆมาหักลบล้างกันได้อย่างอิสระ การหาความจริงด้วยตัวเองนั้น

เป็นสิ่งสำคัญในการสอน เขาได้ต้นแบบการสอนมาจาก โสคราตีสอาจารย์ของเขา ที่สอนจนทำให้เขา

มีความคิดก้าวหน้าในขณะนั้นนำมาสอนลูกศิษย์ตัวเองภายหลัง


เพลโต นักปรัชญาแห่งกรีก (Plato)



ผลงานของเพลโต 


 - หนังสือ ที่ชื่อว่า “รีพับลิค-The Republic” แนวคิดว่าด้วย“ธรรมชาติของความยุติธรรม ” ปรัชญานิพนธ์

 เป็นหนังสือการเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุด


 - กฎที่สำคัญทางวิทยาศาสตร์อีกชิ้นหนึ่งของเพลโตคือ กฎที่เกี่ยวกับแสงที่ว่าแสงเดินทางเป็นเส้นตรง

 เมื่อแสงมากระทบวัตถุมุมแสงตกกระทบจะเท่ากับมุม


แสงสะท้อน เป็นกฎที่ถูกต้องและยึดถือกันมาจนถึงปัจจุบัน 


 -  เลกีส (Leges) เป็นเรื่องราวของการค้นคว้าหาความกล้า 


 - ไลสีส (Lysis) เป็นเรื่องราวของการค้นหามิตรภาพ 


 - คาร์มีดีส (Charmedes)


ปรัชญาส่วนใหญ่ของ เพลโตเน้นไปที่ เรื่องเกี่ยวกับคุณธรรม และความดี


 - ตั้งโรงเรียนชื่อ อะเคดามี (Academy) ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยแรกของโลก






100 สุดยอดนักรบ แม่ทัพ ยุคโบราณ

 


100 สุดยอดนักรบ แม่ทัพ ยุคโบราณ 

1. ซาลาดิน : เศาะลาฮุดดีน ยูซุฟ อิบน์ อัยยูบ สุลต่านแห่งอียิปต์และซีเรีย  เยเมนและปาเลสไตน์และ

เป็นผู้ก่อตั้งราชวงศ์อัยยูบีย์  ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสงครามครูเสด ยึดเมืองเยรูซาเลมซึ่งเป็นเมืองสำคัญต่อทั้ง

มุสลิมและคริสเตียน กลับคืนมาได้ซาลาดินนั้นเป็นที่ยกย่องในฐานะของผู้ปกครองมุสลิมผู้มีชื่อเสียง

ที่สุด ที่กล้าหาญ และเป็นที่ศึกษาจนถึงทุกวันนี้

สุดยอดนักรบ แม่ทัพ ยุคโบราณ


2. เจงกิสข่าน : จักรพรรดินักรบชาวมองโกลผู้พิชิตโลก ก่อตั้งจักรวรรดิมองโกล เป็นนักการทหาร

ที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลก ขยายอาณาจักรไปทั่วโลก จักรวรรดิมองโกลได้แผ่ขยาย

ตั้งแต่ทะเลดำไปจดมหาสมุทรแปซิฟิก ตะวันออกกลาง ทายาท "เจงกิสข่าน" นั้นก็สามารถบุกตะลุย

ต่อไปพิชิตค่อนโลกกันเลยทีเดียว


3. พระเจ้าอโศกมหาราช : เป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิเมารยะ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ของอนุทวีปอินเดีย 

ผู้มีบทบาทมากต่อการเผยแผ่ศาสนาพุทธไปทั่วเอเชียโบราณ และได้รับการยกย่องโดยทั่วไปว่าเป็น

หนึ่งในจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่งทรงเป็นอัครมหาบุรุษท่านหนึ่ง ใน 6 อัครมหาบุรุษแห่ง

ประวัติศาสตร์โลก


4. มุสตาฟา เคมาล : หรือ  อตาเติร์ก  แปลว่า บิดาแห่งชาวเติร์ก ตรุกี จอมพล นักปฏิวัติ รัฐบุรุษ 

นักเขียนชาวตุรกี และเป็นบิดาผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกี ทำหน้าที่เป็นประธานาธิบดีคนแรก ของตุรกี 

กอบกู้ความเสียหายของจักรวรรดิออตโตมัน คนป่วยของยุโรป หลังสงครามดลกครั้งที่ 1 ต่อต้านการ

แบ่งแยกแผ่นดินใหญ่ของตุรกี ของฝ่ายสัมพันธมิตร ได้รับการยกย่องตามผลศึกษาว่า เป็นหนึ่งในผู้นำ

ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20 


5. ฮันนิบาล บาร์คา : ผู้นำคาร์เธจ จักรวรรดิแห่งโลกยุคเก่า ซึ่งถือกันว่า เป็นหนึ่งในผู้นำทางทหาร

ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นผู้กล้าหาญท้าทายอำนาจโรมัน ในสงครามพิวนิก 


6. พระเจ้าริชาร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ : หรือ ริชาร์ดใจสิงห์ (Richard the Lionheart) เป็นผู้ที่เคยเอาชนะ

ซาลาดิน ในสงครามครูเสด


7. สปาร์ตาคัส :   นักรบชาวเทรซ ที่ถูกขายให้เป็นนักต่อสู้เป็นกลาดิเอเตอร์กับสิงโต อยู่ในสาธารณรัฐ

โรมัน เป็นผู้นำการลุกฮือของทาสที่เมืองกาปูอาเมื่อ 73 ปีก่อนคริสต์ศักราช และรวบรวมทาสชนชาติต่าง ๆ

 ได้เป็นจำนวนมาก ก่อการกบฏเอาชนะกองทัพโรมัน


8. พระเจ้าบุเรงนอง : เป็นพระมหากษัตริย์พม่าจากราชวงศ์ตองอู ฉายา ผู้ชนะสิบทิศ อาณาจักรของ

พระองค์เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีอาณาเขตแผ่ไปถึง

อาณาจักรล้านนา อาณาจักรล้านช้าง รัฐมณีปุระ และอาณาจักรอยุธยา ถือเป็นหนึ่งในสามมหาราชพม่า

พร้อมด้วยพระเจ้าอโนรธามังช่อ แห่งราชวงศ์พุกาม และพระเจ้าอลองพญา แห่งราชวงศ์คองบอง 


9. นโปเลียน : รัฐบุรุษและผู้นำทหารชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงในฐานะผู้บัญชาการทหารปืนใหญ่ใน

ช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส นำพาฝรั่งเศสเข้าต่อสู้รบกับกลุ่มพันธมิตรประเทศรอบด้านในช่วงสงคราม

นโปเลียน ขยายอำนาจไปทั่วยุโรป


10. โอดะ โนบุนากะ : ไดเมียวแห่งแคว้นโอะวะริจังหวัดไอจิ และหนึ่งในบุคคลที่สำคัญในยุคสมัย

เซ็งโงกุ ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ผู้รวบรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" คนแรกของญี่ปุ่น 

ได้รับฉายาว่า "ไดเมียวปีศาจ"หรือ "ราชาปีศาจ" ซามูไร ที่คิดรวบรวมแผ่นดินญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียว



11. เลโอไนดาสที่ 1 : พระมหากษัตริย์นักรบกล้าหาญแห่งนครรัฐกรีกสปาร์ตา เป็นที่จดจำในยุทธการ

ที่เทอร์มอพิลี ที่ตั้งรับการรุกรานของจักรวรรดิเปอร์เซีย ณ ช่องเขาเทอร์มอพิลี ภายใต้การนำของ

จักรพรรดิเซอร์ซีสที่ 1 ที่ใช้กำลังเพียงน้อยนิด สู้จนตัวตายสลายหมดต้านทานและถ่วงเวลากองทัพ

เปอร์เซียนับแสนไว้ได้ ซึ่งต่อมาส่งผล เธมิสโตคลีส แม่ทัพชาวเอเธนส์ ทำลายกองทัพของเปอร์เซีย

ได้ที่ยุทธนาวีที่ซาลามิส 


12. จูเลียส ซีซาร์ :  เป็นรัฐบุรุษ แม่ทัพเลื่องชื่อชาวโรมัน  รัฐบุรุษโรมันผู้ยิ่งใหญ่ ได้รับขนานนามว่า

เป็นแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก ผู้พิชิตกอล ชนะในสงครามกลางเมือง  

ถูกลอบสังหาร โดยสมาชิกวุฒิสภาโรมันหลายคน


13. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช : หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 หรือ "พระองค์ดำ" พระองค์ได้กู้

อิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก แผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกว้างใหญ่

ไพศาลอย่าง พม่าตอนใต้ ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก แหลมมลายู  ฝั่งแม่น้ำโขง รัฐไทใหญ่บางรัฐ


14. อเล็กซานเดอร์มหาราช : อเล็กซานเดอร์มหาราช เป็นกษัตริย์กรีกโบราณ  กษัตริย์นักรบที่ทรง

อานุภาพมาก เป็นอันดับต้นๆเมื่อพูดถึงความยิ่งใหญ่ในเรื่องการขยายอำนาจ อาณาจักรยิ่งใหญ่ที่สุด

ของโลกยุคโบราณ ตั้งแต่กรีซไปจนถึงทางตะวันตกของอินเดีย ไม่เคยปราชัยในศึกใดมาก่อน  

ได้รับการยอมรับนับถือเป็นหนึ่งในแม่ทัพผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์โลก


15. อีวานมหาราช : เจ้าชายแห่งมอสโก เป็นแกรนด์คเนียสแห่งมอสโกผู้ยิ่งใหญ่ 


16. จักรพรรดืปีเตอร์มหาราช : ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ทรงอำนาจของยุโรปในสมัยนั้นสร้างประเทศ

เป็นที่น่าเกรงขาม ต่อยุโรปเอาความเจริญทางด้านการทหาร การช่างและวิทยาศาสตร์มาใช้ในการ

ปรับปรุงและพัฒนาประเทศปฏิรูปสำคัญหลายประการ ซึ่งถือเป็นซาร์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของราชวงศ์โรมานอฟ


17. คูตูลัน Khutulun : ทายาทเจงเกิสข่าน นักรบหญิงผู้กล้าแห่งมองโกล เป็นนักรบหญิงอันดับหนึ่ง 

เก่งกล้าในการรบยิ่งกว่าชายชาตรี เชี่ยวชาญวิชามวยปล้ำ หญิงที่ดุร้ายที่สุดในเผ่าและไม่เคยพ่ายแพ้

แก่ผู้ใด


18. จักรพรรดิศิวาจี : จักรพรรดิองค์แรกแห่ง จักรวรรดิมราฐา พิชิตอินเดียใต้ ราชาภิเษก สงบศึกกับ

พวกมุคัลนักสู้เพื่ออิสรภาพยึดครองหุบเขาชวาลีจากจันทราราว พิชิตอัฟซาล ข่าน ประตาปกัฐ 

โกลหาปุระและอีกมากมาย


19. วลาดที่ 3 นักเสียบ : หรือที่รู้จักคือ แดร็กคิวล่า เป็นที่เคารพในฐานะวีรบุรุษพื้นบ้านในประเทศ

โรมาเนียตลอดจนส่วนอื่นของทวีปยุโรป เพราะสามารถ พิทักษ์ปกป้อง ชาวโรมาเนียและบัลแกเรีย 

จาก ออตโตมันพระองค์ทรงได้รับสมัญญาหลังสิ้นพระชนม์ว่า วลาดนักเสียบ


20. จูล่ง : ชื่อจริงว่า เตียวหยุน แม่ทัพคนสำคัญของเล่าปี่ และเป็นหนึ่งในห้าทหารเสือ 


21. มิยาโมโตะ มูซาชิ : ซามูไรและโรนินชาวญี่ปุ่นที่สร้างตำนานด้วยการประลองไม่เคยแพ้พ่าย

ต่อผู้ใด ถูกนับเป็นหนี่งในสุดยอดซามูไรตลอดกาล


22. ซุนวู : เป็นนักการทหารและนักปกครอง ที่เชี่ยวชาญพิชัยสงคราม กลยุทธ์ ยุทธวิธี การรบ จน

กำเนิดมาเป็นคัมภีร์พิชัยสงครามของจีนในยุคโบราณตำราพิชัยสงครามซุนวู ที่เลื่องลือและแพร่

หลายทั่วโลกรู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง หรือ ที่จริงคือ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง มิพ่าย


23. MAHARANA PRATAP : มหาราษฏรประทีปซิงโซดียะ กษัตริย์ ฮินดู ราชบัต ได้รับฉายาว่า 

"เมวารี รานา" และมีชื่อเสียงจากการต่อต้านกองทัพต่อการขยายอำนาจของจักรวรรดิโมกุล


24. อัตติลา : ประมุขแห่งชาวฮันผู้ครองจักรวรรดิฮัน (Hunnic Empire) ประกอบไปด้วยกลุ่มชนเผ่าต่าง ๆ

 ทั้ง ชาวฮัน ชาวออสโตรกอท อลานส์ และเผ่าอนารยชนอื่นๆ ในดินแดนยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก

มีชัยเหนือกองทัพโรมันหลายครั้ง ได้รับฉายาว่า อัตติลาเดอะฮั่น  จักรพรรดิแดนคนเถื่อน  ได้สร้างความ

หายนะให้กับดินแดนต่างๆ อย่าง จักรวรรดิโรมัน ครอบครองดินแดนตั้งแต่ประเทศเยอรมนีไปจนถึง

แม่น้ำยูรัล และจากแม่น้ำดานูบไปจนถึงทะเลบอลติกรุกรานคาบสมุทรบอลข่าน


25. อาลาริคที่ 1 : พระมหากษัตริย์ของชนชนวิสิกอธ ที่ยึดกรุงโรมได้ นำมาซึ่งความเสื่อมโทรมของ

จักรวรรดิโรมัน ทำให้เกิดการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน  เผาทำลายเมืองจนพินาศ


26. เธมิสโตคลีส : นักการเมืองและเป็นแม่ทัพเรือชาวเอเธนส์ ต้านทานการบุกรุกของกองทัพเปอร์เซีย

ที่ซาลามิส เป็นรัฐบุรุษที่โดดเด่นในสังคมเอเธนส์ ทำให้เอเธนส์ผงาดขึ้นในฐานะมหาอำนาจทางทะเล 


27. งักฮุย : หรือ เยว่ เฟย์ นนักรบกู้ชาติคนสำคัญในประวัติศาสตร์ประเทศจีน มีชีวิตอยู่ในยุคราชวงศ์

ซ่งใต้  ต่อต้านการรุกรานของชนเผ่าจิน ได้รับยกย่องเป็นแบบอย่างแห่งความซื่อสัตย์ในวัฒนธรรมจีน 

เป็นวีรบุรุษของชาวจีนฮั่น 


28. เกา ฉางกง : หลานหลิงหวาง หรือ เจ้าชายแห่งหลานหลิง บุคคลสำคัญจีนในยุคราชวงศ์เหนือใต้ 

ยอดขุนพลแห่งเป่ยฉี 


29. อีริก บลูดั๊ซ : กษัตริย์แห่งนอร์เวย์เป็นกษัตริย์แห่งนอร์ธัมซึ่งปัจจุบันอยู่ทางตอนเหนือของอังกฤษ

และทางตะวันออกเฉียงใต้ของสกอตแลนด์


30. อาร์มินิอุส : หรือที่ชาวเยอรมันเรียกว่า แฮร์มัน เป็นหัวหน้าเผ่าเครุสกีซึ่งเป็นเผ่าหนึ่งของชนชาติ

เยอรมันโบราณ มีชัยชนะเหนือกองทหารโรมันทั้งสามได้ในยุทธการที่สมรภูมินรกแห่งติวโตเบิร์ก

หรือ ยุทธการของแฮร์มัน สามารถทำลายสามกองพันทหารโรมันนำโดยปูบลิอุส วารุส นำไปสู่การสิ้น

อำนาจของโรมันเหนือแผ่นดินชนเผ่าเยอรมัน (แกร์มานิอา) และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ

การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกในเวลาต่อมา


31. สกิปิโอ แอฟริกานัส : เป็นผู้ที่ทำให้ ฮันนิบาลผู้ยิ่งใหญ่พ่ายแพ้ยับเยินในยุทธการที่ซามา 

(Battle of Zama)



32. โบดิกา : โบดิกา วีรสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์อังกฤษ ราชินีคนเถื่อน ที่กล้าท้าทายต่อสู้กับโรมัน

เพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดของนาง Bodicea The babarian queen 


33. Fu Hao พระนางฟู่ห่าว : ฟู่ห่าว ราชินีนักรบแห่งราชวงศ์ซางทำหน้าที่เป็นนายพลทหารและ

มหาปุโรหิตอีกด้วย เธอเป็นแม่ทัพชางที่มีอำนาจมากที่สุดในยุคของเธอ


34. เจ้าชายรูเพิร์ตแห่งไรน์ : เป็นนักการทหาร, นักประดิษฐ์ ต่อสู้ต่อต้านสเปนในเนเธอร์แลนด์และ

ในเยอรมนี เป็นแม่ทัพผู้บังคับบัญชากองทหารม้าระหว่างสงครามกลางเมืองอังกฤษ สงครามกลางเมือง

ของอังกฤษ, สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์ที่ต่อเนื่องกันหลายครั้งระหว่างฝ่ายรัฐสภา และฝ่ายกษัตริย์นิยม

 หลังพ่ายแพ้ในสงครามอังกฤษ ก็ไปเป็นโจรสลัดบริเวณคาริบเบียน ตอนหลังได้มีการฟื้นฟูราชวงศ์

อังกฤษหรือ ยุคฟื้นฟู เจ้าชายรูเพิร์ตก็เสด็จกลับอังกฤษและได้รับตำแหน่งเป็นผู้บังคับบัญชาราชนาวี


35. พระเจ้าไซรัสมหาราช : กษัตริย์แห่งอาเคเมนิด ไซรัสกษัตริย์ของเปอร์เซีย  เป็นปฐมกษัตริย์แห่ง

จักรวรรดิอาคีเมนิด เป็นหนึ่งในจักรวรรดิแรกของจักรวรรดิเปอร์เชียที่ปกครองอาณาบริเวณส่วนใหญ่

ของเกรตเตอร์อิหร่านที่ตามมาจากจักรวรรดิมีเดีย ในยุคที่รุ่งเรืองที่สุดเป็นจักรวรรดิที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

ในยุคโบราณ กินพื้นที่ สามทวีปดินแดนในอัฟกานิสถาน และ ปากีสถาน บางส่วนของเอเชียกลาง 

อานาโตเลีย เธรซ บริเวณริมฝั่งทะเลดำส่วนใหญ่ อิรัก ตอนเหนือของซาอุดีอาระเบีย จอร์แดน 

ปาเลสไตน์ เลบานอน ซีเรีย และอียิปต์ไปจนถึงลิเบีย ยุโรปบางส่วน และคอเคซัส


36. Cynane : บุตรสาวของ ฟิลิปที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย  เป็นน้องสาว ต่างมารดาของ Alexander the Great

 ฝึกฝน ศิลปะแห่งสงคราม เป็นผู้นำทหารต่อสู้ที่แนวหน้าบุกตะลุยให้กองทัพของ อเล็กซานเดอร์


37. พระเจ้าซาร์กอนแห่งแอกแคด : ปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์ชาวแอคคาเดียก็คือราชวงศ์แอคคัด

พระองค์ได้ยกกำลังกองทัพบุกในเชตซูเมอร์ อารยธรรมโบราณและเขตบริเวณเมโสโปเตเมียตอนใต้  

ชาวซูเมอร์เป็นชนชาติแรกที่สร้างความเจริญขึ้นในบริเวณดังกล่าว จากที่พระองค์ได้พิชิตชาวซูเมอร์ได้

 ทำให้พระองค์มีชื่อเสียงมากในขณะนั้น พระองค์ได้รวมดินแดนต่าง ๆ ในหุบเขานี้เข้าไว้ภายใต้การ

ปกครองของพระองค์


38. อคิลลีส : ผู้พิชิตกรุงทรอย นักรบผู้ยิ่งใหญ่ในมหากาพย์อีเลียดของโฮเมอร์ ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอด

แห่งนักรบที่มีฝีมือเทียบได้ยากดั่งเทพเจ้ารบด้วยตัวเอง


39. แฮหัวตุ้น : นายพลภายใต้ทัพวุยก๊กของโจโฉในยุคสามก๊ก เป็นลูกพี่ลูกน้องที่โจโฉให้ความไว้วางใจ

มากที่สุดคนหนึ่ง  


40. วิลเลียม วอลเลซ : อัศวินและผู้รักชาติชาวสก็อต ผู้นำการต่อต้านการปกครองการกดขี่ของอังกฤษ 

ในสงครามประกาศอิสระภาพของสก็อตแลนด์ได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษในประวัติศาสตร์ของ

สก็อตแลนด์


41. ดาไรอัสมหาราช : กษัตริย์เปอร์เซียองค์ที่ 2 ต่อจาก พระเจ้าไซรัสมหาราช สร้างทั้งความเจริญ

และความแข็งแกร่งให้กับจักรวรรดิเปอร์เซีย ขยายพระราชอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง


42. พระเจ้าไทกราเนสมหาราช : กษัตริย์อาร์มีเนียแห่งราชวงศ์อาร์ตาเซียด พระองค์ทรงต้องรบ

กับหลายอาณาจักรเช่น ปาร์เธียนส์ เซลูซิด และสาธารณรัฐโรมัน


43. Tlahuicole : ได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษที่น่าเกรงขามที่สุดในอาณาจักรตลัชกัลเท็ก

คู่อริของอาณาจักรแอซเท็ก 


44. Marcus Cassius Scaeva : ลูกน้องของ ซีซาร์ นายร้อยอาวุโส ในกองทหารได้รับคำสั่ง เขาโต้กลับ

และขับไล่ปอมเปอีนายพลและรัฐบุรุษโรมัน 


45. จักรพรรดิเบซิลที่ 2  : ได้รับสมญานามว่า ผู้ปราบบัลการ์จักรพรรดิองค์อาวุโสแห่งจักรวรรดิโรมัน

ตะวันออก ( จักรวรรดิไบแซนไทน์ ) นิยมควักลูกตาเชลยเพื่อข่มขวัญข้าศึก


46. ควอว์เตม็อค : เคาเตม็อก จักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งแอซเท็คสู้กับการรุกรานของชาวสเปนที่นำ

โดยเฮอร์นาน กอร์เตส


47. เพอร์ซิอัส : ผู้ก่อตั้งแคว้นไมซีนี และเป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์เพอร์เซอิด เป็นผู้สังหารเมดูซา

และเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าหญิงแอนดรอมิดาจากเคตัส  เป็นบุตรของเทพซูสกับมนุษย์ 


48. ภีษมะ : เจ้าชายเทวพรต


49. พระเจ้าอโนรธา : พระองค์เป็นผู้ก่อตั้ง อาณาจักรพุกาม ถือเป็นบิดาของชาติพม่า  ตั้งอาณาจักรพม่า

แห่งแรกอันเป็นรากฐานของ พม่า ยุคใหม่ เป็น 1 ใน 3 กษัตริย์พม่าผู้ยิ่งใหญ่


50. Galvarino :  นักรบมาปูเช กลุ่มชนพื้นเมืองของชิลีตอนกลางตอนใต้ในปัจจุบันและทางตะวันตก

เฉียงใต้ของอาร์เจนตินา รวมถึงบางส่วนของปาตาโกเนียในปัจจุบัน ผู้ที่ติดมีดไว้ที่ปลายมือที่ถูก

ตัดด้วนเพื่อใช้ในการสู้รบกับผู้รุกรานชาวสเปน


51. กุนน่าร์ ฮามุนดาร์สัน : หัวหน้าเผ่าไอซ์แลนด์ในศตวรรษที่ 10 เป็นนักรบที่เหมือนพระเจ้าอยู่ยง

คงกระพันในการต่อสู้ เป็นคนที่แข็งแรงและแข็งแรงเขาเป็นนักธนู ที่มีทักษะ และในการต่อสู้ระยะ

ประชิดเป็นนักขว้างหินที่เก่งกาจอีกด้วย


52. อาแจ็กซ์ : วีรบุรุษในสงครามกรุงทรอย เป็นบุคคลมีรูปร่างใหญ่โต มีพละกำลังที่แข็งแรงมาก 

เพื่อนร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับอคิลลีส 


53. เอริกผมแดง : นักสำรวจชาวนอร์ส โจรสลัดไวกิงผู้ค้นพบเกาะกรีนแลนด์


54. Harald Hardrada : กษัตริย์องค์สุดท้ายของไวกิ้ง ผู้บัญชาการทหาร รับจ้างและผู้บัญชาการ

ทหารในจักรวรรดิรุสเคียฟ และ Varangian Guard หน่วยชั้นยอดของกองทัพไบแซนไทน์

รวมดินแดนของนอร์เวย์


55. ไกอุส มาริอุส : เป็นนายพลและนักการเมืองชาวโรมัน


56. ลิโป้ : เป็นขุนพลและขุนศึกที่มีชีวิตในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออกของจีนยุคราชวงศ์ 


57. พระเจ้าปฤถวีนารายัณ ศาหะ : พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรเนปาล เป็นพระมหากษัตริย์

พระองค์แรกแห่งราชวงศ์ชาห์หรือศาห์ที่ปกครองเนปาล ทรงเริ่มต้นการรวมชาติเนปาล ที่ซึ่งถูกแบ่ง

แยกและอ่อนแอภายใต้การปกครองของสหพันธ์มัลละ


58. เอยิลล์ สคาลลากริมส์สัน : ฆ่าคนครั้งแรกเมื่อายุได้ 7 ขวบจัดเป็นนักรบโคตรเถื่อนคนนึงแห่ง

ยุคไวกิ้ง


59. โรเบิร์ต เดอะ บรูซ :  เป็นราชาแห่งสก็อต อัศวินนอร์มัน เป็นหนึ่งในนักรบที่มีชื่อเสียงที่สุดในรุ่น

ของเขา ในที่สุดโรเบิร์ตก็เป็นผู้นำสกอตแลนด์ในช่วงสงครามครั้งแรกของ อิสรภาพของ สกอตแลนด์ 

กับอังกฤษปัจจุบันเป็นที่เคารพนับถือในสกอตแลนด์ในฐานะวีรบุรุษของชาติ


60. สุลต่านเมห์เหม็ดผู้พิชิต : เมห์เหม็ดผู้พิชิต เป็นสุลต่านออตโตมัน สามารถเอาชนะกลุ่มครูเสด

ที่นำโดยจอห์น ฮุนยาดีหลังการโจมตีฮังการี พระองค์พิชิตคอนสแตนติโนเปิล ทำให้จักรวรรดิไบแซนไทน์

ล่มสลายลง


61. พระเจ้าอลองพญา : พระมหากษัตริย์พม่า ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์คองบองสามารถรวบรวมบ้าน

เมืองให้เป็นปึกแผ่นปราบปรามมณีปุระ กอบกู้ล้านนาคืนจากอยุธยา และขับชาวอังกฤษและฝรั่งเศส

ก่อตั้งเมืองย่างกุ้ง ถือว่าพระองค์เป็นกษัตริย์พม่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 พระองค์ 


62. เฮกเตอร์ : เจ้าชายแห่งเมืองทรอย เป็นวีรบุรุษในตำนานกรีกโบราณว่าด้วยเรื่องสงครามเมืองทรอย


63. โอดิสเซียส : มีบทบาทสำคัญในการสู้รบที่กรุงทรอย


64. วิลเลียม มาร์แชล เอิร์ลที่ 1 แห่งเพ็มบรุก : เป็นอัศวินและขุนนางอังกฤษ 


65. เบวูล์ฟ : นักรบหนุ่มชาวกีตส์ วีรบุรุษยุคอังกฤษโบราณ


66. ฮาราลด์ แฟร์แฮร์ : กษัตริย์องค์แรกของนอร์เวย์  เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของนอร์เวย์และ

เป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพ


67. ปอมเปย์ : ปอมปีย์มหาบุรุษ เป็นแม่ทัพระดับสูงและรัฐบุรุษชาวโรมัน ผู้บัญชาการทหารใน

สงครามกลางเมืองของซูลลา


68. บียอร์นมนุษย์เหล็ก (Björn Ironside) : ผู้นำไวกิงชื่อดังที่ตำนานเล่าว่าได้ขึ้นปกครองเป็น

ปฐมกษัตริย์สวีเดนแห่งราชวงศ์มุนเซอร์


69. เอลซิด : ขุนศึกชาวสเปนผู้เก่งกาจ El Cid เอล ซิด วีรบุรุษสงครามครูเสด เข้ารบสงครามหลายๆ

 สมรภูมิอย่าง สงครามกับอารากอน อาณาจักรกัสติยา สงครามกับชาวเบอร์เบอร์ เป็นกลุ่มชาติพันธ์

ของแอฟริกาเหนือ ศึกแย่งชิงดินแดนเลออน 


70. Aristodemus of Sparta : นักรบสปาร์ตันหนึ่งในหลาย ๆ คนที่ถูกส่งไปยัง Battle of Thermopylae 

 ยุทธการที่เทอร์มอพิลี เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตชาวสปาร์ตันเพียงสองคนเท่านั้น 


71. จูมง : พระเจ้าทงมย็องแห่งโคกูรยอ ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรโคกูรยอ 


72. รักนาร์ ลอดบร็อค : วีรบุรุษชาวไวกิ้งในตำนาน  


73.ไอวาร์เดอะโบนเลสส์ : Ivar Ragnarsson เป็นผู้นำไวกิ้งกึ่งตำนานที่บุกอังกฤษและไอร์แลนด์  

ปกครองเป็นปฐมกษัตริย์สวีเดนแห่งราชวงศ์มุนเซอร์ 


74. เออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel)  : นายพลและนักทฤษฏีทางทหารชาวเยอรมัน เป็นที่รู้จักกัน

ในสมญานามของเขาคือ จิ้งจอกทะเลทราย จอมพลของนาซีเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง


75. จอห์น ฮอว์ควูด :  เป็นทหารรับจ้างชาวอังกฤษ คอนดตติเอเร ที่เป็นกองทหารอาชีพที่ไม่ขึ้นต่อ

ผู้ใดโดยเฉพาะ เป็นทหารในกองทัพอังกฤษในฝรั่งเศสในตอนต้นของสงครามร้อยปี เข้าร่วมต่อสู้ใน

ยุทธการเครซี เป็นยุทธการในสงครามร้อยปีที่เป็นสงครามระหว่างราชอาณาจักรอังกฤษ และราช

อาณาจักรฝรั่งเศสทางเหนือของประเทศฝรั่งเศสปัจจุบัน


76. มาร์กุส วิปซานิอุส อากริปปา : เป็นรัฐบุรุษและแม่ทัพโรมัน เป็นผู้รับผิดชอบต่อชัยชนะทาง

ทหารส่วนใหญ่ของออคเตเวียน  ที่โดดเด่นที่สุดคือ ชนะยุทธนาวีที่อักติอูงเหนือกองกำลังของมาร์ก 

แอนโทนี และพระนางคลีโอพัตราที่ 7 แห่งอียิปต์ ยุทธนาวีที่อักติอูง คือ สงครามครั้งสุดท้ายของ

สาธารณรัฐโรมัน  ของ ออคเตเวียน  และกองทัพผสมของมาร์ก แอนโทนี และ คลีโอพัตรา


77. ไป๋ ฉี่ :  ขุนพลของรัฐฉิน ใน ยุครณรัฐ ของจีนเป็นผู้บัญชาการกองทัพฉินมากกว่า 30 ปีเขาได้รับ

ฉายา เหริน ตู้ (人屠; 'คนขายเนื้อมนุษย์') บุกยึดไปกว่า 73 เมืองจากอีกหกรัฐที่เป็นศัตรู 

เป็นขุนศึกไร้พ่ายแห่งยุค เป็นหนึ่งในสี่แม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ ยุครณรัฐ พร้อมด้วย หลี่มู่ หวัง เจี่ยน 

และ เหลียนป๋อ


78. หลี่มู่ : ขุนพลของ รัฐจ้าว ใน ยุครณรัฐ รักษาความมั่นคงของรัฐจ้าวเป็นหนึ่งในสี่ขุนพลที่ยิ่งใหญ่

ที่สุดของยุครณรัฐ


79.  เตมือร์ : ทีมูร์กูร์คอนี เป็นขุนศึกเชื้อสายผสมระหว่างมองโกลกับเติร์ก และเป็นผู้พิชิตดินแดน

ส่วนใหญ่ของเอเชียตะวันตกและเอเชียกลาง และยังเป็นผู้ก่อตั้งจักรวรรดิเตมือร์และราชวงศ์เตมือร์ 

เป็นราชวงศ์หนึ่งของจักรวรรดิเปอร์เชียพระองค์ถือเป็นหนึ่งในผู้นำทหารและนักกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่

ที่สุดในประวัติศาสตร์ 


80. หวัง เจี่ยน : เป็นขุนพลจาก รัฐฉิน ใน ยุครณรัฐ. ภายใต้การบังคับบัญชาของเขา, กองทัพฉิน

สามารถพิชิต รัฐจ้าว รัฐเยี่ยน และ รัฐฉู่. เขาเป็นหนึ่งในสี่ขุนพลผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่ง ยุครณรัฐ

เทพเจ้าแห่งสงคราม เทพสงครามคู่บัลลังค์จิ๋นซีเขาเป็นแม่ทัพคนสำคัญของฉินอ๋องเจิ้ง 

หรือจิ๋นซีฮ่องเต้ ที่ช่วยทำการรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นปึกแผ่น


81. พระเจ้าอัลฟอนโซมหาราช : ครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งอัสตูเรียสราชอาณาจักรในคาบสมุทร

ไอบีเรียขยายอาณาเขตไปได้มากมาย รัฐเอมีร์กอร์โดบายึดครองกูอิงบรา, ซาโมรา และบูร์โกส 

ปราบกบฏชาวบาสก์ กบฏชาวกาลิเซีย ทรงพิชิตโอพอร์โต


82. เหลียนป๋อ : ขุนพลของ รัฐจ้าว ใน ยุครณรัฐ ของประวัติศาสตร์จีน เขาถูกบันทึกชื่อโดยนัก

ประวัติศาสตร์ว่าเป็นหนึ่งในสี่ขุนพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุครณรัฐ


83. จักรพรรดิเอากุสตุส : เป็นจักรพรรดิพระองค์แรกของจักรวรรดิโรมัน 


84. พระเจ้าแทโจมหาราช : เป็นกษัตริย์องค์ที่หกของ โคกูรยอ ขยายพระราชอาณาเขตและ

การรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางควบคุมกองทัพ เศรษฐกิจ และการเมืองได้อย่างมั่นคง


85. กุบไล ข่าน :  เป็นข่านแห่งจักรวรรดิมองโกลและยังเป็นฮ่องเต้องค์แรกของราชวงศ์หยวน 

กุบไล ข่าน เป็นพระราชนัดดาในจักรพรรดิเจงกิส ข่าน 


86. ฌ้อปาอ๋อง : ขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่ในยุคปลายราชวงศ์ฉินที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จีน คู่ปรับ

คนสำคัญของหลิวปังที่เป็นปฐมจักรพรรดิจีนราชวงศ์ฮั่น


87. Alexander Nevsky แกรนด์ปรินซ์แห่งเคียฟ


88. พระเจ้าราชราช โจฬะที่ 1 : ทรงเป็นหนึ่งในจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งราชวงศ์โจฬะ  

ทรงพิชิตคาบสมุทรอินเดียใต้ ทรงสถาปนาจักรวรรดิโจฬะขึ้นด้วยการพิชิตอาณาจักรต่าง ๆ 

ทางอินเดียใต้ขยายพระราชอาณาเขตไปจนจดเกาะศรีลังกาในทางทิศใต้ และถึงอาณาจักรกฬิงคะ 

 ทางตะวันออกของประเทศอินเดีย


89. Bertrand du Guesclin : อัศวินชาวเบรอตงและเป็นผู้บัญชาการทหารที่สำคัญในฝั่งฝรั่งเศส

ในสมัยสงครามร้อยปีระหว่างราชอาณาจักรอังกฤษและฝรั่งเศสในช่วงปลายยุคกลางเป็นที่รู้จักกันดี

ในเรื่องกลยุทธ์ของฟาเบียน Fabian Strategy กลยุทธ์แบบกองโจรสยบ 10 ทิศ การรบเจ็ด ครั้ง 

และชนะห้าครั้งซึ่งเขาเป็นผู้บังคับบัญชา


90. กอดฟรีย์แห่งบูยง : ผู้นำคนหนึ่งผู้มีบทบาทในสงครามครูเสดครั้งที่ 1 เป็นลอร์ดแห่งบูลอญ 

และดยุคแห่งโลว์เออร์ลอแรนเป็นผู้ครองราชอาณาจักรเยรูซาเลม  เป็นอาณาจักรคริสเตียนที่ก่อตั้ง

ในบริเวณลว้าน หลังสงครามครูเสดครั้งที่ 1 และยืนยาวต่อมากว่าสองร้อยปี


91. จักรพรรดิกวาง จุง  : จักรพรรดิองค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์เต็ยเซินของเวียดนาม เป็นทหารที่โดดเด่น 

และยังเป็นนักการเมืองที่มีความสามารถ


92. ซูบูไท (Subutai) : ผู้นำการรุกรานของมองโกลเข้าสู่ยุโรปทำลายราชนครรัฐต่างๆ ว่ากันว่า

ทหารม้าในบัญชาของเขานั้น เป็นทหารม้ามองโกลไร้เทียมทาน 


93. ฮั่วชวี่ปิ้ง : เป็นขุนศึกจีนสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก เป็นแม่ทัพคู่ใจของจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้  

เขานั้นไม่เคยแพ้ใครตลอดชีวิตการทำศึกของเขาเลย


94. คอลิด อิบน์ อัลวะลีด : เป็นผู้มีทักษะในการรบและเป็นผู้บัญชาการภายใต้การควบคุมของมุฮัมมัด, 

อบูบักร์ และอุมัร สู้รบมากกว่า 100 สนามรบ กับ จักรวรรดิไบแซนไทน์, จักรวรรดิแซสซานิด และกบฏใน

จักรวรรดิเคาะลีฟะฮ์เป็นหนึ่งในแม่ทัพไม่กี่คนที่ไม่เคยพ่ายแพ้สงครามใด


95. โจชิ ข่าน : ผู้บัญชาการกองทัพมองโกลซึ่งเป็นลูกชายคนโตของ เจงกิสข่าน เป็นผู้นำทางทหารที่

ประสบความสำเร็จในการพิชิตเอเชียกลางของบิดา


96. บาจีราว ที่ 1 : ยอดนักรบประวัติศาสตร์อินเดียทวงสิทธิ์อันชอบธรรมของฮินดูบนผืนแผ่นดินอินเดีย

จากชาวมุคัล ซึ่งเป็นอิสลามเป็นหนึ่งในนักรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอินเดีย


97. จักรพรรดิถังไท่จง : หลี่ซื่อหมินจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ถัง เป็นยุคทองของราชวงศ์ถัง

ทีเดียว 


98. เอ็ดเวิร์ด ทีช : เอ็ดเวิร์ด ทีช หรือที่รู้จักกันดี ในชื่อ ไอ้เคราดำ หรือ แบล็คเบียร์ด เป็นโจรสลัด

ที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง ออกปล้นบริเวณทะเลแคริบเบียน และชายฝั่งตะวันออกของอาณานิคม

อเมริกัน แถบมหาสมุทรแอตแลนติก


99. เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายดำ : เอ็ดเวิร์ดแห่งวูดสต็อค   the Black Prince ผู้มีบทบาทในการต่อสู้กับ

ราชอาณาจักรฝรั่งเศสในสงครามร้อยปี


100. โอลิเวียร์ เดอ คลีซง : เป็นทหารชาวเบรอตง เข้าร่วมสงคราม สงครามสืบราชบัลลังก์เบรอตง 

เป็นหนึ่งในผู้บัญชาการกองทหารมงฟอร์ตที่สามารถยึดเบเชเรลได้ เข้าสู้ในสงครามของปัวตีเย

และ Battle of Castile 



หน้าที่เกี่ยวข้อง

8 เทพ โป๊ยเซียน ( 8 Immortals )

โป๊ยเซียน เทพแห่งโชคลาภตามคติจีนโบราณ

รวมเทพ เด่นๆ มีชื่อ กรีก อียิปต์ จีน ฮินดู ความสามารถด้านใดบ้าง 

พลิกตำนานเทพเจ้า ตอนเทพเจ้าอียิปต์

100 สุดยอดนักรบ แม่ทัพ ยุคโบราณ 


...

รายชื่อบุคคลสำคัญ คนดัง ที่โดนลอบสังหาร

 


รายชื่อบุคคลสำคัญ คนดัง ที่โดนลอบสังหาร


1. อาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ : ทรงเป็นพระราชกุมารแห่งฮังการีและโบฮีเมีย และเป็น

รัชทายาทลำดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ถูกลอบปลงพระชนม์โดยนักชาตินิยมหัวรุนแรง

ชาวเซอร์เบีย ขณะประทับ ที่เมืองซาราเยโว โดยกัฟรีโล ปรินซีป หนึ่งในสมาชิกกลุ่มแบล็คแฮนด์ 

จากการลอบสังหารครั้งนี้ทำให้เรื่องบานปลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ไปสู่สงครามโลกครั้งที่1


2. จอห์น เลนนอน : นักร้อง นักแต่งเพลงชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงทั่วโลก และเป็นสมาชิกร่วมก่อตั้ง

วงเดอะบีเทิลส์  เสียชีวิต วันที่ 8 ธันวาคม 1980 ขณะเลนนอนและโอโนะกลับเข้าห้องพักเดอะดาโคตา 

ในรัฐนิวยอร์ก ถูก  มาร์ก เดวิด แชปแมนยิงเสียชีวิตขณะพามาโรงพยาบาล


3. มาร์ติน ลูเธอร์ คิง : นักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ว่าด้วยการเหยียดสีผิว

 เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดมากในสหรัฐ จนกระทั่งนิตยสาร ไทมส์ ยกย่องให้เขาเป็น 

“บุรุษแห่งปี” ในปี 1963 เป็นชายอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ในปี 1964 

ถูกลอบยิงและเสียชีวิต ขณะกำลังกล่าวสุนทรพจน์ปลุกใจที่มีชื่อว่า “ข้าพเจ้าได้ไปถึงยอดเขา” 

เป็นสุนทรพจน์สุดท้ายของเขา ในปี 1968 ตรงระเบียงชั้นสองหน้าห้องที่โรงแรม  ในเมืองเมมฟิส


4. อับราฮัม ลินคอล์น : ประธานาธิบดีเป็นคนที่ 16 แห่งสหรัฐอเมริกา  ถูกลอบสังหารเมื่อเดือน

เมษายน ค.ศ. 1865  โดยนักแสดงผู้ฝักใฝ่สมาพันธรัฐ จอห์น วิลค์ส บูธ (John Wilkes Booth) 

ถือเป็นการลอบสังหารประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก ลินคอล์นถูกยกย่องเป็นหนึ่ง

ในประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

รายชื่อบุคคลสำคัญ คนดัง ที่โดนลอบสังหาร


5. จอห์น เอฟ เคนเนดี : เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาคนที่ 35 ซึ่งสมัยของเขาอยู่ในช่วง

สงครามเย็น กับ สหภาพโซเวียต ถูกลอบสังหารในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1963 ในแดลลัส รัฐเท็กซัส 

โดยนาย ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ ผู้นิยมมาร์กซิสต์และอดีตนาวิกโยธินสหรัฐ 


6. มูอัมมาร์ กัดดาฟี : ผู้นำประเทศลิเบียจากการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2512 ถูกล่าสังการหลังจาก

ที่ลิเบียพ่ายแพ้แก่ฝ่ายกองทหารกบฏ +กองทัพสหรัฐ รัฐบาลกัดดาฟีถูกโค่โค่นอำนาจ มูอัมมาร์ กัดดาฟี

ถูกลากลงมาจากรถกระบะ แล้วลากไปตามทางก่อนจะมีเสียงปืน กลุ่มกองทหารกบฏซ้อมและยิงเสียชีวิต


7. จูเลียส ซีซาร์ : เป็นรัฐบุรุษ แม่ทัพ ที่โด่งดังที่สุดเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของโรมัน ในช่วง  100 ปี

ก่อนคริสตกาล ถึง 40 ปีก่อนคริสตกาลเขามีฐานะอำนาจและอิทธิพลสูงสุด รบเก่ง กุมอำนาจ 

ขยายอาณาจักรและเป็นเผด็จการ แต่ก็มีคนต้องการให้เขาล้มลงทำให้ ซีซาร์ถูกกลุ่มสมาชิกวุฒิสภา

กบฏลอบสังหาร  44 ปีก่อนคริสตกาล ซีซาร์ถูกยกย่องเป็นผู้บัญชาการทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน

ประวัติศาสตร์คนหนึ่งของโลก 


8. เช กูวารา :  เป็นนักปฏิวัติลัทธิมากซ์ นายแพทย์ นักเขียน ผู้นำนักรบกองโจร นักการทูต 

ชาวอาร์เจนตินา เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งจากการปฏิวัติคิวบา มีบทบาททางการเมืองสูงในคิวบา

และระดับโลกที่นิยมฝ่ายซ้าย เขาได้รับเลือกจากนิตยสารไทม์ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพล

ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 วีรบุรุษของชาวคิวบาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก 9 ตุลาคม 1967 

ถูกยิงเสียชีวิต หลังจากได้เข้าไปสร้างหน่วยรบกองโจรที่ โบลิเวีย และมีผลงานที่ดีชนะติดๆกัน

ในช่วงแรก แต่ในช่วงท้ายๆ เขาก็ต้องถอยให้แก่โบลิเวีย ที่มี อเมริกาเข้ามาให้ความช่วยเหลือ 

จนกองโจรของเขาแทบหมดสิ้น ตัวเขาเองก็บาดเจ็บและถูกยิงเสียชีวิต และได้กลายมาเป็น

สัญลักษณ์สำคัญในฐานะนักปฏิวัติผู้ได้รับความชื่นชมยกย่องอย่างกว้างขวาง จากฝ่ายซ้าย

ในแถบยุโรปตะวันออก อเมริกาเหนือ ในช่วงยุค 60 


9. ซากาโมโตะ เรียวมะ :  เป็นซามูไรผู้มีบทบาทสำคัญในการโค่นล้มรัฐบาลทหารของโชกุน

ตระกูลโตกุกาวะ และเป็นจุดเริ่มต้นของการนำพาญี่ปุ่นปฏิรูปประเทศให้ไปสู่ความทันสมัยตาม

อย่างชาติยุโรปตะวันตกเป็นผู้ก่อตั้งไคเอ็นไต  เป็นบริษัทเดินเรือและพาณิชย์นาวีแห่งแรก

ของประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีจุดประสงค์ทางการเมืองแอบแฝงคือการโค่นล้มระบอบโชกุน เสียชีวิต

จากการถูกลอบสังหารเมื่อ ค.ศ. 1867 พร้อมกันกับนากาโอกะ ชินตาโร ผู้เป็นพี่น้องร่วมสาบาน

ซึ่งเกิดก่อนการปฎิรูปเมจิ ไม่นานสักเท่าใดนัก มีผู้กล่าวหาว่าเป็นผลงานของกลุ่มชินเซ็นกูมิ 

แต่ความจริงแล้วอาจจะเป็นกลุ่มอืนที่สนับสนุนระบอบโชกุน ซึ่งก็ไม่มีการสอบสอนความจริง

หลังจากนั้น แต่ผู้นำกลุ่มชินเซ็นกูมิ ก็ได้ถูกตัดสินประหารชีวิตจากเรื่องนั้นไปแล้ว เรียวมะ

เสียชีวิตขณะมีอายุได้เพียง 31 ปีเท่านั้น


10. เบนาซีร์ บุตโต : อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศปากีสถาน เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก

ของประเทศอิสลาม โดยดำรงตำแหน่ง 2 สมัย หลังลี้ภัยในต่างประเทศถึง 8 ปี ก็กลับมาประเทศ

เพื่อหาเสียงเตรียมชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง แต่ก็เกิดเรื่องเศร้าเสียก่อน หลังเกิดเหตุ

มือระเบิดพลีชีพ ระหว่างการหาเสียงที่เมืองราวัลพินดี และเธอถูกยิงเข้าที่ลำคอเสียชีวิต


11. กริกอรี รัสปูติน : นักบุญที่สร้างความเสื่อมโทรมให้ราชวงศ์รัสเซีย สนิทกับราชวงศ์ของ

จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายแห่งรัสเซีย จนทำเรื่องราวต่างๆไว้มากมาย 

เช่น จอมตัณหา มักมากในกามใช้อำนาจไปในทางมิชอบ จนโดนเจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟ พระสวามี

ในพระนัดดาของพระเจ้าซาร์วางแผนลอบสังหารด้วยการเชิญให้ รัสปูติน มาเข้าเฝ้า วางยาพิษ

ลงในขนมของรัสปูติน แต่ยาพิษไม่เป็นผลกับเขาเจ้าชายเลยคว้าปืนยิงเข้าใส่รัสปูติน แต่รัสปูติน

ยังดิ้นสู้ไม่ยอมตายและยังเข้าไปจะทำร้ายองค์ชาย จึงทำให้ผู้ร่วมก่อการอย่าง วลาดิเมียร์ พูริชเควิช

ผู้นำฝ่ายขวาของรัฐสภารัสเซีย ก็ได้กระหน่ำยิงเข้าใส่รัสปูตินไปหลายนัด และมีนัดที่เข้าศรีษะ

จนล้มลง ปละเข้าใจว่าตายแล้ว แต่ทว่าเขายังไม่ตาย ( เล่นของหรอเนี่ย ) โดยการมารู้ทีหลังว่า

ตอนที่พวกเขาห่อร่างของ รัสปูติน พาไปยังแม่น้ำเนวาที่เป็นน้ำแข็งแล้วก็นำเอาร่างที่ห่อไว้ของ 

รัสปูติน จับยัดลงไปในโพรงน้ำแข็ง ซึ่งตอนหลังมีการมาพบห่อร่างของเขานั้น เขายังไม่ตายตอน

ถูกยิงและโดนโดนโยนลงน้ำที่เป็นน้ำแข็ง ที่ยัดลงในโพรงน้ำแข็งเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่มาตาย

เพราะจมน้ำตายหลัง พยายามดิ้นรนให้พ้นจากใต้ผืนน้ำแข็งแต่ไม่สำเร็จ


12. ราชีพ คานธี : นายกรัฐมนตรีอินเดียที่อายุน้อยที่สุด ขณะเข้าดำรงตำแหน่ง (40 ปี)  เป็น

บุตรชายคนโตของนางอินทิรา คานธี ถูกลอบสังหารจากเหตุผลทางการเมือง ในช่วงการหาเสียงที่ 

เพื่อจะได้รับการเลือกตั้งสมัยที่ 2 ที่รัฐทมิฬนาฑู ทางภาคใต้ของอินเดีย แต่ก็ได้มี หญิงสาวชาวทมิฬ

คนนึงทำการระเบิดพลีชีพโดยแน่นอนเป้าหมายคือนาย ราชีพ นายกรัฐมนตรีอินเดียที่อายุน้อยที่สุด

ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2534


13. อินทิรา คานธี : อดีตนายกรัฐมนตรีอินเดียที่ดำรงตำแหน่งถึง 3 วาระติดต่อกัน และเป็น

นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประเทศอินเดีย ถูกลอบสังหาร 31 ตุลาคม 2527, นิวเดลี, อินเดีย 

โดนองครักษ์สองคนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงกว่า 30 นัด ที่บริเวณสวนในทำเนียบนายกรัฐมนตรี

และถึงแก่อสัญกรรมระหว่างถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล สาเหตุเนื่องจากเหตุการณ์ความขัดแย้ง

ระหว่างชาวฮินดูกับชาวซิกข์หลังปฏิบัติการดาวน้ำเงิน ( การปฏิบัติการทางทหารที่กองทัพอินเดีย 

เพื่อกำจัดหัวหน้ากองกำลังซิกข์ติดอาวุธ Jarnail Singh Bhindranwale และสมุนออกจากหมู่อาคาร

ของหริมันทิรสาหิบ (วิหารทอง) * เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในศาสนาซิกข์ ในอมฤตสระ 

รัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย


14. มหาตมา คานธี : เป็นผู้นำและนักการเมืองนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพชาวอินเดีย โดยการต่อสู้เรียกร้อง

เอกราชให้อินเดีย แบบ อารยะขัดขืน ที่เป็นต้นแบบของการชุมนุมเรียกร้องของบรรดาผู้คนที่ไม่มีอำนาจ

มากนักต่อผู้มีอำนาจถูกลอบสังหารโดย ผู้คลั่งศาสนา ที่ไม่ต้องการให้ฮินดูสมานฉันท์กับมุสลิม 

ยิงปืนใส่คานธี 3 นัด คานธีเสียชีวิตในวัย 78 ปี


15. อันวาร์ ซาดัต : ผู้นำชาติอาหรับชาติแรกที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล และ

เดินทางไปเยือนอิสราเอลใน พ.ศ. 2520 หลังจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับอียิปต์ จนได้รับ

รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจากที่ถูกการลอบสังหารโดยสมาชิกกลุ่มอิสลามิกญีฮัดอียิปต์ ระหว่าง

งานสวนสนามประจำปีฉลองชัยชนะในปฏิบัติการ "บาดร์" ซึ่งเป็นปฎิบัติการที่อียิปต์ข้ามคลองสุเอซ 

และยึดคืนพื้นที่ส่วนเล็กๆ ในคาบสมุทรไซนายคืนจากอิสราเอลช่วงตอนที่เกิดสงครามยมคิปปูร์  

เป็นสงครามรบกันระหว่างแนวร่วมรัฐอาหรับซึ่งมีประเทศอียิปต์และซีเรียเป็นผู้นำต่ออิสราเอล

ส่วนใหญ่เกิดในคาบสมุทรไซนายและที่ราบสูงโกลัน ดินแดนซึ่งอิสราเอลยึดครองตั้งแต่สงครามหกวัน

ซึ่งมุลเหตุน่าจะมาจากการที่เขาได้ทำสนธิสัญญาสันติภาพอียิปต์ – อิสราเอลในปี 2522ทำให้ในหมู่

ชาติอาหรับนั้นไม่พเอใจและกลุ่มเคลื่นไหวในอียิปต์เกี่ยวกะเรื่องนี้เองก็ไม่พอใจ


16. ฮาร์วีย์ มิลค์ : นักการเมืองชาวอเมริกันคนแรกที่เปิดเผยว่าเป็นเกย์  เป็น LGBTQ คนแรกที่ได้รับ

การเลือกตั้งจากชาวสหรัฐฯ ให้เข้าไปนั่งในสภาที่ปรึกษาแห่งซานฟรานซิสโก เสียชีวิตจากการถูก 

แดน ไวท์ นักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ที่ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับสิทธ์และความเท่าเทียมทางเพศของ LGBTQ

 ยิงในระยะเผาขนจนเสียชีวิตในวันที่ 27 พฤศจิกายน 1978 


17. อเล็กซานเดอร์ ลิตวิเนนโก : คดีสายลับแปรพักตร์ รัสเซีย โดนสั่งหารดังไปทั่วโลก 

ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป (ECHR) ชี้รัสเซียอยู่เบื้องหลังลอบสังหารอดีตสายลับ KGB 

เสียชีวิตอย่างทารุณจากพิษกัมมันตภาพรังสีของสารพอโลเนียม 210 ในปี พ.ศ. 2549 โดยการ

ถูกวางยาพิษในชาเขียว ที่ปนเปื้อนธาตุกัมมันตรังสีพอโลเนียม 210 ในกรุงลอนดอน 


18. พัก จ็อง-ฮี : ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่นำพาเกาหลีไปสู่

ยุคอุตสาหกรรม ได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ว่าเป็นหนึ่งในสิบของชาวเอเซียแห่งศตวรรษ

ในปี ค.ศ. 1999 ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1979 ที่บ้านพักประจำตำแหน่งประธานาธิบดี 

ณ กรุงโซล โดยคิม แจ-กยู ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองกลางแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (KCIA) 

เป็นผู้ลงมือลอบสังหาร


19. อองซาน : เป็นนักการเมือง นักเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช และนักปฏิวัติชาวพม่า ผู้ก่อตั้งกองกำลัง

แห่งชาติพม่า และได้รับการขนานให้เป็นบิดาแห่งรัฐพม่าสมัยใหม่ มีบทบาทมากในการได้รับเอกราช

ของพม่า แต่ถูกลอบสังหารราวหกเดือนก่อนที่พม่าจะได้รับเอกราช บิดาแห่งเอกราช วีรบุรุษของพม่า 

ถูกลอบสังหาร วันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 มีอายุแค่เพียง 32 ปี เป็นปัญหาความขัดแย้งภายใน

ของพม่า หัวหน้าการลอบสังหารคือ อูซอ นักการเมืองฝ่ายขวาที่ฝักใฝ่ฝ่ายญี่ปุ่น


20. โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี : นักการเมืองอเมริกัน และเป็นน้องชายของ จอห์น เอฟ. เคนเนดีดำรง

ตำแหน่งเป็นอัยการสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกา ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1968 

ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

สหรัฐอเมริกา


21. โอลอฟ พาลเมอร์ : นายกฯ สวีเดน ถูกลอบสังหารกลางถนน รัฐบุรุษชาวสวีเดน อดีตนายก

รัฐมนตรีสวีเดนสองสมัย  ถูกลอบสังหารในปี 1986 เหตุลอบสังหารนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว

โดยเฉพาะในสแกนดิเนเวียถูกยิงเสียชีวิตจากด้านหลังระหว่างเดินกลับบ้าน 


22. ยิตส์ฮัก ราบิน : เป็นนักการเมือง รัฐบุรุษ และนายพลเอกชาวอิสราเอล นายกรัฐมนตรีคนที่ 5 

ของประเทศอิสราเอล ดำรงตำแหน่ง 2 วาระ ได้รับตำแหน่งบุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์และ

รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ร่วมกับชิมอน เปเรสและยัสเซอร์ อาราฟัตในปี ค.ศ. 1994

ถูกลอบสังหารโดยนักศึกษาชาวยิวฝ่ายขวาเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของอิสราเอลที่ถูกลอบสังหาร 


23. มัลคอล์ม เอ็กซ์ : เจ้าของสโลแกน “ไร้ความยุติธรรม ไร้สันติภาพ” ศาสนาจารย์และนักกิจกรรม

สิทธิมนุษยชนมุสลิมเชื้อชาติแอฟริกัน-อเมริกัน ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมของผู้นับถือศาสนาอิสลาม 

เขาถูกขู่ฆ่าอยู่บ่อยครั้ง  เขาถูกสังหารเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1965 ขณะกำลังปราศรัยในหอ

ประชุมแห่งหนึ่งในแมนฮัตตัน 


24. ฟิลิปแห่งมาซีโดเนีย :  เป็นพระบิดาของ อเล็กซานเดอร์มหาราช เป็นกษัตริย์นักรบรบเอาชนะ

นครรัฐต่าง ๆ ของกรีซโบราณได้หลายแห่ง ทั้ง ธีบส์, เอเธนส์ หรือสปาร์ตา พระองค์สิ้นพระชนม์ลง

ก่อนเมื่อเดือนตุลาคม 336 ปีก่อนคริสต์ศักราช ขณะที่มีพระชนมายุได้ 46 ปี จากการลอบสังหาร

ด้วยมีดปักเข้าที่พระอุระของมือสังหารที่เดินตามหลังพระองค์ ขณะที่พระองค์อยู่ในงานเฉลิมฉลอง 


25. ราชินีมิน : หรือ จักรพรรดินีมยองซอง จักรพรรดินีพระองค์สุดท้ายของเกาหลี ทรงมีบทบาท

อย่างมากในการปกครองและปฏิรูปประเทศในช่วยปลายสมัยราชวงศ์โชซอน ทรงเป็นอุปสรรค

ที่สำคัญที่สุดในการแผ่ขยายอิทธิพลของญี่ปุ่นเข้าไปในเกาหลี ถูกรลอบปลงพระชนม์ในวันที่ 8 ตุลาคม

 ค.ศ. 1895 ให้ชื่อปฏิบัติการนี้ว่า การปฏิบัติการฟอกซ์ฮันท์ (Operation Fox Hunt)  ทหารผสมชาว

ญี่ปุ่นและเกาหลีเข้าบุกพระราชวังคยองบกเข้าปลงพระชนม์พระมเหสีมินที่ตำหนักอ๊กโฮรู


26. เลออน ทรอตสกี : มือขวาคนสำคัญของวลาร์ดีเมียร์ เลนิน  นักปฏิวัติและนักทฤษฎีมาร์กซิสต์ 

นักการเมืองโซเวียต และผู้ก่อตั้งและผู้นำคนแรกของกองทัพแดง  แกนนำคนสำคัญแห่งพรรค

บอลเชวิก เพื่อนและคู๋แค้นสำคัญของ สตาลิน เป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้บอลเชวิคชนะใสงคราม

กลางเมืองรัสเซีย แต่เมื่อโจเซฟ สตาลิน ก้าวเข้าสู่อำนาจ ทรอดสกี ก็ถูกขับออกจากพรรคคอมมิวนิสต์

 เนรเทศออกจากสหภาพโซเวียตและถูกลอบสังหารตามคำสั่งของสตาลิน ในวันที่ 20 สิงหาคม 

ค.ศ.1940 โดยมือสังหารคือ รามอน เมอร์เกเดอร์ ได้ใช้ที่เจาะน้ำแข็งแทงไปที่ศีรษะของเขา 

ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และเสียชีวิตในวันถัดมาตอนอายุ 60 ปี


27. พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 : ราชวงศ์โรมานอฟ เป็นราชวงศ์สุดท้ายของรัสเซีย 


28. คอมโมดัส : จักรพรรดิผู้วิปริตแห่งอาณาจักรโรมัน ยุคสมัยของเขาจัดว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ

ความเสื่อมของอาณาจักรโรมันจนล่มสลายในที่สุด ( เรื่องของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ในยุคหลังๆ )

เขาเป็นผู้ปกครองที่แย่มากในทุกด้าน ผลาญงบประมาณแผ่นดิน เกเรเจ้าสำราญไม่ออกว่าราชการ 

เอาแต่เล่นกลาดิเอเตอร์ที่สู็กับนักรบในโคลอสเซียม และไม่เคยแพ้ เพราะล็อกผลให้ตัวเองชนะ

ไล่กำจัดนักการเมืองที่ต่อต้านพระองค์ ออกกฏหมายห้ามวิพากษ์วิจารณ์จักรพรรดิ จนเป็นที่มา

ของการลอบสังหารโดยการสั่งการของคนในวุฒิสภา คอมโมดัสสวรรคตด้วยการถูกวางยาพิษใน

พระกระยาหารเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 192 บางแหล่งก็บอกว่าถูกนักรบกลาดิเอเตอร์ ลอบเข้ามา

บีบพระศอของพระองค์จนสิ้นพระชนม์ เพื่อแก้แค้นให้เจ้านายที่เป็นวุฒิสภา ที่โดนคอมโมดัสสั่ง

ประหาร แต่น้ำหนักจากแหล่งในเน็ตทั้งหลายจะออกไปในทางที่ว่า โดนนางสนมหักหลั่งร่วมมือ

กับคนในสภาวางยาพิษพระองค์


29. ยิตซัค ราบิน : เป็นนักการเมือง รัฐบุรุษ และนายพลเอกชาวอิสราเอล ราบินเคยดำรงตำแหน่งนายก

รัฐมนตรีคนที่ 5 ของประเทศอิสราเอลได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ได้รับตำแหน่งบุคคลแห่งปี

ของนิตยสารไทม์ จากการที่ยุติปัญหามีส่วนสำคัญในข้อตกลงสันติภาพออสโล ใน ค.ศ. 1994 เรื่อง

อิสราเอลและปาเลสไตน์ร่วมกับชิมอน เปเรสและยัสเซอร์ อาราฟัตในปี ค.ศ. 1994 ชาวอิสราเอลและ

ทั่วโลกส่วนใหญ่มองว่าเป็นเรื่องดี แต่ก็มีชาวอิสราเอล อีกส่วนที่มองว่าเป็นผู้ทรยศที่ยอมอ่อนข้อมอบ

ดินแดนที่ถือเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของชาวอิสราเอล จึงถูกฝั่งต่อต้านลอบสังหารในปี ค.ศ. 1995 


30. 


31.  : 


32.  : 


33. 


34. 


35. 


36. 


37.  : 


38.  : 


39.  : 


40.  : 


41.  : 


42.  : 


43.  : 


44.  : 


45.  : 


46.  : 


47.  : 


48.  : 


49.  : 


50.  : 




เจเรไมอาห์ ฮอร์รอกส์ ( Jeremiah Horrock )

 


เจเรไมอาห์ ฮอร์รอกส์ ( Jeremiah Horrock )

  เจเรไมอาห์ ฮอร์รอกส์ ( Jeremiah Horrock ) หรือ Jeremiah Horrox 

เจเรไมอาห์ ฮอร์รอกส์ ( Jeremiah Horrock )

ความรู้รอบตัว

ผลงาน เป็นนักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษคนแรกที่ได้สังเกตการณ์การเคลื่อนตัวในวงโคจรของดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์

(Transit of Venus) เป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ที่เกิดขึ้นเมื่อดาวศุกร์เคลื่อนที่ผ่านแนวเส้นตรงที่เชื่อมระหว่าง

โลกกับดวงอาทิตย์ คนบนโลกจะเห็นดาวศุกร์เป็นดวงกลมดำขนาดเล็กเคลื่อนที่พาดผ่านดวงอาทิตย์ การผ่านหน้า

คล้ายคลึงกับสุริยุปราคาแต่ต่างกันตรงที่ดาวศุกร์อยู่ห่างจากโลกมากกว่าดวงจันทร์ นั่นเอง


 ในอดีตนักดาราศาสตร์ใช้ปรากฏการณ์นี้ในการวัดระยะทางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์โดยอาศัยการเกิดแพรัลแลกซ์ 

* พารัลแลกซ์ (อังกฤษ: Parallax) คือลักษณะการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งปรากฏ หรือความแตกต่างของตำแหน่งของวัตถุ

เมื่อมองผ่านมุมมองที่แตกต่างกัน สามารถวัดได้จากมุมของความเอียงระหว่างเส้นสังเกตทั้งสองเส้น 


 เจเรไมอาห์ ฮอร์รอกส์ เป็นคนแรกที่ได้คำนวณและสังเกตเห็นการเคลื่อนตัวในวงโคจรของดาวศุกร์ผ่านหน้า

ดวงอาทิตย์ดังกล่าวเมื่อเวลาตั้งแต่ 15.15 น. จนดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1639 


เจเรไมอาห์ ฮอร์รอกส์ รวมถึง  วิลเลียม แคบทรี William Crabtree เพื่อนของเขาเป็น 2 คนที่สังเกตและจดบันทึกเอาไว้

การเฝ้าสังเกตุของ เจเรไมอาห์ ฮอร์รอกส์ ช่วยทำให้เขานั้นสามารถกะการคาดคะเนขนาดของดาวศุกร์ได้แม่นยำมากขึ้น 

และรวมไปถึงระยะห่างจากโลกกับดวงอาทิตย์ 95 ล้านกิโลเมตรหรือ 59 ล้านไมล์ซึ่งในปัจจุบันพบว่า โลกห่างจากดวงอาทิตย์

โดยเฉลี่ยแล้วมีระยะทาง 150 ล้านกิโลเมตร หรือ 92,600,000 ไมล์ ก็ยังถือว่าการคาดคะเนของ เจเรไมอาห์ ฮอร์รอกส์ 

นั้นแม่นยำมากในสมัยนั้น งานของเจเรไมอาห์ ฮอร์รอกส์ได้รับการตีพิมพ์ โดยนักดาราศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ 

 โยฮันเนส เอเวลิอุส (Johannes Hevelius) ด้วยทุนส่วนตัวของเขาเอง


เจเรไมอาห์ ฮอร์รอกส์ ยังศึกษางานของ โยฮันเนส เคลเปอร์ (Johannes Kepler) ไทโค บราห์ ( Tycho Brahe) 

และนักดาราศาสตร์คนอื่นๆ  หลังจากการสังเกตุการณ์ครั้งนั้นของ เจเรไมอาห์ ฮอร์รอกส์ เขาก็เฝ้าทุ่มเทใช้เวลาสังเกต

การเคลื่อนตัวของดาวพระศุกร์ต่อมาเป็นเวลาอีกหลายปี

   เจเรไมอาห์ ฮอร์รอกส์ ได้กลับไปที่ทอกซ์เทคปาร์คเป็นครั้งคราวในฤดูร้อน ปี พ.ศ. 2183 และเสียชีวิตกะทันหัน

โดยไม่ทราบสาเหตุในปีต่อมา ในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1641





จอร์จ วอชิงตัน (George Washington) ปธน.คนแรกของสหรัฐ






จอร์จ วอชิงตัน (George Washington)

จอร์จ วอชิงตัน (George Washington) ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา

จอร์จ วอชิงตัน เกิดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1732


เป็นผู้นำทางทหารและการเมืองที่โดดเด่นของสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้น

ระหว่าง ค.ศ. 1775 ถึง 1799 เขานำสหรัฐจนได้รับชัยชนะเหนือบริเตนใหญ่

ในสงครามปฏิวัติอเมริกัน (เป็นสงครามระหว่างสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่

และไอร์แลนด์ฝ่ายหนึ่ง กับสิบสามอาณานิคมอังกฤษในทวีปอเมริกาเหนือ

อีกฝ่ายหนึ่ง)


เขาเริ่มต้นด้วยการทำอาชีพ เกษตร


ค.ศ. 1749 เขาถูกแต่งตั้งให้อยู่ในสำนักงานสำรวจ คัลเปเปอร์ เคาท์ตี้ (รัฐเวอร์จิเนียร์)

ซึ่งเป็นที่ดินแดนแห่งใหม่


ค.ศ. 1752 เมื่ออายุได้เพียง 20 ปี จอร์จ วอชิงตัน เข้าเป็นทหารมีหน้าที่ฝึกทหาร

กองหนุน


ค.ศ. 1753 วอชิงตันได้รับการร้องขอจากผู้ว่าการอาณานิคมแห่งเวอร์จิเนีย


ปี ค.ศ. 1754  จอร์จ วอชิงตัน ได้รับยศพันโทและได้เดินทางไปยังป้อม

Fort Duquesne เพื่อไปขับไล่ชาวแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศส เขาจัดการทหารหน่วย

สอดแนมของฝรั่งเศสไปกว่า 30 นาย แต่เขาก็ต้องพ่ายแพ้ในสมรภูมินี้ เพราะข้าศึก

มีกำลังเหนือหว่า พื้นที่คุ้นเคยชัยภูมิดีกว่าวอชิงตันได้รับการปล่อยตัวจากพวก

แคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศส และได้กลับสู่เวอร์จิเนีย


ค.ศ. 1755 วอชิงตันเป็นนายทหารผู้ช่วยของนายพลเอ็ดวาร์ด แบร็ดด็อก

แห่งอังกฤษ แต่เหตุร้าย นายพลเอ็ดวาร์ด โดนลอบสังหารในระหว่างเดินทาง

ตามประวัติเล่าว่า ในการเดินทางหรือการเดินทัพนั้นตอนที่นายพลเอ็ดวาร์ด

โดนลอบสังหารเขาเป็นผู้ขี่มาตลุยไปทั่วทุกสมรภูมิเพื่อรวบรวมกำลังรบที่เหลือ

ของอังกฤษ เพื่อที่จะเตรียมการถอยทัพ หลังจากจบเรื่องวุ่น จอร์จ วอชิงตัน

จึงได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ดูแลชายแดนแถบเทือกเขาเวอร์จิเนีย

โดยตบรางวัลให้เลื่อนยศเป็นพันเอกผู้บัญชาการแห่งกองกำลังเวอร์จิเนีย

ทั้งหมด


ค.ศ. 1758 วอชิงตันติดยศนายพลจัตวาในคณะเดินทางของ Forbes ที่บังคับให้

ฝรั่งเศสอพยพถอนทัพออกจาก Fort Duquesne หลังจากปีนั้นเขาได้ลาออกและ

กลับไปทำไร่ของเขาเป็นเวลาถึง 16 ปี ไปเป็นนัการเมืองท้องถิ่นที่เวอร์จิเนียแทน


6 มกราคม ค.ศ. 1759 จอร์จ วอชิงตัน ได้แต่งงานกับ  มาร์ธา แดนดริดจ์ คัสทิส

ที่บ้านกลังนึงที่มีชื่อว่า ไวท์เฮาส์ (White House) ซึ่งชื่อบ้านนี้ได้กลายเป็นชื่อ

ทำเนียบขาวต่อมาในปัจจุบัน


 - วอชิงตันได้รับเลือกให้เป็นฝ่ายนิติบัญญัติของสภาประจำเวอร์จิเนีย


วอชิงตันมีบทบาทการเป็นผู้นำให้แก่ชาวอาณานิคมในการต่อต้านอังกฤษ

เกิดความขัดแย้งระหว่างอาณานิคมอเมริกันกับประเทศอังกฤษเพราะอาณานิคม

ไม่พอใจที่ถูกเรียกเก็บภาษี และปกครองโดยรัฐบาลอังกฤษ


ค.ศ. 1769 จอร์จ วอชิงตัน ได้ยื่นหนังสือข้อเสนอเรื่องการคว่ำบาตรสินค้าที่มา

จากอังกฤษ จนกว่าจะมีการยกเลิกพระราชบัญญัติทาวน์เชนด์ (ภาษีใบชา )

และในที่สุดมีนาคม 1770 ถูกบังคับให้ยกเลิก "กฎหมายทาวน์เซนด์


ค.ศ. 1774  วอชิงตันได้เห็นพระราชบัญญัติ (Intolerable Acts) ที่บีบคั้น

ลดทอนสิทธิประโยชน์ของชาวอาณานิคม โดนเฉพาะเรื่องการปิดอ่าวบอสตัน

จากกรณี Boston tea party ทำให้เขาจัดการประชุมโดยตัวเองเป็นประธาน

จนเกิดข้อตกลงแฟร์แฟ็กซ์ (Fairfax Resolves) ต่อมาเขาได้เข้าประชุม

เวอร์จิเนียครั้งที่ 1


(First Virginia Convention) และได้รับเลือกจากที่ประชุมให้เป็นตัวแทนไปประชุม

สภาอาณานิคมที่ 1 (First Continental Congress) อันเป็นเหตุการณ์ที่นำไปสู่การ

ประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ


ค.ศ. 1775 ในการประชุมสภาอาณานิคมที่ 2 (Second Continental Congress)

เป็นการแสดงจุดยืนว่าเขาต้องการรบเพื่อให้ได้มาซึ่งอิสระภาพของเหล่า

อาณานิคมทั้งหลาย จอร์จ วอชิงตัน ได้ก่อตั้งกองทัพบกที่เรียกว่ากองทัพ

ฝ่ายอาณานิคม (Continental Army)ในวันที่ 14 มิถุนายน เขารบอยู่หลายสมรภูมิ

ส่วนใหญ่จะเสียเปรียบ


จนถึง ค.ศ. 1780 โดยคำสั่งของเขากองทัพนายพลจอห์น ซูวิลเลียน, ได้ตอบโต้

ต่อการที่ Iroquois และ Tory โจมตีชาวอาณานิคมอเมริกันในช่วงต้นของสงคราม

เป็นการรบชนะที่เด็ดขาด สามารถทำลายอย่างน้อย 40 หมู่บ้าน ในตอนเหนือ

ของนิวยอร์กและในวันสำคัญก็มาถึง วันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 1781 หลังจากชัยชนะ

ของกองทัพเรือฝรั่งเศส ทำให้กำลังทัพของอังกฤษต้องถูกกักอยู่ที่เวอร์จิเนีย

ทำให้ต้องยอมแพ้


สงครามได้ยุติลง กองทักโดยการนำของ จอร์จ วอชิงตัน ได้รับชัยชนะ เป็น

ชัยชนะที่ไม่ได้มีมากครั้งแต่เป็นครั้งสำคัญที่สุดของเขา หลังจากจัดการเรื่อง

การเข้ายึดครองและปัญหาระหว่างสภา กับ นายพลในกองทัพเขาก็ได้ลาออก

จากตำแหน่งไปอยู่ที่เมานต์เวอร์นอน ในช่วงเวลาสั้นๆ ไปทำหน้าที่การเมือง

ของเขาแบบเดิมจนต่อมา ทุกคนในสภาและคณะเลือกตั้ง มีมติเอกฉันท์เลือก

วอชิงตันเป็นประธานาธิบดี และเลือกอีกครั้งในการเลือกตั้งปี ค.ศ. 1792

เขายังคงได้รับคะแนนอิเล็กโทรรัล โหวต 100% เหมือนเดิม


2 สมัยซ้อน ซึ่งดูเหมือนว่าทุกคนจะต้องการให้เขาเป็นต่ออีกทางสภาก็เรียกร้อง

จะให้วอชิงตันเป็นต่อไปอีก แต่ทาง จอร์จ วอชิงตัน ได้ปฏิเสธที่จะดำรงตำแหน่ง

ประธานาธิบดีต่ออีกครั้งโดยใช้เหตุผลเรื่องสุขภาพที่ไม่ดี การที่เขาลาออกจาก

ผู้บัญชาการทหารในตอนที่ทำสงครามประกาศอิสระภาพสำเร็จนั้น เป็นเรื่องที่มี

อิทธิพลน่ายกย่องมากในยุโรปเปรียบเหมือนว่า เขาไม่ได้ใช้อำนาจทางทหาร

เข้าควบคุมและอยู่ในอำนาจแล้วส่งต่อให้สภาบริหารต่อ รวมถึง การที่เขาลาออก

หลังจากดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครบวาระตามจริงก็จะหยุดตั้งแต่สมัยแรกแล้ว

แต่ทางสภาได้ขอให้เขาเป็นต่ออีกครั้ง พอหมดสาระที่สมัยที่ 2 สภาก็อยากให้เป็น

อีกแต่ วอชิงตัน รู้สึกว่าจะเป็นการกุมอำนาจบริหารมากเกินไปจึงบ่ายเบี่ยงอ้างเรื่อง

สุขภาพไม่ยอมรับตำแหน่งต่อ จึงหลายเป็นบรรทัดฐานของ ปธ.คนต่อๆไปว่า

ไม่ดำรงตำแหน่งเกิน 2 สมัย เว้นภายหลังที่ ปธ.รูสเวลต์ ที่ช่วงนั้นมีสงครามโลก

ครั้งที่ 2 จึงต้องสมัครเข้ามาต่อเป็นสมัยที่ 3 เพื่อจะมาจัดการเรื่องสงครามโดยเฉพาะ

แต่หลังจากนั้นก็มีการแก้กฏหมายว่าห้ามดำรงตำแหน่งเกิน 2 สมัย เรียบร้อย


จอร์จ วอชิงตัน ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ 30 เมษายน ค.ศ. 1789 – 4 มีนาคม ค.ศ. 1797


ค.ศ. 1797 วอชิงตันกลับไปยังเมานต์เวอร์นอน กลับมาทำไร่ (มีทาสทำตัวเอง

คงเป็นประมาณว่าจัดการเรื่องใหญ่ๆ ตอนนั้นยังไม่มีการเลิกทาส การเลิกทาส

อยู่ในช่วงสงครามกลางเมือง สมัยของ อับราฮัม ลินคอร์น)


จอร์จ วอชิงตัน ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินนะครับ เพราะแต่งงานกับแม่ม้าย

ลูกติดมีที่ดินทรัพย์สิน มหาศาล มาตั้งแต่ก่อนเป็นผู้บัญชาการกองทัพประกาศ

เอกราชเสียอีก


วันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1799 จอร์จ วอชิงตัน เสียชีวิตช่วงเวลาหัวค่ำ เพราะเขา

เกิดเป็นหวัดหลังจาก ไปลุยหิมะ มีไข้และหลอดลมอักเสบและหลายเป็นปอดบวม

และด้วยการรักษาในสมัยนั้นทำให้เขาต้องเสียชีวิตลงด้วยวัย 67 ปี นับว่าเขาเป็น

บุคคลสำคัญคนนึงที่มีอิทธิพลต่อคนอเมริกันและผู้ปกครอง นักประชาธิปไตย

ในยุโรปเลยทีเดียวในยุคต่อๆมาด้วยเช่นกันการกระทำของเขานับว่าเป็นการ

เสียสละเพื่อส่วยรวมโดยแท้






คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus)






คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) 

คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) 


 เป็นนักทำแผนที่ นักสำรวจ นักเดินเรือ และพ่อค้า เชื่อกันว่าน่าจะเป็นชาว

สาธารณรัฐเจนัว เกิดในช่วงเดือน ตุลาคม คาดว่าวันที่ 22 สิงหาคม ถึง

31 ตุลาคม ค.ศ. 1451 ที่เจนัว


ผู้เปิดโลกใหม่ ในการสำรวจดินแดนของเขาไปทั่วโลก เป็นนักสำรวจผู้

บุกเบิกการเดินทางหาดินแดนใหม่ๆรวมถึงการล่าอาณานิคมในต่างทวีป

ของชาวยุโรป


โลกใหม่ในความหมายของยุโรปคือ ทวีปอเมริกา อาจจะรวมไปถึง

โอชีเนียในปัจจุบันด้วยด้วยเขามีความเชื่อว่าโลกมีรูปร่างเป็นทรงกลม

ซึ่งเป็นข้อขัดแย้งกันเป็นอย่างมากในยุคนั้นเรื่องโลกทรงกลมและ

ความเชื่อเดิมคือโลกแบบแบน โคลัมบัสจึงวางแผนที่จะเดินทางไปยัง

อินเดียตะวันออก


(East Indies)โดยเดินเรือมุ่งไปทางตะวันตก ซึ่งแผนการของเขาครั้งนี้

ได้มีการถกเถียงกันอย่างมากเนื่องจากการเดินเรือแบบนั้นมีอุปสรรค

ในหลายๆด้านอย่างเช่น เสบียงอาหาร ทั้งลมทะเล รูปแบบของมหาสมุทร

แต่ละที่ และเรือ เขาถูกปฏิเสธจาก ราชสำนักโปรตุเกม แต่ได้รับ

คำตอบรับจากสเปนแทน


คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ค้นพบที่ไหนบ้างในการเดินทาง


คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ค้นพบหมู่เกาะบาฮามาสและขึ้นฝั่งบนเกาะแห่งหนึ่ง

ที่เขาตั้งชื่อว่า "ซานซัลบาดอร์" ในวันที่  12 ตุลาคม  ค.ศ. 1492 ค้นพบ

หมู่เกาะเกรตเตอร์แอนทิลลิส เลสเซอร์แอนทิลลิส รวมทั้งชายฝั่งทะเลแคริบเบียน

ของเวเนซุเอลาและอเมริกากลาง คิวบา ฮิสปานิโอลา เปอร์โตริโก จาเมกา

ตรินิแดด ทำให้สเปนได้ดินแดนเหล่านั้นมาเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิสเปน

ส่งผลต่อความมั่งคั่งของสเปนเป็นอย่างมาก


คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ได้เกิดความขัดแย้งกับทาง ราชสำนักสเปน

จนโดนปลดออกจากตำแหน่งผู้บริหารอาณานิคมบนเกาะฮิสปันโยลา

(ปัจจุบันประกอบด้วย 2 ประเทศ คือ ประเทศเฮติทางซีกตะวันตก และ

สาธารณรัฐโดมินิกันทางซีกตะวันออก)ซึ่งเกาะนี้ โคลัมบัสเป็นคนค้นพบ

คนแรกในวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1492  และถูกส่งตัวกลับมายังยุโรปโคลัมบัส

เสียชีวิตลงในวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 1506 (54 ปี) ที่บายาโดลิด,

ราชอาณาจักรคาสตีล (สเปนในปัจจุบัน ) และทุกวันที่ 12 ตุลาคมของทุกปี


ซึ่งเป็นวันที่เขาค้นพบโลกใหม่("ทวีปอเมริกา")ครั้งแรก

เป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ของการค้นพบ “โลกใหม่”

ถูกยกให้เป็น "วันโคลัมบัส"






กาลิเลโอ กาลิเลอี Galileo Galilei บิดาวิทย์ยุคใหม่




กาลิเลโอ กาลิเลอี   Galileo Galilei

กาลิเลโอ กาลิเลอี   Galileo Galilei


กาลิเลโอ กาลิเลอี บิดาแห่งดาราศาสตร์สมัยใหม่ 


กาลิเลโอ กาลิเลอี หรือเรียกกันสั้นๆว่า กาลิเลโอนั้นเกิดที่เมือง ปิซา

ประเทศอิตาลี ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564 เป็นบุตรคนโตจาก

จำนวน 6 คนในครอบครัว


บิดาชื่อ วินเชนโซ กาลิเลอี ขุนนาง นักคณิตศาสตร์ นักดนตรี และนักเขียน 


มารดาชื่อ จูเลีย อัมมันนาตี


วัยเด็กของเขาศึกษาอยู่ที่เมืองปิซ่า เป็นเด็กฉลาด ใฝ่เรียน มีความสามารถ

หลายด้าน ทั้งวาดภาพ เล่นดนตรี และคณิตศาสตร์ เมื่อกาลิเลโออายุ

ได้ 8 ขวบ ครอบครัวได้ย้ายไปตั้งรกรากที่เมืองฟลอเรนซ์ได้เข้าศึกษาต่อ

ที่สถาบันฟลอเรนทีน (Florentine Academy) ในช่วงนั้นเองกาลิเลโอ

ได้ทำการเขียนหนังสือขึ้น 2 เล่ม เล่มแรกมีชื่อว่า Hydrostatic Balance

ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับตาชั่ง และอีกเล่มหนึ่งมีชื่อว่า Centre of Gravity

นั้นเรื่องเกี่ยวกับจุดศูนย์ถ่วงของของแข็ง เล่มที่ 2 นี้เขาเขียนขึ้นมาเนื่องจาก

มาร์เชส กวิดูบาลโด เดล มอนเต แห่งเปซาโร (Marchese Guidubald Del

Monte of Pasaro) ซึ่งเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อเขา ขอร้องให้กาลิเลโอเขียนขึ้น

จากหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้เองที่ทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้นในเวลาต่อมา

นอกจากนั้นแล้วกาลิเลโอยังได้พิสูจน์ทฤษฎีของ อริสโตเติลเรื่องของมีน้ำหนัก

ต่างกันจะตกมาในเวลาที่ต่างกัน ในความสูงเท่ากัน นั้นไม่เป็นความจริง

เพราะของเมื่อตกจากที่สูงพร้อมกัน ความสูงเท่ากันน้ำหนักต่างกันแต่ก็ตกมา

พร้อมกัน เขาได้ไปพิสูจน์ที่หอเอนปิซ่า เพื่อแย้งทฤษฎีของ อริสโตเติลได้สำเร็จ


เป็นการแสดงให้เห็นว่าทฤษฎีของอาริสโตเติลผิด และของกาลิเลโอถูกต้อง

แต่อย่างไรก็ดี ทั้งปรัชญาและทฤษฎีของอริสโตเติลนั้น เป็นความเชื่อมา

ก่อนหน้านี้กว่าพันปี ต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยกับกาลิเลโอ และไม่เห็นด้วย

คนที่ไม่เห้นด้วยจึงได้กลั่นแกล้งเขาจนต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย


ปี ค.ศ. 1610 กาลิเลโอเผยแพร่งานค้นคว้าของเขาซึ่งเป็นผลสังเกตการณ์

ดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดี ด้วยผลสังเกตการณ์นี้เขาเสนอแนวคิดว่า

ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล เป็นการสนับสนุนแนวคิดของ

โคเปอร์นิคัส ซึ่งขัดแย้งกับแนวคิดดั้งเดิมของทอเลมีและอริสโตเติลที่ว่า

โลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล


 ปี ค.ศ. 1614 เขายังเคยถูก คุณพ่อโทมาโซ คัคชินิ ประกาศ

ขณะขึ้นเทศน์ในโบสถ์ซานตามาเรียโนเวลลา กล่าวประณามแนวคิด

ของกาลิเลโอที่หาว่าโลกเคลื่อนที่ว่าเขาเป็นบุคคลอันตรายและอาจ

เป็นพวกนอกรีต และยังรวมไปถึง


ในปี ค.ศ. 1616 พระคาร์ดินัล โรแบร์โต เบลลาร์มิโน ได้มอบเอกสาร

สั่งห้ามกับกาลิเลโอเป็นการส่วนตัว มิให้เขาไปเกี่ยวข้องหรือสอนหนังสือ

เกี่ยวกับทฤษฎีดาราศาสตร์ของโคเปอร์นิคัสอีก แต่อย่างไรซะการทำงาน

ด้านดาราศาสตร์ของเขามีอุปสรรคมากมายจากรอบข้างเขาจึงมุ่งเน้น

ไปที่การค้นคว้าเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์แทน 


กาลิเลโอได้ประดิษฐ์เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ขึ้นหลายชิ้น ได้แก่

นาฬิกาน้ำ ไม้บรรทัด และเทอร์มอมิเตอร์ (Thermometer) เป็นต้น


และในปี ค.ศ. 1636 กาลิเลโอได้เขียนหนังสือขึ้นเล่มหนึ่งชื่อว่า

Dialoghi Della Nuove Scienze


ผลงานเด่นๆของกาลิเลโอ 


 - ค.ศ. 1584 ตั้งกฎเพนดูลัม (Pendulum) หรือกฎการแกว่างของนาฬิกาลูกตุ้ม


 - ค.ศ. 1585 ตีพิมพ์หนังสือชื่อว่า Kydrostatic Balance และ Centre of Gravity


 - ค.ศ. 1591 พิสูจน์ทฤษฎีของอาริสโตเติลที่ว่าวัตถุที่มีน้ำหนักเบาว่าผิด

อันที่จริงวัตถุจะตกถึงพื้นพร้อมกันเสมอ


 - พัฒนากล้องโทรทรรศน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถส่องดูดาว

บนจักรวาลได้


 - พบลักษณะพื้นผิวของดวงจันทร์


 - พบว่าดาวมีหลายประเภท ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกัน ได้แก่ ดาวเคราะห์

และดาวฤกษ์


 - พบทางช้างเผือก (Milky Way)


 - พบบริวารของดาวพฤหัสบดี ว่ามีมากถึง 4 ดวง


 - พบวงแหวนของดาวเสาร์ ซึ่งปากฎว่ามีสีถึง 3 สี


 - พบว่าพื้นผิวของดาวศุกร์มีลักษณะคล้ายกับดวงจันทร์


 - พบจุดดับบนดวงอาทิตย์ (Sun Spot)


 - พบดาวหาง 3 ดวง 


กาลิเลโอ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1642 รวมอายุ 77 ปี แต่ด้วย

ความขัดแย้งกับคริสตจักร ร่างของเขาเลยถูกฝังลงที่ ห้องเล็ก ๆ ถัดจาก

โบสถ์น้อยของโนวิซที่ปลายสุดโถงทางเดินทางปีกด้านใต้ของวิหาร

ภายหลังเขาได้ย้ายหลุมศพไปไว้ยังอาคารหลักของมหาวิหารซันตาโกรเช

ในปี ค.ศ. 1737 หลังจากมีการสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา

(มหาวิหารซันตาโกรเช เป็นวัดบาซิลิกาชั้นรองของนิกายโรมันคาทอลิก

ตั้งอยู่ที่เมืองฟลอเรนซ์ฟลอเรนซ์ในประเทศอิตาลี)