การปราบฮ่อ การเสียสิบสองจุไท (หัวพันห้าทั้งหก)





เสียดินแดนครั้งที่ 8 สิบสองจุไท


   การปราบฮ่อ และการเสีย สิบสองจุไท (หัวพันห้าทั้งหก) : พื้นที่ประมาณ

87,000 ตร.กม.เสียให้แก่ฝรั่งเศส ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า

เจ้าอยู่หัว


     สาเหตุ : สิบสองจุไท ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศเวียดนามมีเมืองเอกคือเมือง

แถนหรือแถงซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในนาม เมืองเดียนเบียนฟู (เดียนเบียนฟูสมัยปกครอง

โดยอาณาจักรหอคำเชียงรุ่งมีชื่อเรียกว่า แถน) เป็นเมืองของชาวไทดำ ไทขาว

ชาวไททรงดำ (เป็นกลุ่มชาวไทกลุ่มหนึ่ง ที่มีถิ่นฐานดั้งเดิมอยู่ในเขตสิบสองจุไทเดิม )

     ดินแดนเหล่านี้เป็นของสยามมาตั้งแต่สมัยของพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นต้นมา

จนมาถึงในสมัยของรัชกกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ กลุ่มต่อต้านราชวงศ์แมนจู

ของจีนโดยเรียกกลุ่มตัวเองว่า กบฏไท้ผิง ที่รบกันในดินแดนจีนได้พ่ายแพ้มาจากใน

ช่วงปี พ.ศ. 2405 บางส่วนหลบอยู่ตามขอบและซ่อนอยู่ใน มณฑลต่างๆของจีน

และบางส่วนอพยพลงมาแถวๆตะเข็บรอยต่อของจีนและประเทศลาวรวมถึงเวียดนาม

ทางตอนเหนือ ในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ในดินแดนสิบสองจุไท พ.ศ. 2408 พวกจีนฮ่อที่

อพยพมาได้ทำการปล้นตีทำการปล้นบ้านเมืองในเขตสิบสองจุไทและเมืองพวน

ซึ่งตอนนั้นเป็นของสยามซึ่งปัจจุบันเป็นตำแหน่งของแขวงเชียงขวาง


การปราบฮ่อครั้งที่ 1 พ.ศ. 2418 ผลการปราบปราม  พวกฮ่อล่าถอยไป


ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2426  ฮ่อได้นำกำลังเข้ายึดเมืองหัวพันห้าทั้งหก (ประกอบด้วย


เมืองสบแอด เชียงค้อ  เมืองซำเหนือ  เมืองโสย  เมืองซำใต้ เรียกกันว่าเมืองหัวพัน

ห้าทั้งหก )ซึ่งเป็นดินแดนทางใต้ของ สิบสองจุไท การครั้งนี้ไม่สามารถทำได้สำเร็จ

ต้องยกทัพกลับเพราะขาดเสบียงอาหารเนื่องจากสู้รบกันยาวนานและทำให้กำลังของ

ไทยอ่อนลงและแม่ทัพคือพระยาราชวรากูลถูกฮ่อยิงบาดเจ็บ


ครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2428 รัชกาลที่ 5 ได้ทรงสั่งกองทัพใหญ่ไปปราบฮ่ออีกครั้ง โดย

ใช้กำลังทหารจากกรุงเทพ ฯ เพื่อจะยึดคืนเอาเมืองพวนและ เมืองหัวพันห้าทั้งหกมี

นายพันเอกเจ้าหมื่นไวยวรนาถหรือเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี  (เจิม แสง-ชูโต) เป็น

แม่ทัพยกไปปราบฮ่อในแคว้นหัวพันห้าทั้งหกซึ่งยกกำลังไปจากกรุงเทพ พร้อมอาวุธ

ที่ทันสมัยในขณะนั้นจนสามารถ ปราบฮ่อได้สำเร็จ  เมื่อปราบฮ่อในแคว้นนี้ได้แล้ว

จึงได้ยกกำลังไปปราบฮ่อในแคว้น สิบสองจุไท รุกไล่ต่อ จนสามารถปราบฮ่อได้ในปี

 พ.ศ.2430แต่ได้มีกองทัพของฝรั่งเศสเข้ายึดครอง สิบสองจุไทและ เมืองหัวพันห้า

ทั้งหก โดยอ้างว่าดินแดนเหล่านั้นเคยเป็นของญวนมาก่อนตอนนี้ฝรั่งเศสได้ปกครอง

ญวนแล้วจึงต้องตกเป็นของฝรั่งเศสต่อไปด้วยเมื่อทางสยามได้เข้ามายังสิบสองจุไท

ฝรั่งเศสได้ถือว่าสยามรุกล้ำอาณาเขตในปกครองของฝรั่งเศสและเพื่อมาปราบฮ่อ

ที่เข้ามาในดินแดนแถบนี้ด้วย(ทั้งๆที่ฝรั่งเศสไม่ได้ทำอะไรเลยการปราบฮ่อทุกครั้ง

ฝรั่งเศสไม่เคยช่วยเลย  อยู่ดีๆมาอ้างเอาดื้อๆ) ฝรั่งเศสและสยามไม่ยอมกันจึงได้

ตั้งประจันหน้ากัน ทางสยามเห็นว่าจะไปรบกับฝรั่งเศสนั้นคงเป็นไปได้ยากหากเกิด

สงครามขึ้นจริงลำพังฝรั่งเศสเองนั้นก็สู้ด้วยยากอยู่แล้วหากฝรั่งเศสใช้คนพื้นเมือง

และกำลังสนับสนุนจากญวนซึ่งอยู่ใก้ลกว่าทางฝั่งสยามมาเป็นทัพหน้ารวมเข้าไปอีก

อาจจะเสียหายหนักกว่าเก่า (น่าจะเป็นเรื่องที่ถ้าเพลี้ยงพล้ำแก่ฝรั่งเศสขึ้นมาฝรั่งเศส

อาจจะเหลี่ยมจัดอ้างเอาดินแดนเพิ่มหรือให้ชดใช้ค่าเสียหายจากการเกิดสงคราม)

ซึ่งคงหนักกว่าเก่ากับดินแดนที่ห่างไกลแบบนั้น โดยในเบื้องต้นที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้

เลยเกิดการทำสัญญากันที่เมืองแถง(เบียนฟู) ในปี พ.ศ. 2431 ทางสยามเลยจะตั้งอยู่

ที่เมืองหัวพันห้าทั้งหกส่วนฝรั่งเศสตั้งกำลังไว้ที่สิบสองจุไทซึ่งถือว่าเป็นการยก

สิบสองจุไท ให้เป็นสิทธิของฝรั่งเศสไปโดยปริยายและต่อมาไทยก็เสียดินแดนเหล่า

นี้ทั้งสิบสองจุไทและหัวพันห้าทั้งหกอย่างสมบูรณ์ในปีพ.ศ.2436 เมื่อฝรั่งเศสได้เข้ายึด

ดินแดนลาวฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ในวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112

การปราบฮ่อ การเสียสิบสองจุไท (หัวพันห้าทั้งหก) ก็ตกเป็นของฝรั่งเศสไป