โรมันตะวันตกล่มสลาย




โรมันตะวันตกล่มสลาย 

    โรมันตะวันตก  หมายถึงครึ่งตะวันตกของจักรวรรดิโรมันหลังจากการแบ่งโดย

ไดโอคลีเชียนในปีค.ศ. 285 อีกครึ่งหนึ่งเป็นจักรวรรดิโรมันตะวันออกที่ปัจจุบันเป็น

ที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าจักรวรรดิไบแซนไทน์ มีอายุในยุค ค.ศ. 286–ค.ศ. 476 

จักรวรรดิจักรโรมันได้สืบต่อการปกครองมาจากสาธารณรัฐโรมันจักรวรรดิโรมันจะ

มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองหลายอย่างแต่กระนั้นก็ยังประสบกับ

กระบวนการการเป็นโรมัน (Romanization) ทางตะวันออกเป็นวัฒนธรรมกรีกที่มี

อิทธิพล ความยิ่งใหญ่นี้ได้รับผลมาจากอดีตกาลผ่านมาตั้งแต่ยุค อเล็กซานเดอร์

มหาราช ต่อมาอ็อคเตเวียนยึดอาฟริกาจากเลพิดัส และเพิ่มอาณานิคมซิลิคา 

(ซิซิลีปัจจุบัน) เข้ามาอยู่ในอำนาจการปกครองเมื่อได้รับชัยชนะต่อมาร์ค แอนโทนี

แล้วอ็อคเตเวียนก็รวมดินแดนต่างๆ ก่อตั้งเป็นจักรวรรดิโรมัน จักรพรรดิธีโอโดเซียส

ที่ 1 ทรงเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายที่ทรงปกครองจักรวรรดิโรมันที่รวมตัวกันแต่หลัง

จากพระองค์ได้สวรรคตลงไป โรมันก็ได้แยกตัวออกจากกันเป็น 2 อาณาจักร คือ 

โรมันตะวันออก และ โรมันตะวันตก จักรวรรดิโรมันตะวันตกสิ้นสุดลงเมื่อโรมิวลัส 

ออกัสตัสสละราชสมบัติโดยการบีบบังคับของโอโดเซอร์เมื่อวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 

476 และล่มสลายลงอย่างเป็นทางการจากการเสด็จสวรรคตของจักรพรรดิจูเลียส 

เนโพส (Julius Nepos) ในปี ค.ศ. 480  ถึงแม้ในช่วงยุคกลางจะมีการฟื้นฟู 

กลับมาเป็นจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ Holy Roman Empire เป็นการรวมตัวของ

รัฐต่าง ๆ ในยุโรปกลางในสมัยกลางมาจนถึงยุโรปสมัยใหม่ตอนต้นภายใต้การ

ปกครองของจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

(นั้นเรื่องยาวไป มาต่อที่การล่มสลายของโรมันตะวันตก)

การล่มสลายของ จักรวรรดิอาณาจักรโรมัน

 สาเหตุของการล่มสลายของโรมันตะวันตก คือ


1. การแย่งชิงอำนาจในราชสำนัก : การแก่งแย่งชิงดีของชนชั้นครองฆ่าตัดตอนกัน

เพื่อเป็นใหญ่ในกรุงโรม มีเหตุการณ์จนทำให้ชาวดรมไม่พอใจอยู่พอสมควร


2. สงครามกลางเมือง : ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักในกรุงโรม รวมถึงสภาพ

รวมของอาณาจักรโรมันตะวันตก


3. การรุกราน : จากชนเผ่าเยอรมัน ในยุโรปกลางและตะวันออก สร้างปัญหาใน

แดนห่างไกลตามชายแดนของอาณาจักรและรวมถึงสร้างความเสียหายใหญ่ให้แก่

เมืองหลวง


4. ถูกแบ่ง : ความอ่อนแอเพราะอาณาจักรมีขนาดใหญ่เกินไป จึงถูกแบ่งเป็น โรมัน

ตะวันออก และ โรมันตะวันตก แต่เมื่อถูกแยกไปส่วนที่อ่อนแอและมีปัญหาก็ไม่สามารถ

อยู่รอดได้เช่นกัน


5. สภาพบ้านเมือง : อยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงต่อสงครามการรุกราน รวมไปถึงไม่ใช่

เส้นทางหลักของการค้าขาย เส้นทางการค้า


6. การอพยพ :  จากพวกเยอรมัน ที่หนีชาวฮันทางฝั่งเอเชีย  รวมถึงชาวเผ่า วิสิโกธ

หนึ่งในอนารยชนกลุ่มชนเจอร์มานิคต่าง ๆ ที่เข้ามารุกรานจักรวรรดิโรมันตอนปลาย ที่

ทำการยึดแคว้นดาเชีย (Dacia โรมาเนียในปัจจุบัน) เป็นที่มั่นหลังจากที่เอาชนะ

ทัพโรมันมาได้



7. วิซิกอทนำทัพบุกยึดกรุงโรม : นำโดย พระเจ้าอลาริค (Alaric) เผาทำลาย

เมืองจนพินาศ  จักรพรรดิโฮโนริอุสจึงยกแคว้นอากีแตนในฝรั่งเศสปัจจุบันให้

ซึ่งไปจัดการพวกแวนดัลได้ พวกแวนดัลหนี และนำทัพเข้ามาทำลายกรุงโรมแทน


8. จุดจบ : ใน ค.ศ. 476 โอโดอาเซอร์ (Odoacer) จากเผ่าเยอรมันโจมตีกรุงโรม

และปลดจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งฝั่งตะวันตก คือ  จักรพรรดิโรมุลุส ออกุสตุส



จักรวรรดิโรมันตะวันตกก็ล่มสลายไปก่อน โรมันตะวันออกกว่าพันปี จนโรมันตะวัน

ออกหรือไบแซนไทน์ มาโดนออตโตมันตีแตกยึดเมืองไปต่อมาอาณาจักรออตโตมันก็

กลายเป็นคนป่วยของยุโรป และออตโตมันล่มสลายไป อาณาจักรใหญ่ในอดีตล่มสลาย

กันแบบนี้ตลอดเพราะปัญหาภายใน หรือแม้กระทั่งการปกครอง ขนาดของจักรวรรดิ

ไม่มีอาณาจักรไหนจะยิ่งใหญ่ได้ตลอดไป แม้กระทั่งดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน

อย่างจักรวรรดิอังกฤษ ในปัจจุบันก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าในอดีตแน่นอน อเมริกาในปัจจุบัน

ที่มีการปกครองแบบรัฐของอเมริกา แลดูแข็งแกร่ง มีอำนาจไปทั่วโลกแต่ก็ไม่ได้

หมายความว่าในอนาคตอเมริกาจะยังคงสภาพเป็นมหาอำนาจได้ต่อไปเก่าไปใหม่มา

เสมอ รัสเซียก็ฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ จีนก็กำลังพัฒนาตัวเอง มีกลุมประเทศหลายๆกลุ่มที่

ไม่พึ่งพาอเมริกาก็เยอะอำนาจเปลี่ยนผ่านไปแต่ละยุคๆ อยู่ที่ว่าใครจะรักษาความ

ยิ่งใหญ่ของตัวเองได้นานกว่ากัน