ซาอุฟื้นความสัมพันธ์ไทย เพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น

 


ซาอุฟื้นความสัมพันธ์ไทย เพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น 

ซาอุฟื้นความสัมพันธ์ไทย เพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น 


   เพราะเหตุใดซาอุถึงหันมาเจริญความสัมพันธ์กับไทย ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุ 

หนึ่งปีหลังฟื้นความสัมพันธ์ไทยกับซาอุการค้าไทยกับซาอุเพิ่มสูงถึง 300,000 ล้านบาท 

การท่องเที่ยวโตขึ้นสามเท่า นักท่องเที่ยวชาวซาอุเข้าไทยนับ 100,000 คน ซึ่งส่งผลดี

ต่อไทยการท่องเที่ยว การค้า และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นอย่างมากอะไรคือ

สาเหตุที่ทำให้ ซาอุดิอาระเบียหันมาฟื้นความสัมพันธ์ ทางไทยมีหลายเหตุผลดังนี้

ผู้นำซาอุดิอาระเบีย ต้องการมีตัวเลือกเพิ่มเติมในการลดการพึ่งพาสหรัฐอเมริกาใน

ด้านต่างๆ จึงจำเป็นต้องขยายความสัมพันธ์ แม้แต่กระทั่งกับอิหร่าน 

         

           เราเองก็ยังขยายความสัมพันธ์ ฟื้นความสัมพันธ์ไปด้วย  การที่ซาอุดิอาระเบีย

เปลี่ยนผู้นำคนใหม่ทำให้ความคิดเดิมๆ นโยบายเดิมๆ มันก็เปลี่ยนไปหันเข้าสู่ความ

หลากหลายมากขึ้นเปิดกว้างมากขึ้นอิสระมากขึ้น

ซาอุฟื้นความสัมพันธ์ไทย เพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น


ซาอุดิอาระเบีย มองว่าไทยนั้นเป็นแหล่งที่มีประโยชน์ต่อเขา สามารถทำประโยชน์ให้กัน

และกันได้ เช่น อาหาร การท่องเที่ยวและ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ


ทัศนคติของผู้นำรุ่นใหม่ของทางฝั่งซาอุดิอาระเบีย มองว่าทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

อาจจะไม่มีค่าในอนาคตทำให้ซาอุดิอาระเบียหาลู่ทางใหม่ๆในการค้าขายหรือทำธุรกิจการ

ขยายความสัมพันธ์กับไทยและประเทศอื่นๆ ในช่วงที่น้ำมันยังมีค่าและมีอำนาจการต่อรอง 

อาจทำให้ความมั่นคั่ง และความมั่นคงของซาอุดีอาระเบีย มีการรับประกันว่าในอนาคต

ซาอุดิอาระเบียจะยังเป็นประเทศที่มั่งคั่งและร่ำรวยต่อไป  การเข้ามาของรถไฟฟ้ารถยนต์น่ะ

ที่ไม่ใช่รถไฟฟ้าแบบบีทีเอส ทำให้อนาคตพลังงานนั้นมีความหลากหลายและพลังงาน

สะอาดเข้ามาทดแทน จึงไม่แปลกที่ซาอุดิอาระเบีย จะมองหาลู่ทางใหม่ๆอย่างในอาเซียน


ก็มีไทยที่ถือว่าเป็นเสาหลักสำคัญมีความพร้อมด้านพื้นที่การท่องเที่ยวการค้า และเป็นฮับ

ของการกระจายสินค้าได้เป็นอย่างดี ชัยภูมิที่ได้เปรียบโดยวิสัยทัศน์แบบนี้ของผู้นำชาว

ซาอุดิอาระเบียเป็นการเปลี่ยนการลงทุนใหม่ๆ ถ้าเปรียบดังซาอุเป็นบริษัทบริษัทนึงพวกเขา

คือโฮลดิ้งคอมพานี ที่มีเงินทุนมหาศาลจากการดำเนินธุรกิจพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ 

สามารถเอาเงินเหล่านั้นนำไปลงทุนเพื่อหาลู่ทางใหม่ๆและหลากหลายเป็นพื้นฐานที่ปูทาง

ไปสู่อนาคตของซาอุดิอาระเบีย เหตุผลหนึ่งคือผู้นำคนใหม่เป็นกลุ่มใหม่ ไม่ใช่สายเก่า 

เรื่องเก่าเก่าที่เคยมีข้อพิพาทกันก็ไม่มีการเก็บมาใส่ใจไม่เคยแคร์เรื่องเก่าเท่าไหร่แล้ว 

ทำให้เวลาคุยเจรจากันพื้นความสัมพันธ์นั้นทำได้ง่ายยิ่งขึ้นถือว่าผู้นำซาอุ ยุคปัจจุบัน

เป็นคนรุ่นใหม่หัวก้าวหน้าหัวสมัยใหม่ 


    แม้แต่กระทั่งกับอิหร่าน ซึ่งเคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาก่อนซาอุ ก็ยังสามารถเจริญ

ความสัมพันธ์ทำไมตรีได้ จะเห็นได้ว่าซาอุดิอาระเบียนั้นไม่ได้จับมือแค่กับไทยอย่างเดียว

ยังรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับทุกประเทศอีกด้วยเพราะช่วงหลังมานี้ซาอุเองก็มีความสัมพันธ์

ไม่ค่อยดีกับทางด้านอเมริกา อาจเป็นไปได้ว่าแนวทางการบริหารงานในแบบใหม่ของ

ซาอุดีอาระเบีย ต้องการลดความเป็นรัฐศาสนาลง เพิ่มความร่วมมือใหม่ๆ จากต่างประเทศ

หาแหล่งเงินทุน การลงทุนใหม่ๆ ในประเทศต่างๆ จึงพยายามสานสัมพันธ์กับประเทศที่

เป็นไปได้และมีศักยภาพมากพอที่ช่วยในการลงทุนของประเทศซาอุและไม่จำเป็นต้อง

พึ่งพาสหรัฐอเมริกา มากเท่าเมื่อก่อนและไม่จำเป็นต้องตามสหรัฐไปทุกเรื่องสามารถมี

พรรคพวกเป็นกลางเน้นประโยชน์ของประเทศเป็นหลักการปรับนโยบายครั้งนี้เป็นแผน

ระยะยาวของผู้นำซาอุยุคใหม่ทั้งเรื่องตัวเลือกในความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องการพึ่งพา

ประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป


การลงทุนระยะยาวความมั่นคงทางด้านพลังงานที่เปลี่ยนไปเช่นการใช้พลังงานที่เน้น

พลังงานสะอาดมากขึ้น น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติอาจไม่มีความจำเป็นต่อไปในอนาคต 

จะมองหาลู่ทางการลงทุนใหม่ๆ เช่นเทคโนโลยี ความมั่นคงทางอาหาร การท่องเที่ยว 

สร้างเครือข่ายพันธมิตรโดยใช้เงินลงทุนเพื่อเข้าไปสร้างความคุ้นเคยและพื้นฐานต่างๆ

เพื่อนำไปสู่การลงทุนแบบหลากหลายใหม่ๆ ในอนาคต  ซึ่งการที่ชาวซาอุนำโดยผู้นำ

ยุคใหม่เปิดความอิสระในการคบหาประเทศต่างๆ


สามารถจับมือกับ ขั้ว อำนาจต่างๆในโลกได้ เช่น อิสราเอล จีน อเมริกา รัสเซีย อินเดีย 

ญี่ปุ่น บราซิล อาเซียน แอฟริกา brics ประเทศเหล่านี้เป็นประเทศชั้นนำในด้านเศรษฐกิจ

ของแต่ละทวีป รวมถึงของโลกในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเงินการลงทุน เทคโนโลยี 

อาหาร การทหาร ซึ่งมีความ หลากหลายมาก 


    ยังไม่รวมอียูที่เป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งของทางฝั่งยุโรป การเมืองยุคใหม่ของซาอุจะนำพา

ซาอุไปได้ดีแค่ไหนต้องมาดูกันในอนาคตว่าการวางพื้นฐานตั้งแต่ตอนนี้จะสามารถสร้าง

ความมั่นคง ของซาอุดิอาระเบียต่อไปได้มากแค่ไหน อีกอย่างนึงคือด้านแรงงานไทยเรา

มีฝีมือแรงงานชั้นเยี่ยมแต่ก่อนหน้านี้มีปัญหาไม่สามารถทำงานในซาอุได้หลังจากนี้ซาอุ

ก็จะนำเข้าแรงงานไทยเข้าไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจของเขาได้ดีอีกด้ว


การแสวงหาแนวร่วมใหม่ๆ แรงงานการลงทุน มันทำให้ซาอุดิอาระเบียและไทยสามารถ

ร่วมมือกันได้ในวันที่ผลประโยชน์ของแต่ละฝั่งนั้นมีจุดร่วมตรงกลางระหว่างกันการฟื้น

ความสัมพันธ์ก็ไม่ก็ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งสองฝ่ายสมประโยชน์ด้วยกันแล้วทำไมจะอยู่

ร่วมกันเป็นพันธมิตรมีความสัมพันธ์ด้วยกันไม่ได้ 


ไทยเองก็ต้องการในงาน เอาทุนจากซาอุ รวมถึงคอนเนคชั่นต่างๆในต่างประเทศ 

โดยมีประเทศพันธมิตรหนุนหลัง การท่องเที่ยว การค้าขายซาอุดิอาระเบียเอง

ก็ถือว่าไทยเป็นแหล่งลงทุนใหม่เพื่อหาความยั่งยืนใหม่ๆ หลังจากที่น้ำมันอาจลด

บทบาทลง ในเมื่อทั้งสองสมประโยชน์กันความสัมพันธ์ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เชื่อว่า

ต่อไปทั้งไทยและซาอุดิอาระเบียจะมีโครงการและโปรเจ็คใหม่ๆ ที่ทำด้วยกันเพื่อ

ผลประโยชน์ของแต่ละประเทศอีกมากมายอย่างแน่นอน