การทรยศของ อู๋ซานกุ้ย (吳三桂)

 

การทรยศของ อู๋ซานกุ้ย (吳三桂) 


เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์จีนในช่วงปลายราชวงศ์หมิงและต้นราชวงศ์ชิง 

โดยเขาถูกจดจำในฐานะบุคคลที่ “เปิดประตูให้แมนจู” เข้าสู่แผ่นดินจีน ซึ่งนำไปสู่การล่มสลาย

ของราชวงศ์หมิงและการสถาปนาราชวงศ์ชิงในปี ค.ศ. 1644


เหตุการณ์สำคัญที่นำไปสู่การทรยศ


อู๋ซานกุ้ยเป็นแม่ทัพใหญ่ของราชวงศ์หมิง ประจำอยู่ที่ด่านซันไห่กวน (Shanhaiguan) 

ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของกำแพงเมืองจีน


เมื่อ หลี่ จื้อเฉิง นำกองทัพชาวนาบุกยึดกรุงปักกิ่งได้สำเร็จ และฮ่องเต้หมิงซือจงปลงพระชนม์ตนเอง 

อู๋ซานกุ้ยจึงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก


หลี่ จื้อเฉิงพยายามเกลี้ยกล่อมให้อู๋ซานกุ้ยยอมสวามิภักดิ์ โดยจับครอบครัวของเขาเป็นตัวประกัน 

รวมถึง เฉินหยวนหยวน อนุภรรยาคนโปรดของอู๋ซานกุ้ย


เมื่ออู๋ซานกุ้ยมาถึงเมืองหลานโจวและพบว่าเฉินหยวนหยวนถูกจับ เขาโกรธแค้น

และตัดสินใจหันไปเข้าร่วมกับ แมนจู โดยเปิดด่านซันไห่กวนให้กองทัพแมนจู

บุกเข้าสู่กรุงปักกิ่งในวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1644


เปิดด่านซันไห่กวนให้กองทัพแมนจู


อู๋ซานกุ้ยเป็นแม่ทัพใหญ่ของราชวงศ์หมิงที่ประจำอยู่ที่ด่านซันไห่กวน (Shanhaiguan) 

ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของกำแพงเมืองจีน


หลังจากหลี่จื้อเฉิงยึดกรุงปักกิ่งและฮ่องเต้หมิงซือจงปลงพระชนม์ตนเอง อู๋ซานกุ้ยตัดสินใจ

เปิดด่านให้กองทัพแมนจูเข้ามาโจมตีหลี่จื้อเฉิง


แลกกับตำแหน่งและอำนาจ


เพื่อเป็นการตอบแทนความช่วยเหลือ ราชวงศ์ชิงแต่งตั้งอู๋ซานกุ้ยเป็น “ผิงซีอ๋อง” (เจ้าฟ้าปราบประจิม) 

ให้ปกครองมณฑลยูนนานและมีอำนาจทางทหารอย่างกว้างขวาง2


การผูกสัมพันธ์ทางครอบครัว


หวงไท่จี๋ (จักรพรรดิชิง) ยกธิดาองค์ที่ 14 ให้สมรสกับบุตรชายของอู๋ซานกุ้ย เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ทางการเมืองและความไว้วางใจ


การร่วมมือปราบกบฏและฝ่ายต่อต้าน


อู๋ซานกุ้ยช่วยราชวงศ์ชิงในการปราบกลุ่มต่อต้านราชวงศ์หมิงที่ยังหลงเหลืออยู่ เช่น ฝูอ๋อง ถังอ๋อง และเจิ้งเฉิงกง


ผลลัพธ์ของการทรยศ


กองทัพของหลี่ จื้อเฉิงพ่ายแพ้ และราชวงศ์หมิงสิ้นสุดลง


อู๋ซานกุ้ยได้รับแต่งตั้งเป็น “เจ้าฟ้าปราบประจิม” (ผิงซีอ๋อง) โดยราชวงศ์ชิง ให้ปกครองมณฑลยูนนาน


ต่อมาเขาก่อกบฏต่อต้านราชวงศ์ชิงอีกครั้งในช่วงปลายชีวิต โดยตั้งราชวงศ์ของตนเองชื่อว่า “ต้าจโจว” 

แต่ครองราชย์ได้เพียงไม่กี่เดือนก่อนเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1678


ทรยศเพราะอะไร?


นักประวัติศาสตร์บางคนมองว่าอู๋ซานกุ้ยทรยศเพราะ


ความโกรธแค้นส่วนตัวจากการที่เฉินหยวนหยวนถูกจับ


ความไม่พอใจต่อหลี่ จื้อเฉิงที่ปฏิบัติต่อครอบครัวของเขาอย่างไม่เหมาะสม


หรืออาจเป็นการตัดสินใจทางยุทธศาสตร์เพื่อรักษาอำนาจของตนเองในช่วงที่บ้านเมืองวุ่นวาย


ในสายตาชาวจีน: วีรบุรุษหรือผู้ทรยศ?


มุมมองเชิงลบ – “ผู้ทรยศแห่งชาติ”


อู๋ซานกุ้ยมักถูกมองว่าเป็น “คนเปิดประตูให้แมนจู” เข้ามายึดครองจีน ซึ่งนำไปสู่การล่มสลาย

ของราชวงศ์หมิงและการปกครองโดยชนเผ่าต่างชาติ


ในวรรณกรรมและบทกวีจีนหลายเรื่อง เขาถูกกล่าวถึงในฐานะ “คนขายชาติ” หรือ “ผู้ทรยศต่อแผ่นดิน”


การตัดสินใจของเขาถูกตีความว่าเป็นการเห็นแก่ตัว เพื่อรักษาอำนาจและผลประโยชน์ส่วนตน 

มากกว่าความจงรักภักดีต่อราชวงศ์หมิง



มุมมองเชิงบวก – “นักยุทธศาสตร์ผู้กล้าหาญ”


บางนักประวัติศาสตร์มองว่าเขาอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องเลือกฝ่ายที่มีโอกาสรักษาความสงบและอำนาจไว้ได้


การตัดสินใจร่วมมือกับแมนจูอาจเป็นกลยุทธ์เพื่อป้องกันการล่มสลายของประเทศจากความวุ่นวายภายใน

ที่หลี่จื้อเฉิงก่อขึ้น


เขาได้รับการแต่งตั้งเป็น “เจ้าฟ้าปราบประจิม” และปกครองมณฑลยูนนานอย่างมีอำนาจนานถึง 30 ปี 

ก่อนจะก่อกบฏต่อราชวงศ์ชิงในบั้นปลายชีวิต



ในวัฒนธรรมจีน


เรื่องราวของอู๋ซานกุ้ยและเฉินหยวนหยวน (อนุภรรยาคนโปรด) ถูกนำไปเล่าในรูปแบบละครจีน โอเปร่า 

และภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเน้นความรัก ความแค้น และการตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์


เขาเป็นตัวละครที่สะท้อนความขัดแย้งระหว่าง “ความรัก” กับ “หน้าที่” และ “อุดมการณ์” กับ “ความอยู่รอด”


อู๋ซานกุ้ยจึงเป็นบุคคลที่ชาวจีนมีความรู้สึกทั้งรักและชังในเวลาเดียวกัน เป็นตัวแทนของความซับซ้อน

ทางการเมืองและจิตใจในยุคที่บ้านเมืองกำลังเปลี่ยนผ่าน