ประเภทเรือรบ มีอะไรบ้าง
1. เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์/เครื่องบิน (Aircraft Carrier/LHD) : เป็นเรือขนาดใหญ่ที่มีลานบิน
สำหรับเครื่องบินรบ ใช้ในการสนับสนุนการโจมตีทางอากาศและควบคุมพื้นที่ทางทะเล
2. เรือประจัญบาน (Battleship) : มีอาวุธหนัก เช่น ปืนใหญ่ขนาดใหญ่ ใช้ในการยิงสนับสนุน
และโจมตีเป้าหมายระยะไกล
3. เรือลาดตระเวน (Cruiser) : คล่องตัว ติดอาวุธหลากหลาย ใช้ในการคุ้มกันกองเรือและโจมตีเป้าหมาย
4. เรือพิฆาต (Destroyer) : เร็วและคล่องตัว ใช้ในการป้องกันเรือหลักจากภัยคุกคาม
เช่น เรือดำน้ำหรืออากาศยาน
5. เรือฟริเกต (Frigate) : ขนาดกลาง ใช้งานเอนกประสงค์ เช่น คุ้มกันเรือบรรทุกและลาดตระเวน
6. เรือคอร์เวตต์ (Corvette) : ขนาดเล็ก เหมาะกับภารกิจใกล้ฝั่ง เช่น ลาดตระเวนหรือโจมตีเร็ว
7. เรือดำน้ำ : ลอบโจมตีและสอดแนมจากใต้น้ำ สามารถปล่อยอาวุธได้โดยไม่ถูกตรวจจับง่าย
8. เรือทุ่นระเบิด : ใช้ในการวางหรือเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อควบคุมพื้นที่ทางน้ำ
9. เรือเร็วโจมตี : ขนาดเล็ก ความเร็วสูง ติดอาวุธเบา ใช้โจมตีเป้าหมายอย่างรวดเร็ว
10. เรือสะเทินน้ำสะเทินบก (Amphibious Assault Ship) : ใช้ขนส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์
ขึ้นฝั่งในภารกิจยึดพื้นที่ชายฝั่ง บางลำสามารถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์หรือยานพาหนะ
11. เรือช่วยรบและสนับสนุน (Support Vessels) : เช่น เรือซ่อมบำรุง เรือเติมน้ำมัน
เรือบัญชาการ ทำหน้าที่สนับสนุนภารกิจหลักของกองเรือ
12. เรือตรวจการณ์ (Patrol Boat) : เรือขนาดเล็กที่ใช้ในการตรวจการณ์ลาดตระเวน
และรักษาความปลอดภัยในน่านน้ำชายฝั่ง
13. เรือเร็วตรวจการณ์ลำน้ำ Patrol Boat, River : เรือที่ออกแบบมาเพื่อปฏิบัติการในแม่น้ำ ลำคลอง
และพื้นที่ชายฝั่งทะเล
14. เรือปฏิบัติการพิเศษ Riverine : ใช้เพื่อปฏิบัติการสอดแนมและสกัดกั้นกอง กำลังปฏิบัติการพิเศษ
ใน ระยะสั้นทั้งในแม่น้ำและใกล้ชายฝั่ง
15. เรือช่วยรบ : Auxiliary ship ทำหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติการของเรือรบอื่น ๆ เช่น การลำเลียง
การเติมเชื้อเพลิง การขนส่งกำลังพลและพัสดุ การซ่อมแซม การลากจูง การสำรวจ หรือการปฏิบัติการพิเศษอื่น ๆ
16. เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง Litteral Combat Ship : เรือรบขนาดเล็กที่มีความเร็วสูง คล่องแคล่ว
และเชื่อมต่อเครือข่ายได้ ออกแบบมาเพื่อปฏิบัติการใน บริเวณชายฝั่งและน่านน้ำตื้น
ที่เรือรบขนาดใหญ่อย่างเรือพิฆาตไม่สามารถเข้าถึงได้