แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โชกุน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โชกุน แสดงบทความทั้งหมด

รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 5




รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 5


   หน้าที่แล้ว >>> รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 4


สำหรับรายชื่อของโชกุนตระกูลโตกุกาวะ

โตกุกาวะ อิเอโยชิ

12. โตกุกาวะ อิเอโยชิ : Tokugawa Ieyoshi บุตรชายคนที่ 2 ของโชกุนโตกุกาวะ

อิเอนาริ ซึ่งเกิดปีเดียวกันกับพี่ชายตางมารดาแต่พี่ชายได้เสียชีวิต ไปก่อนแล้ว

โชกุนอิเอนาริได้สละตำแหน่งให้ อิเอโยชิ เนื่องจากไม่สามารถบริหารงานต่อได้อีก

ในสมัยนี้ของโชกุนอิเอโยชิก็อยู่ภายใต้การนำของผู้ผู้นำในการปฏิรูปปีเท็นโป

(เป็นการจัดระเบียบสังคมที่เรียบง่ายลงตัวและเคร่งครัดมากขึ้น) ของ โรจู มิซูโนะ

ทาดากูนิ (โรจูคือตำแหน่งเป็นตำแหน่งขุนนางอาวุโสที่สูงที่สุดรองจากโชกุน )

นโยบายนี้คือการห้ามแต่งตัวหรูมีเครื่องประดับมากมายหรือห้ามการพิมพ์ภาพสี

(ซะอย่างงั้น)  จากสมัยก่อนของโชกุนอิเอนาริที่มีปัญหากับต่างชาติทำให้ยุค

ต่อมานั้นทัศนคติกับต่างชาติในชนชั้นปกครองรวมถึงชาวญี่ปุ่นค่อนข้างแย่ ทำให้มี

การกวาดล้างเหล่าขุนนางในบาคุฟุบางคนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวและสนใจในวิทยาการ

ต่างชาติตะวันตกมากเกินไป แต่การทำปฏิรูปเท็นโปนี้ก็ต้องเป็นจุดจบในอำนาจของ

มิซูโนะ ทาดากูนิ เช่นกันเนื่องจากมีการต่อต้านจากผู้คนจำนวนมากทำให้ความ

พยายามล้มเหลวส่งผลให้เขาต้องออกจากตำแหน่งเช่นกัน ในสมัยนี้นั้นมีการขู่โจมตี

จากอเมริกาด้วยเพื่อยอมให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศทำการค้า ใช้เรือรบเข้าบีบบังคับ ของ

พลเรือจัตวาเพอร์รี่ แต่ไม่นานนักโชกุนอิเอโยชิก็ถึงแก่อสัญกรรมลง และส่งต่อให้

ลูกชายอย่าง โตกุกาวะ อิเอซาดะเข้ามารับแทนในช่วงที่บ้านเมืองกำลังวุ่นวายไป

ด้วยภัยคุกคามจากต่างชาติ

โตกุกาวะ อิเอซาดะ

13. โตกุกาวะ อิเอซาดะ : Tokugawa Iesada เข้ามารับตำแกน่งในช่วงที่ประเทศ

ได้รับภัยคุกคามสาหัสจากชาวต่างชาติ เจอปัญหามากมายทั้งเรื่องภายในกับจักรพรรดิ

และปัญหาภายนอก รวมถึงไดเมียวแคว้นรอบนอกที่เป็นคลื่นใต้น้ำอยู่ตลอดเวลา ดำรง

ตำแหน่งในปี ค.ศ. 1854  ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 1858 มีเวลา

ขึ้นเป็นโชกุนอยู่เพียง 4 ปีเท่านั้นและมีอายุเพียง 34 ปีก็เสียชีวิตโดยไร้ทายาท แต่

ได้ตั้ง โตกุกาวะ อิเอโมชิ ญาติของตัวเองขึ้นเป็นโชกุนเอาไว้

โตกุกาวะ อิเอโมชิ

14. โตกุกาวะ อิเอโมชิ หรือ โมจิ : Tokugawa Iemochi ขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุน

ในตอนอายุได้เพียง 12 ปี เท่านั้นในฐานะโชกุนที่ต้องมาอยู่ในเกตุการณ์วุ่นวายต่างๆ

ในประเทศทั้งภายในจากเหล่าไดเมียวปละภายนอกจากต่างชาติ รวมถึงการพูดกัน

เรื่องคืนอำนาจให้องค์จักรพรรดิอีกด้วย โตกุกาวะ อิเอโมชิ เป็นโชกุนได้ 8 ปี

วันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 1866 ก็ถึงแก่อสัญกรรมลง มีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น

 โชกุนคนสุดท้าย

15. โตกุกาวะ โยชิโนบุ : Tokugawa Yoshinobu โชกุนคนสุดท้าย หลังการ

ปฏิรูปเมจิได้รับการแต่งตั้งยศเป็นเจ้าชาย โตกุกาวะ โยชิโนบุ ได้ถูกเลื่อนขึ้นมาเป็น

โชกุนอย่างกระทันหันหลังการจากไปของโตกุกาวะ อิเอโมชิ เขาเป็นโชกุนคนแรก

และคนเดียวที่ไม่ได้นั่งปกครองอยู่ที่เอโดะ เพราะเขาจะไม่มีโอกาสได้เหยียบย่าง

สู่ปราสาทเอโดะเลยตลอดสมัยแห่งการเป็นโชกุนเพราะในสมัยนี้มีการเตรียมกอง

กำลังและเกิดสงครามโบชิง ที่สู้กันระหว่าง รัฐบาลโชกุนโตกุกาวะ และ เหล่าเจ้า

แคว้นจาก แคว้นซัทสึมะ แคว้นโจชู และแคว้นโทสะเพื่อต่อต้านรัฐบาล โชกุน

โตกุกาวะ โยชิโนบุ จึงโดนบีบให้ลาออกจากตำแหน่งโชกัน และคืนอำนาจให้แก่

องค์จักรพรรดิ


     ภายหลังโตกุกาวะ โยชิโนบุและครอบครัวทั้งหมด ได้ย้ายกลับมาอยู่ที่เอโดะ

และอยู่ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสงบจนถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน

ค.ศ. 1913 เวลา 16:10 น. ในรัชสมัยของจักรพรรดิไทโช (จักรพรรดิพระองค์ที่ 

123 ทรงปกครองจักรวรรดิญี่ปุ่นในฐานะสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น และพระ

ประมุขแห่งเกาหลี เป็นเวลา 14 ปี)




รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 4




รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 4


   หน้าที่แล้ว >>> รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 3


สำหรับรายชื่อของโชกุนตระกูลโตกุกาวะ

โตกุกาวะ อิเอฮารุ

10. โตกุกาวะ อิเอฮารุ : Tokugawa Ieharu รับตำแหน่งโชกุนต่อมาจากโชกุน

อิเอชิเงะ ในสมัยของโชกุนอิเอฮารุนั้นเรียกว่า สมัยของทานูมะ เพราะคนสนิทซึ่งมี

อำนาจมากที่สุดในสมัยนี้คือ ทานุมะ โอกิสึงุ

ทานูมะ โอกิสึงุ

เขาได้ทำการปฏิรูปเศรษฐกิจเสียใหม่ แต่ไปทำอท่าไหนไม่รู้ในสมัยนี้ถือว่ามีการ

ทุจริตมากที่สุดสมัยนึงเลยโดยใครที่หวังตำแหน่งหรือเข้ามาทำงานในบาคุฟุ

จะต้องมีติดสินบน ค่าน้ำใจให้กับเจ้าหน้าที่ หรือ ทานูมะด้วยตลอด เขากลายเป็น

ขุนนางที่ชั่วร้ายที่สุดในเอโดะไป ในทันใดจากการทุจิรตฉ้อโกง ของเขานั่นเอง

จบเรื่องทานูมะ ในสมัยที่โชกุนอิเอฮารุ ดำรงตำแหน่งนั้นได้เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ

ครั้งใหญ่ขึ้น 2 ครั้งคือ


ไฟไหม้ครั้งใหญ่ปีเมวะ และทุพภิกขภัยปีเท็นเม การทำการติดต่อกับฮอลันดาใน

สมัยของอิเอฮารุนั้นทำให้ ศิลปวิทยาการตะวันตกนั้นเจริญรุ่งเรืองมากในญี่ปุ่น

เนื่องจากบุตรคนเดียวของอิเอฮารุนั้นได้เสียชีวิตไปตั้งแต่อายุ 18 รัฐบาลบาคุฟุจึงได้

หาผู้มาสืบทอดอำนาจ หรือบุตรบุญธรรมของโชกุนอิเอฮารุ จึงได้เลือก โตกุกาวะ

อิเอนาริ จากตระกูลสาขาของโตกุกาวะ สาขาฮิโตะสึบาชิ ขึ้นมาแทน

 โตกุกาวะ อิเอนาริ

11. โตกุกาวะ อิเอนาริ : Tokugawa Ienari เนื่องจากไม่ใช่บุตรโชกุนคนก่อน

โดยแท้ การบริหารงานส่วนใหญ่ในสมัยของโชกุนอิเอนาริ นั้นก็ต้องตกอยู่ในมือของ

ขุนนางรวมถึงการก่อกบฏจากที่ต่างๆเช่น ที่ฮอกไกโดของชาวไอนุ  กบฏของโอชิโอะ

เฮฮะจิโร่ อำนาจการบริหารก็ตกไปอยู่กับขุนนางเสียหมด รวมถึงการมาแหย่เล่นๆของ

ต่างชาติเพื่อต้องการให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศ รัสเซียเพื่อบีบให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศผ่านทาง

ฮอกไกโดและเกาะใกล้เคียง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ อังกฤษที่เอาเรือรบเข้ามาบุกเมืองท่า

เป็นเหตุให้บาคุฟุออกกฏหมายขับไล่ต่างชาติออกไป และสังหารเรือต่างชาติและ

ชาวต่างชาติทันทีเมื่อพบเห็นยังมีเหตุการณ์มอร์ริสัน ที่เรือรบมอร์ริสันของอเมริกา

เข้ามาเทียบท่าที่แคว้นซัทซึมะ ญี่ปุ่นได้ทำการตอบโต้อย่างรุนแรงออกไป


อ่านต่อหน้าถัดไป >>> รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 5


อ่านต่อได้ในหน้าถัดไปเลยครับสำหรับ รายชื่อโชกุนของตระกูลโตกุกาวะ


รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 3




รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 3 


   หน้าที่แล้ว >>> รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 2


สำหรับรายชื่อของโชกุนตระกูลโตกุกาวะ

โตกุกาวะ โยชิมูเนะ

8. โตกุกาวะ โยชิมูเนะ : Tokugawa Yoshimune ได้ชื่อว่าเป็นโชกุนที่ยิ่งใหญ่เป็น

อันดับสองในสมัยเอโดะ รองมาจากผู้ก่อตั้งอย่าง อิเอยาสุ เป็นโชกุนที่มาจากตระกูล

สาขาของโตกุกาวะ เป็นไดเมียวแห่งแคว้นคาซูราโนะ เป็นเหลนของปฐมโชกุนอิเอยาสุ

ชื่อเก่าตอนรับตำแหน่งไดเมียวคือ โตกุกาวะ โยริมาสะ  และหลังจากพี่ชายที่เป็นเจ้า

แคว้นคิอิเสียชีวิตลง โตกุกาวะ โยริมาสะ ก็กลับเข้ามารับตำแหน่งไดเมียวแห่งคิอิแทน

โดยเปลี่ยนชื่อเป็นโตกุกาวะ โยชิมูเนะ การไม่มีทายาทเพราะถึงแก่อสัญกรรมตั้งแต่ยัง

เด็กของ โชกุนอิเอสึงุ ทำให้ตระกูลโตกุกาวะสาขาหลักจบสิ้นลง ทางบาคุฟุจึงได้

ตัดสินใจเลือก โยชิมูเนะมาเป็นโชกุนแทน

   พอเข้ามาเป็นโชกุน อีตา อาราอิ ฮากุเซกิ ผู้สำเร็จราชการในสมัยโชกุนอิเอสึงุและ

คนสนิทของโชกุนอิเอโนบุ ไปให้พ้นๆและเอาพวกของตัวเองที่คิอิ เข้ามาทำงานแทน

ในสมัยนี้ของโยชิมูเนะนั้นได้จัดการบ้านเมืองหลายๆด้านเป็นอย่างดีคือการแก้ไข

ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของญี่ปุ่น เรียกว่า การปฏิรูปปีเคียวโฮ

โตกุกาวะ อิเอชิเงะ

9. โตกุกาวะ อิเอชิเงะ : Tokugawa Ieshige เป็นบุตรชายคนโตของโชกุนโตกุกาวะ

โยชิมูเนะ มีความพิการทางการพูด เขาขึ้นมาพร้อมการไม่ยอมรับเพราะไม่สามารถ

สื่อสารกับ บรรดาขุนนางใน บาคุฟุได้ เหล่าขุนนางในรัฐบาลบาคุฟุจึงเสนอให้

โตกุกาวะ มุเนตาเกะ ขึ้นมาเป็นโชกุน แต่โชกุนคนก่อนก็ไม่ยอมสนับสนุน อิเอชิเงะ

เต็มที่และขับ มุเนตาเกะออกจากอำนาจไปให้พ้น โยชิมูเนะจึงสละตำแหน่งโชกุน

ก่อนเวลาให้อิเอชิเงะขึ้นแทนเพื่อตัวเองจะเป็นพี่เลี้ยงในภายหลัง จนในที่สุด

โยชิมูเนะก็เสียชีวิตลง

   อิเอชิเงะจึงเข้ามากุมอำนาจด้วยตัวเองอย่างเต็มที่แต่ด้วยความพิการทำให้เขานั้น

ไม่สามารถบริหารงานได้ดีนักจึงต้องมอบอำนาจการปกครองให้คนสนิมคือ

โอโอกะ ทาดามิสึ ซึ่งเป็นขุนนางเพียงคนเดียวที่สามารถสื่อสารกับเขาได้คอยสำเร็จ

ราชการแทน ในยุคนี้เองที่ บาคุฟุกลับมามีการทุจริตฉ้อฉล กันอย่างกว้างขวางอีก

จนถึงช่วงท้ายของ ทาดามิสึเสียชีวิตลง ทำให้ไม่มีใครสามารถสื่อสารกับ โชกุน

อิเอชิเงะได้อีก เขาจึงสละตำแหน่งให้ลูกชายขึ้นแทนคือ โตกุกาวะ อิเอฮารุ เป็น

โชกุนคนที่ 10

อ่านต่อหน้าถัดไป >>> รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 4


อ่านต่อได้ในหน้าถัดไปเลยครับสำหรับ รายชื่อโชกุนของตระกูลโตกุกาวะ



รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 2




รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 2 




สำหรับรายชื่อของโชกุนตระกูลโตกุกาวะ

โตกุกาวะ สึนาโยชิ

5. โตกุกาวะ สึนะโยชิ : Tokugawa Tsunayoshi เมื่อขึ้นสู่อำนาจแล้วยังมีตำแหน่ง

ไทโร คือไทโรฮอตตะ มะสะะโตชิ (เป็นคนสนับสนุนโชกุนให้ขึ้นตำแหน่งเองด้วย) 

แต่การมีอำนาจอยู่มากทำให้ โชกุนไม่สะดวกอย่างแรงท่านโชกุนเลจัดการให้คนสนิท

ของตัวเองเข้ามามีอำนาจในบาคุฟุมากขึ้น จนเกิดการลอบสังหาร ไทโร ฮอตตะ ขึ้น

ก็ไม่รู้สินะใครทำ ฮ่าๆ โชกุนเลยหายใจคล่องไม่มีใครมาหายใจลดต้นคอคานอำนาจ

อยู่ โชกุนเป็นคนเข้มงวดมา มักลดอำนาจของฟุไดไดเมียวและตำแหน่งอื่นๆของ

รัฐบาลบาคุฟุลง แล้วสนับสนุนพวกตัวเองในระบบอุปถัมภ์ขึ้นมามากขึ้น ใครทำผิด

อะไรก็อาจจะโดนยึดตำแหน่งยึดที่ดินกันเลย ที่ดินแว่นแคว้นที่โดนยึกก็เอามาขึ้น

ตรงต่อ บาคุฟุ เสียหมด


   โชกุนเกิดปีจอ จึงเชื่อว่าการดูแลสุนัขทำให้ตนอายุยืนเลยจัดการออกกฏหมาย

ห้ามการทำร้ายสัตว์โดยเฉพาะสุนัขในเมืองเอโดะ และการช่วยเหลือสุนัขที่ไม่มี

เจ้าของ  แต่กลับร้ายตรงที่ สุนัขเพิ่มจำนวนมากขึ้นและสุขภาพของคนในเมืองกลับ

แย่ลงซะงั้น ชาวเอโดะจึงไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่และทำให้โชกุน สึนะโยชิ

ได้รับฉายาว่า  โชกุนสุนัข ... เอิ่ม


- สมัยเง็นโระกุ เป็นสมัยที่ศิลปวัฒนธรรมเอโดะเจริญรุ่งเรืองที่สุด  และทุจริตฉ้อฉล

ที่สุด โดยเฉพาะในบาคุฟุ ทำให้เกิดการแก่งแย่งชิงดี เตะตัดขาเข่าลอยกัน

(กลั่นแกล้งทางการเมือง) จนเกิดตำนานโรนินขึ้น อย่าง สี่สิบเจ็ดโรนิน 47 นั่นแหละ

ก็เป็นผลพวงจากการ แย่งชิงและกลั่นแกล้งกันของชนชั้นปกครองในบาคุฟุ

โตกุกาวะ อิเอโนบุ

6. โตกุกาวะ อิเอโนบุ : Tokugawa Ienobu บุตรบุญธรรมของโตกุกาวะ สึนะโยชิ

(สึนะโยชิไม่มีทายาทเลยเอาบุตรของ โตกุกาวะ สึนาชิเงะ) มาเป็นบุตร โตกุกาวะ

สึนาชิเงะ (พี่ชาย) มาเป็นทายาท ทำให้ อิเอโนบุ ได้ขึ้นเป็นโชกุนในปี 1709 และ

ได้จัดการถ่ายอำนาจปลดกลุ่มผู้มีอำนาจเก่าในสมัยของ สึนะโยชิปลดลง หลังจาก

เป็นโชกุนได้ 3ปี อิเอโนบุก็ถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1712 โดยมีบุตรชายของตนคือ

โตกุกาวะ อิเอสึงุ วัย 3 ขวบขึ้นแทน

โตกุกาวะ อิเอสึงุ

7. โตกุกาวะ อิเอสึงุ : Tokugawa Ietsugu ขึ้นเป็นโชกุนตั้งแต่ยังเด็กมากๆ เพียง

3 ขวบ โดยมีขุนนางคนสนิทของโชกุน อิเอโนบุ คือ อาราอิ ฮากุเซกิ และ มานาเบะ 

อากิฟุสะ ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทน โชกุนอิเอสึงุ ถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1716

หลังจากขึ้นเป็นโชกุนได้เพียง 4 ปีแน่นอนว่ายังไม่มีทายาท ทำให้ตระกูลโตกุกาวะ

สาขาหลักต้องจบลง


อ่านต่อหน้าถัดไป >>> รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 3


อ่านต่อได้ในหน้าถัดไปเลยครับสำหรับ รายชื่อโชกุนของตระกูลโตกุกาวะ




รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย)




รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย)


  โชกุนสายโตกุกาวะ  ที่ควบคุมการบริการงานโดยบาคุฟุ*ในยุคเอโดะ*

นั้นมีทั้งหมด 15 คนโดยปฐมโชกุน (โชกุนคนแรกของ ตระกูลโตกุกาวะ) คือ

โตกุกาวะ อิเอยาสุ ผู้ก่อตั้งเอะโดะบาคุฟุเป็นไดเมียวคนหนึ่งที่สำคัญ เขาปราบปราม

คู่แข่งโดยใช้กำลังทหารเข้าควบคุมและทำสงครามเซะกิงะฮะระและได้แต่งตั้งตนเอง

ขึ้นเป็นโชกุน ของตระกูลโตกุกาวะปกครองญี่ปุ่นแต่นั้นมา

โตกุกาวะ อิเอยาสุ

1. โตกุกาวะ อิเอยาสุ : Tokugawa Ieyasu ไดเมียวคนหนึ่งที่สำคัญ เขาปราบปราม

คู่แข่งรวบรวมผู้คนเข้าทำศึกและชนะในศึกเซะกิงะฮะระจึงได้เป็นโชกุนปกครอบญี่ปุ่น

ในค.ศ. 1603 โดยมีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่เมืองเอโดะ ในเวลาต่อมา 2 ปีหลังได้

ค.ศ. 1605 อิเอยาสุ ได้สละอำนาจลงจากตำแหน่งโดยให้บุตรชายของตน โตกุกาวะ

ฮิเดทาดะ ขึ้นมาเป็นโชกุนแทน แต่อำนาจต่างๆก็ยังอยู่ที่อิเอยาสุ อยู่ดี

โตกุกาวะ ฮิเดทาดะ

2. โตกุกาวะ ฮิเดทาดะ : Tokugawa Hidetada ขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนในวัย 26 ปี

แต่ไม่ได้มีอำนาจมากนักในช่วงแรก พอมีอำนาจมากขึ้นในช่วงกลางก็สามารถขยาย

อำนาจออกไปได้อย่างกว้างขวางและได้ลงจากอำนาจในวัย 44 ปีสละตำแหน่งให้แก่

โตกุกาวะ อิเอมิสึ และยังมีอำนาจดั่งเช่นที่บิดา อิเอยาสุ เคยทำ

โตกุกาวะ อิเอมิสึ

3. โตกุกาวะ อิเอมิสึ : Tokugawa Iemitsu ขึ้นเป็นโชกุนคนใหม่ขณะอายุได้เพียง

19 ปี โดยมีบิดาโชกุนคนก่อนคุมอำนาจอยู่เบื้องหลังเมื่อโชกุนคนก่อนสิ้น อสัญกรรมลง

ก็มีอำนาจขึ้นมา ในวัย 28 ปี เมื่อมีอำนาจแล้วท่านก็สั่งประหารน้องชายแท้ๆของท่านที่

พยายามลอบสังหารท่านแต่ไม่สำเร็จในยุคนี้มีเหตุกบฏ ชิมาบาระ ซึ่งเกี่ยวกับการแพร่

เข้ามาของศาสนาคริสต์ในยุคบิดาของท่านตั้งแต่ยุคโชกุนคนก่อน ทางรัฐบาลโชกุน

สามารถจัดการกับกบฏไว้ได้และประหารชาวบ้านที่เป็นกบฏนางาซากิ และยังได้เกิด

นโยบายปิดประเทศ เนื่องจากเรื่องกบฏ ที่มีศาสนาคริสต์และชาวต่างชาติเข้ามาเกี่ยว

ข้องอย่างมาก ทำให้ อิเอมิสึนั้นมีทัศนคติที่ไม่ดีนักต่อต่างชาติที่เข้ามาวุ่นวาย จึงได้


ออกกฏหมายปิดประเทศขึ้นมาหลายครั้ง ในเรื่องต่างๆ ทั้งการเข้าออก


- ห้ามคนญี่ปุ่นที่อาศัยนอกประเทศเกิน5 ปีกลับเข้ามา


- ให้เรือสินค้าจีนและฮอลันดา สามารถเทียบท่าที่ นางาซากิได้เท่านั้นห้ามชาวญี่ปุ่น

ที่เดินทางออกนอกประเทศไปกลับเข้ามาอีก


- เนรเทศชาวโปรตุเกส ที่ไม่ใช่พ่อค้าทั้งหมดไปที่มาเก๊าส่วนที่เป้นพ่อค้าให้อยู่ที่

นางาซากิและเดจิมะ


- ห้ามเรือโปรตุเกสมาเทียบท่าที่ญี่ปุ่นอีกต่อไป


ท่านโชกุนอิเอมิสึ ได้ถมทะเลขึ้นมาเป็นเกาะที่ริมทะเลเมืองนางาซากิ เรียกว่าเกาะเดจิมะ

"เกาะทางออก" เอาไว้เป็นสถานีการค้ากับฮอลันดา

โตกุกาวะ อิเอสึนะ

4. โตกุกาวะ อิเอสึนะ : Tokugawa Ietsuna ในสมัยนี้หลังจากที่ โชกุนอิเอมิสึเสีย

ชีวิตไปก็ได้เกิดกบฏกลุ่มโรนิน*นำโดย  มารูบาชิ ชูยะ ที่เป็นยบุตรชายของอดีตไดเมียว

แห่งเกาะชิโกกุ และ ยูอิ โชเซ็ตสึ ผู้ที่มีความหลงไหลใน บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในยุคเดียวกับ

โอดะ โนบุนางะ คือ โทโตมิยะ ฮิเดโยชิ ที่ก้าวจากตระกูลต่ำศักดิ์ขึ้นมาครอง อำนาจ

เหนือญี่ปุ่นได้ (แต่มันนานมาแล้วก่อนพวกนี้จะขึ้นมาซะอีก) ทั้ง 2และพวกได้วางแผน

การกบฏต่อรัฐบาลบาคุฟุของ โตกุกาวะ ในเอโดะ วางแผนไว้ว่าจะเผาเมืองเอโดะ และ

จัดการรวบอำนาจเกียวโต (ที่อยู่ขององค์จักรพรรดิ) รวมไปถึงที่โอซาก้า (น่าจะเป็นใน

เชิงสัญลักษ์ เพราะฮิเดโยชิ เคยมีปราสาทอยู่ที่นั่น) แต่ก็ตามที่รู้ๆกันทั้ง 2 และพวก

ถูกจับได้เสียก่อน ทาง ยูอิ โชเซ็ตสึ ก็ทำเซ็ปปุกุ(ฮาราคีรี)*ตัวเองหนีความผิดตาย

ส่วน มารูบาชิ ชูยะ ก็โดนตัดสินประหารชีวิตเรียกเหตุการณ์นั้นว่า เหตุการณ์ปีเคอัง


- ยังมีกบฏ ชาวไอนุ เป็นชนพื้นเมืองในแคว้นมาซึมาเอะบนเกาะฮอกไกโดในประเทศ

ญี่ปุ่น

    อิเอสึนะเป็นคนอ่อนแอ(ร่างกาย) สุขภาพไม่ค่อยจะดี จึงไม่มีบุตรทำให้การสืบ

เชื้อสายโชกุนคนต่อไปจึงไปตกอยู่ที่ โตกุกาวะ สึนะโยชิ น้องชายต่างมารดาของ

เขาแทน


อ่านต่อหน้าถัดไป >>> รายชื่อโชกุน โตกุกาวะ (โชกุนตระกูลสุดท้าย) 2


อ่านต่อได้ในหน้าถัดไปเลยครับสำหรับ รายชื่อโชกุนของตระกูลโตกุกาวะ





การปฏิรูปเมจิ คือ (ฉบับย่อพอเข้าใจ)




การปฏิรูปเมจิ คือ (ฉบับย่อพอเข้าใจ)


 การปฏิรูปเมจิ การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากยุคโชกุน โตกุกาวะ เปลี่ยนถ่าย

อำนาจมาที่จักรพรรดิอย่างแท้จริง โดยมี แคว้นซัทสึมะ  แคว้นโชชู  และแคว้นโทสะ

ต่อต้านรัฐบาล โชกุนโตกุกาวะ โยชิโนบุ เพื่อรวบอำนาจจากรัฐบาลโชกุนโตกุกาวะ

กลับคืนสู่จักรพรรดิอีกครั้งหนึ่ง เป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองครั้งยิ่งใหญ่ใน

ยุคสมัยนั้น ทั้งการปกครองโครงสร้างทางสังคมของญี่ปุ่น จากระบบศักดินามาเป็น

ทุนนิยม โดยยุคก่อนหน้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงถูกเรียกว่า บากูมัทสึ  เป็นชื่อเรียก

ช่วงเวลาปลายยุคเอโดะซึ่งนำไปสู่การสิ้นสุดของรัฐบาลโชกุนโตกุกาวะ เป็นช่วงที่ญี่ปุ่น

เปลี่ยนผ่านนโยบายจากรัฐบาลแบบศักดินาของโชกุนไปสู่รัฐบาลสมัยใหม่ในยุคเมจิ

ทั้ง แคว้นซัทสึมะ  แคว้นโชชู  และแคว้นโทสะ ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรซัตโช เพื่อริเริ่ม

การปฏิรูปสมัยเมจิ โดยได้รับการสนับสนุนจากจักรพรรดิโคเม โดยมี ซากาโมโตะ เรียวมะ ,

ไซโก ทาคาโมริ , คิโด ทากาโยชิ  เป็นแกนนำในเรื่องนี้



โดนบีบให้ยอมแพ้และคืนอำนาจให้แก่องค์จักรพรรดิ เป็นการสิ้นสุดระบอบศักดินา

โชกุนรัฐบาลบาคุฟุ โชกุนคนที่ 15 แห่งตระกูลโตกุกาวะ คือ โตกุกาวะ โยชิโนบุ

ก็ได้สิ้นสุดลงไป หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสงครามโบะชิง เป็นศึกระหว่างฝ่าย

สนับสนุนจักรพรรดิ กับกองทัพของอดีตโชกุน ในที่สุด กองทัพของโชกุนก็พ่ายแพ้

ส่งผลให้จักรพรรดิมีพระราชอำนาจเต็มเหนืออดีตโชกุนโยชิโนบุอย่างสมบูรณ์เด็ดขาด

จากในตอนแรกที่ยังให้เข้ามาเป็นประธานในคณะปฏิรูปและยังมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก

ในการบริหารเพราะถึงจะถูกลดอำนาจปลดไปแต่ก็ยังคงมีอำนาจควบคุมคนของตน

อยู่มากสามารถสั่งการบริหารบ้านเมืองได้ทำให้ฝ่ายจักรพรรดินั้นทำอะไรลำบากแต่

หลังจากสงคราม ฝ่ายสนับสนุนโชกุนพ่ายแพ้ โชกุนโยชิโนบุก็หมดอำนาจลงอย่างมาก

กองกำลังบางส่วนของโชกุนได้หลบไปอยู่ที่เกาะฮอกไกโดและพยายามแบ่งแยก

ดินแดนตั้งเป็นรัฐอิสระ คือ สาธารณรัฐเอโสะ แต่ก็โดนหยุดยั้งเอาไว้โดยฝ่ายสนับสนุน

จักรพรรดิ ฝ่ายโชกุนพ่ายพ้ในครั้งนี้เป็นการตัดกำลังที่จะขึ้นมามีอำนาจอีกครั้งของ

โชกุนโตกุกาวะโดยสิ้นเชิง อำนาจทั้งหมดตกมาอยู่กับพระจักรพรรดิโดยสมบูรณ์

อย่างแท้จริง

ส่งผลให้ญี่ปุ่นก้าวหน้าไปอย่างมาก ระบบกองทัพก็ก้าวไปในรูปแบบจากตะวันตก

การปฏิรูปสมัยเมจิทำให้ประเทศญี่ปุ่นก้าวสู่ระบบอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว


สามารถจัดการบรรดา อำนาจเก่า เจ้าแคว้น ไดเมียวที่ยังแข็งข้อได้จากการรวมตัว

เป็นกลุ่มผู้มีอำนาจจากแคว้นพันธมิตร ส่งเสริมอำนาจแด่องค์จักรพรรดิ ถึงจะมี

การต่อต้านแนวคิดการถวายดินแดนคืนให้แก่จักรพรรดิในช่วงแรกแต่ท้ายที่สุด

ทุกคนก็ทำตาม ด้วยการนำของแคว้นซัทสึมะ ทำให้แคว้นอื่นทำตามทำให้รัฐบาล

กลางโดยจักรพรรดิมีอำนาจเหนือดินแดนทั่วราชอาณาจักร จนในตอนสุดท้ายมี

การยกเลิกชนชั้นทั้ง4 คือ ซามูไร เกษตรกร ช่างฝีมือ และพ่อค้า

ยากที่สุดน่าจะเป็นซามูไร แต่ในที่สุดก็สามารถจัดการได้แม้จะต้องเสียเงินมาดูแล

ซามูไรอย่างมหาศาลและใช้เวลาเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆก็ตาม






โรนิน คืออะไร





โรนิน Ronin คืออะไร 


     โรนิน นั้นอร่อย อาบังเข็นมาขาย ห่อละ 10 บาทใส่ไข่12 เอ้ยไม่ใช่ละนั่นมัน

โรตี โอเคเข้าเรื่องเถอะออกไปโรตีได้น้ำขุ่นๆมาก

มิยาโมโตะ มูซาชิ

โรนินก็คือซามูไรนั่นเอง อ่าวแล้วทำไมไม่เรียกซามูไร ก็ซามูไรแปลว่าผู้รับใช้ แต่โรนิน

แปลว่าคนคลื่นนะ ถ้าจำไม่ผิดอะ โรนินคือซามูไรไร้เจ้านายสังกัด

ซามูไรก็เหมือนนักฟุตบอลต้องมีสังกัดถึงได้ตัง ถ้าไม่มีก็ฟรีเอเย่น แต่โรนินนั้นคือ

ซามูไรที่ไร้สังกัดไม่มีนาย อาจจะร้ายกว่านักบอลที่หาสังกัดไม่ได้ตรงที่การเป็นโรนิน

นั่นค่อนข้างเสียเกียรติ สมัยระบอบโชกุนนั้นหมายถึงซามูไรที่ไม่มีสังกัด (เถื่อน)

ไม่มีเจ้านาย อาจเพราะเจ้านายนั้นเสียชีวิตไปหรือโดนลงโทษ สั่งให้ฮาราคีรีโดน

ริบทรัพย์หรือตระกูลของเจ้านายต้องล่มสลายลงจากเหตุใดเหตุนึง ก็แล้วแต่ซามูไร

ที่อยู่ในสังกัดนายนั้นต้องกลายเป็นโรนินชื่อเสียง ต่ำต้อย โดนคนอื่นล้อ การแปล

สภาพจากซามูไรที่น่าเกรงขามมาเป็นโรนินด็อกด๋อยจึงไม่ค่อยเป็นที่ชมชอบของ

ซามูไรซักเท่าไหร่ แต่เว้นเรื่อง 47 โรนินไว้ละกันอันนั้น

สี่สิบเจ็ดโรนิน 47 โรนิน
ภาพพิมพ์แสดงการเข้าโจมตีคฤหาสถ์ของคิระ โยะชินะกะ 47 โรนิน

สร้างวีรกรรมเลื่องชื่อเอาไว้เดี๋ยวบทความหน้าจะมาเล่า อะไรบ้างเป็นเหตุให้ ซามูไร

ต้องกลายมาเป็นโรนิน เดี่ยวลองยกตัวอย่างซัก 2 อย่างละกัน


1 . ไดเมียว ชื่อดังเดินเข้าไปในปราสาทโชกุนแต่เกิดไปวิวาทกับไดเมียวอีกคนเรื่อง

การประชุมเมื่อคืนจนชักดาบออกมาในเขตต้องห้ามทำให้ถูกลงโทษด้วยการสั่งให้ทำ

เซปปุกุ หรือการฮาราคีรี ตายไปซะ โรนินของไดเมียวคนดังกล่าวก็ต้องกลายเป็นซามูไร

โถ่เอ้ยสลับกัน ซามูไรสิต้องกลายเป็นโรนิน ไร้สังกัดไปในบัดดล


2. คือเกิดการแก่งแย่งชิงดีแกล้งกันทางการเมืองเป็นเหตุให้ผู้ที่มีซามูไรบางคนใน

ครอบครองต้องโดนริบทรัพย์ริบเอาที่ดินปลดลงจากตำแหน่งหรือไม่สามารถมีอำนาจ

ต่อได้อีก ซามูไรทั้งหลายก็ต้องกลายเป็นโรนินทันที


ง่ายๆคือ อะไรที่เป็นเหตุให้นายของซามูไรต้องสิ้นสุดหรือจบสิ้นลง มันส่งผลต่อซามูไร

ในสังกัดนั้นๆจะต้องกลายเป็นโรนินไปด้วยนั่นแล


ซามูไรดังๆที่กลายเป็นโรนินก็มี พวก ไซโก / ซาคาโมโต๊ะเรียวมะ / มิยาโมโตะ มูซาชิ

 / ยามาดา นางามาซา และพวก โรนินสี่สิบเจ็ด นั่นแหละครับ


โรนินในยุคนึงถือว่าเป็นความเสื่อมของการปกครองและสังคมเพราะเกิดโรนินขึ้นมา

เนื่องจากมีการแก่งแย่งชิงดี กันจนคิดทำลายคู่แข่งให้พ้นไปในทางการเมืองส่งผล

ให้เจ้านายของโรนินหลายๆคนต้องเปลี่ยนสภาพสิ้นสูญไป ซามูไรในสังกัดก็กลายเป็น

โรนินตามไปด้วย


ปล.ในปัจจุบันโรนินหมายถึงเด็กนักเรียนที่สอบเอ็นทรานซ์ไม่ติดและใช้เวลาก่อนสอบ

ครั้งต่อไปมาอ่านหนังสือเพื่อกลับไปสอบแก้ตัวใหม่อีกครั้ง ประมาณนี้จ้า







โอโอขุ Ooku คือ




โอโอขุ Ooku คือ


     โอโอขุ คือ ฝ่ายในของปราสาทเอโดะที่แบ่งส่วนไว้ให้เฉพาะญาติและคนรับใช้

ที่เป็น สตรีของโชกุนได้พำนักอาศัย โอโอขุเป็นที่อยู่ของมารดา บุตรธิดา และภรรยา

ทั้งหลายของโชกุน รวมถึงนางกำนัลภายในปราสาท ๆไม่สามารถให้มีผู้ชายนอกเหนือ

จากท่านโชกุนเข้าไปในเขตนี้ได้ ความหมายตรงๆคือ เขตหวงห้ามสำหรับโชกุนตระกูล

โตกุกาวะและบรรดาผู้ใกล้ชิดคนสนิทผู้รับใช้ซึ่งเป็นผู้หญิงของโชกุน

โอโอขุ

โอโอขุ นั้นถูก สร้างขึ้นมาในปราสาทเอโดะในปี ค.ศ.1607 โดย โชกุนโตกุกาวะ ฮิเดทาดะ

โดยมีกฏว่าหญิงสูงศักดิ์จะอยู่ในโอโอขุ ตลอดไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปภายนอก

ปราสาทหรือแม้แต่ส่วนหน้าของปราสาทได้นอกเสียจากว่ามีเหตุเช่น ภรรยารองของ

โชกุนคนเก่าที่เสียไปถ้าไม่มีบุตรกับโชกุนให้ออกไปจากปราสาทได้


ตำแหน่งต่างๆใน โอโอขุ


1. มิไดโดโกโระ : เป็นเหมือนภรรยาหลวงหรือฮองเฮาคือเมียของฮ่องเต้ มิไดก็คือ

เมียของโชกุนมีอำนาจสิทธิขาดใหญ่ที่สุดในโอโอขุ ผู้ที่จะมาเป็นมิไดโดโกโระได้นั้น

ต้องมาจากธิดาของชนชั้นสูง เท่านั้น จะเป็นธิดาบุญธรรมหรือธิดา จริงๆก็ได้นับที่

ตำแหน่ง (เหมือนในหนังเจ้าหญิงอัตสึ) เมื่อโชกุนเสียชีวิตลง มิไดโดโกโระจะเปลี่ยน

ชื่อเป็น โอมิไดโดโกโระ จะต้องปลงผมและสามารถอยู่ในปราสาทต่อได้


2. โซคุชิทสึ : อนุภรรยาของโชกุน ซึ่งจะเลือกจากนางกำนัลตำแหน่งโอจูโร เมื่อ

โชกุนเสียชีวิต หากเป็นมารดาของโชกุนคนต่อไปสามารถปลงผมและอยู่ต่อใน

ปราสาทได้แต่ถ้าหากไม่ใช่ก็ให้ปลงผมและออกจากปราสาทไป


3. โอขุโจวจู : นางกำนัลของปราสาทแบ่งตามระดับขั้นต่างๆ แยกย่อยอีกมากมาย

แบ่งเป็น โอขุโจวจูระดับบน ที่รับใช้ต่อหน้าโชกุน


โอขุโจวจูระดับล่าง พวกที่ไม่มีสิทธิรับใช้ต่อหน้าโชกุน ซึ่งทั้งบนและล่างนั้นก็ยังมี

แยกย่อยตามตำแหน่งอีกเยอะมาก ทั้งหมดล้วนเป็นหญิง (ชื่อก็บอกอยู่ว่านางกำนัล)

ประเพณีเรื่องโอโอขุแบบนี้อยู่ตลอดเป็นเวลาเกือบ 200 ปีจนสิ้นสุดอำนาจของโชกุน

โตกุกาวะและปราสาทเอโดะถูกปิดลงในการปฏิรูปเมจิ

คร่าวๆ พอเข้าใจกันนะครับสำหรับเรื่องราวของโอโอขุ 






นิยามของ ไดเมียว ไดเมียวคืออะไร




นิยามไดเมียวคืออะไร


 ไดเมียว คือผู้ครองเมือง ผู้ครองแคว้นที่มีอำนาจมากพอจะขึ้นมาเป็นโชกุนได้

เป็นตำแหน่งเจ้าเมืองที่มีความสำคัญรองลงมาจากโชกุนและไดเมียวจากหลาย

ตระกูลก็ได้เป็นโชกุนในเวลาต่อมามีความสำคัญกับการเมืองการปกครองการ

ทหารของญี่ปุ่นในสมัยระบอบฮัน เป็นอย่างมาก


โตกุกาวะ อิเอยาสุ

นิยามของ ไดเมียว


1. เจ้าเมือง เจ้าแค้วน :


2. ต้นสังกัดซามูไร : ซามูไร คือผู้รับใช้ไดเมียว คอยทำหน้าที่ต่างๆแบ่งขั้นหลาก

หลาย ไดเมียวที่จะขึ้นเป็นใหญ่ต้องมีซามูไรที่เก่งกาจอยู่ในมือด้วยเช่นกัน


3. โชกุน : ไดเมียวที่แข็งแกร่งจะได้ขึ้นมาเป็นโชกุน ไดเมียวผู้ชนะจะได้ขึ้นมา

เป็นผู้ปกครองไดเมียวทั้งปวงมีอำนาจสูงสุดถึงแม้ไม่ได้เป็นโชกุน เพราะมาจาก

ตระกูลต่ำ ตระกูลชาวนาซึ่งไม่มีบารมีพอแต่ก็มีอำนาจเหนือไดเมียวอื่น อย่าง

โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ  ก็ขึ้นเป็นโชกุนไม่ได้ (แต่สุดท้ายก็เป็น คัมปะกุ หรือผู้สำเร็จ

ราชการแทนจักรพรรดิ) มีอำนาจล้นเหลืออยู่ดี


4. ลูกหลานโชกุน : เป็นลูกหลายสายตระกูลของโชกุน ทั้งสาขาหลักและสาขา

ย่อยที่ลงมาปกครองตามเมืองต่างๆ


5. ผู้บริหาร : ไดเมียวจะแบ่งเป็น 3 ชั้นคือ ชินปังคือ ฮังที่ปกครองโดยไดเมียว

ซึ่งเป็นเครือญาติหรือสาขาย่อยของตระกูลโตกุกาวะ


 ไดฟุไดเมียว คือไดเมียวคนสนิทรับใช้โชกุนมีอำนาจในการบริหารงานของรัฐบาล

ทหาร บาคุฟุ


โทซะมะ ไดเมียวจากแคว้นห่างไกล ที่ไม่มีบทบาทมากมายนักในการบริหาร ไดเมียว

ที่สืบเชื้อสายมาจากผู้ปกครองแคว้นใหญ่ในยุคเซ็งโงะกุที่ถูกผนวกให้เข้ามาอยู่ใน

อำนาจโชกุน


6. ท่านรอง :  เป็นตำแหน่งเจ้าเมืองหรือเจ้าแคว้นที่มีความสำคัญรองลงมาจากโชกุน

อยู่ภายใต้การปกครองของโชกุนหรือจักรพรรดิ (ส่วนใหญ่จะโชกุนมากกว่านะ)


7. ผู้เปลี่ยนแปลง : พลังของไดเมียวถ้ารวมตัวกันก็สามารถงัดข้อกับโชกุนได้

อย่างไดเมียวระดับ โทซะมะที่งัดกับโชกุนในช่วงปลายโทกุกาวะ โดยยกเรื่องการคืน

อำนาจให้องค์จักรพรรดิก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลครั้งใหญ่ในการปกครองของญี่ปุ่น

หรือการปฏิรูปเมจิ


8. อดีตเจ้านายของโรนิน : อย่างพวกโรนินทั้ง 47 ที่นายตัวเองเป้นไดเมียวโดน

ยั่วยุจากขุนนางในเอโดะจนทำผิดพลาดนำมาซึ่งความตายซามูไรนับร้อยชีวิตของ

เขาจึงต้องตกเป็นโรนิน (ซามูไรไร้นาย ไร้ผู้ให้รับใช้) จึงมีเรื่องการแก้แค้นกู้เกียรติ

ของเจ้านายนำโดย โรนิน 47 คน กลายเป็นตำนานแห่งความซื้อสัตย์และวิถีแห่งบูชิโด


9. ตัวประกัน : ในยุคของโชกุนตระกูลโตกุกาวะนั้น ไดเมียวต้องมีปราสาทอยู่ในเอโดะ

และต้องมาอยู่เป็นคล้ายๆตัวประกันอยู่ในเอโดะพร้อมครอบครัว1 ปี และกลับไปบริหาร

ดูแลแคว้นอีก 1ปี และปีต่อก็กลับมาเอะโดะอีกสลับไปมาอยู่อย่างนั้นเพื่อเป็นการลด

ทอนกำลังและอำนาจของไดเมียวที่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของโชกุน


10. ผู้ปกป้อง : จากข้อข้างบนไดเมียวอาจจะเป็นผู้ทำลายโชกุนได้หรือขึ้นมาเป็น

โชกุนแทน แต่อย่างไรนั้นไดเมียวก็ยังเป้นพวกที่ปกป้องโชกุนได้เช่นกันรวมถึงป้องกัน

ประเทศจากต่างชาติ เป็นชนชั้นซามูไรที่ต้องคอยปกป้องดูแลเขตแคว้นและประชาชน

ของตน เพราะทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง แม่มีหน้าที่แม่ ชาวนามีหน้าที่ทำนา ซามูไร

ก็มีหน้าที่ของตัวเองเช่นกันซึ่งพวกเขาคือผู้ปกป้อง ถ้าเห็นว่าสิ่งใดเป็นภัยก็กำจัด

สิ่งใดสมควรปกป้้องก็สู้ปกป้องจนตัวตายไว้ซึ่งศักศรีดิ์เกียรติของตนและพวกพ้อง






บาคุฟุ (Bakufu) คือ




บาคุฟุ


     บาคุฟุ คือแปลว่า "ทำเนียบรัฐบาล" หมายถึงระบอบการปกครองที่นำโดย

โชกุน 

โชกุน หรือชื่อตำแหน่งทางการว่า เซอิไทโชกุน เป็นตำแหน่งที่แต่งตั้งโดยองค์

พระจักรพรรดิที่เมืองเกียวโต มอบให้แก่ซามูไรชั้นสูงที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูล

มินาโมโตะโบราณ ซึ่งเราจะพูดถึงบาคุฟุในสมัยของตระกูลโตกุกาวะคือการปกครอง

ระบบศักดินาที่สถาปนาขึ้นโดย โชกุนคนแรก ของตระกูลโตกุกาวะ

โตกุกาวะ อิเอยาสุ
 โตกุกาวะ อิเอยาสุ :  คือผู้สถาปนาบาคุฟุ (รัฐบาลทหาร) ที่เมือง เอโดะ(โตเกียวในปัจจุบัน)
และ โชกุน คนแรกของ ตระกูลโตกุกาวะ

 คือ โตกุกาวะ อิเอยาสุ เป็นเสมือนรัฐสภาขึ้นมาปกครองประเทศญี่ปุ่นโดยมีเหล่าบรรดา

ไดเมียวจากแค้วนต่างๆในเขตของญี่ปุ่นเข้ามร่วมกันปกครองบ้านเมืองโดยมีหัวหน้าหรือ

ประมุขใหญ่คือ โชกุน ซึ่งมีหน้าที่รับใช้ดูแลประเทศจากองค์จักรพรรดิที่เกียวโต แต่ความ

จริงแล้วนั้นอำนาจบริหารทั้งหมดก็อยู่ที่โชกุนอยู่ดี มิใช่ที่องค์จักรพรรดิแต่อย่างใด การ

บริหารแนวทางการปกครองต่างๆก็ออกจากบาคุฟุไปทั้งหมด


        ใช้อำนาจบริหารประเทศแก้ปัญหาและวางนโยบายต่างๆให้แก่ประเทศทั้งสิ้น

ซึ่งก็อยู่ในอำนาจของโชกุนตระกุลโตกุกาวะ อีกเช่นเคยมีสภาขุนนาง ทำหน้าที่เป็นผู้ให้

คำชี้แนะแก่โชกุน ประกอบด้วย


 - โรจู เป็นตำแหน่งขุนนางอาวุโสที่สูงที่สุดรองจากโชกุน เป็นคนคอยให้คำปรึกษาและ

เสนอแนวทางบริหาร


 - ไทโร เป็นตำแหน่งขุนนางอาวุโสที่มีอำนาจเหนือโรจู แต่ไม่ใช่ตำแหน่งตายตัวจะตั้ง

ก็ได้หรือตั้งพอเป็นพิธีก็ได้ หรืออาจจะตั้งมาเพื่อบริหารงานเนื่องจากโชกุนไม่สามารถ

ทำได้ด้วยตัวเองอย่างในยุคของ โตกุกาวะ อิเอโมชิ ที่เป็นโชกุนตั้งแต่ยังเด็กจึงต้องมี

ไทโรขึ้นมาช่วยดูแลงาน


 - วากาโยชิโดริ ตำแหน่งขุนนางอายุน้อย ทำหน้าที่เป็นข้ารับใช้ส่วนตัวของโชกุน


 - บุเกียว เป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการเงินและดูแลเมืองที่ปกครองโดย บาคุฟุ เขต

ปกครอของโชกุนที่ไม่ใช่ของไดเมียวอื่นๆ


ฮัน คือพื้นที่ปกครองที่ห่างออกไปให้แก่ไดเมียวไปปกครองซึ่งเป้นเหมือนเขตแคว้นที่

ขึ้นตรงต่อโชกุนนั่นเอง สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตมีกำลังทหารได้ระบบฮันที่ให้ไดเมียว

ไปปกครองแบ่งได้ตามชั้น ดังนี้


 - ชินปัง ปกครองโดยไดเมียวซึ่งเป็นเครือญาติหรือสาขาย่อยของตระกูลตะกูลโทกุกาวะ

ซึ่งใกล้ชิดสนิทกับโชกุนมากที่สุดคือพวกโกะซังเกะ สาขาย่อยของตระกูลโตกุกาวะที่

สามารถเข้ารับตำแหน่งโชกุนได้หากสาขาหลักของโชกุนสิ้นสุดลง


 - ฟุได  ไดเมียวที่มาจากตระกูลที่เป็นข้ารับใช้เดิมของตระกูลโตกุกาวะ หรือเข้าเป็นพวก

สวามิภักดิ์ก่อนยุทธการเซะกิงะฮะระ ซึ่งไดเมียวตระกูลเหล่านี้มีอำนาจและบทบาทที่

สำคัญในการปกครองส่วนกลางของรัฐบาลบาคุฟุเป็นอย่างมาก


 - โทซะมะ ไดเมียวที่สืบเชื้อสายมาจากผู้ปกครองแคว้นใหญ่ในยุคเซ็งโงะกุ และถูก

ผนวกเข้ามาอยู่ในอำนาจของโชกุนหลังจากสงครามยุทธการเซะกิงะฮะระ ซึ่งก็คือผู้แพ้

หรือพวกที่ไม่อ่อนข้อต่อสงครามในยุคแรกก่อตั้งบาคุฟุโทซะมะถือว่ามีฐานะต่ำกว่า

ไดเมียวฟุไดและถูกกีดกันจากการปกครองส่วนกลาง



    เพื่อเป็นการตัดปัญหาเรื่องความมั่นคง แต่โทซะมะเหล่านี้มักมีแคว้นที่ใหญ่และ

มีความชำนาญในพื้นที่มากมีอำนาจอยู่รอบนอกมาอยู่ทำให้โชกุนต้องลดอำนาจของ

พวกโทซะมะ (ที่จริงก็ทุกพวกแหละ)ในยุคของ โทกุกาวะ อิเอมิสึ จึงได้จัดการนโยบาย

ตัวประกันขึ้น คือ ซังคิง โคไตให้ไดเมียวทุกแคว้นสร้างปราสาทภายในเมืองเอโดะ

ให้พักอยู่ที่ปราสาท 1 ปีแล้วกลับไปปกครองแคว้นอีก 1 ปี สลับกันไปมาโดย 1 ปีที่

ไม่ได้อยู่ปกครองก็จะให้พ่อบ้านหรือคะโร เป็นคนปกครองแทนไป และบรรดาภรรยา

และบุตรของไดเมียวนั้นๆจะต้องอยู่ที่เอโดะตลอดเวลาห้ามตามไปด้วยซึ่งแคว้นของ

ไดเมียวพวกโทซะมะนั้นอยู่ไกลการเดินทางลำบากและสิ้นเปลือง เสมือนการตัดกำลัง

และลดอำนาจไปในตัว อย่างไรซะบาคุฟุก็ต้องล่มสลายลงด้วยฝีมือของบรรดาไดเมียว

โทซะมะอยู่ดีในตอนท้ายที่สุด


   บาคุฟุ แปลง่ายๆคือ รัฐบาลของโชกุนที่ใช้ในการบริหารประเทศ จะดีหรือร้ายก็

ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายที่ออกไปจากที่นี่ขนาดองค์จักรพรรดิยังไม่สามารถทำอะไรได้

อย่างมากสุดเพียงแค่แสดงความไม่พอใจเท่านั้นแต่ก็ไม่สามารถยับยั้งหรือห้ามอะไร

ได้นอกเสียจากจะมีไดเมียวพวกโทซะมะสนับสนุนหรือไม่เห้นชอบก่อการขึ้นอย่างใน

การปฏิรูปเมจิที่ทำให้ ระบบฮันและโชกุนไดเมียวทั้งหลาย ล่มสลายลง

บาคุฟุ = Bakufu




โชกุน คืออะไร




โชกุน คืออะไร


  โชกุน (shogun โชงุง ) เป็นชื่อเรียกตำแหน่งทางการทหารของญี่ปุ่นสมัยโบราณ  

คำว่าโชกุนเป็นคำย่อของคำว่า เซอิไทโชกุน ( sei-i taishogun) หรือแม่ทัพปราบแดน

เถื่อน รัฐบาลของโชกุนมีชื่อเรียกว่าบาคุฟุ ซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญในการบริหารประเทศ

ที่มีไดเมียวแต่ละแคว้นปกครองตนเองคล้ายๆรวมตัวกันอยู่ใต้อำนาจโชกุนในรูปแบบ

สมาพันธรัฐ ซะมากกว่าราชอาณาจักร ซึ่งจริงๆญี่ปุ่นก็มีสมเด็จพระจักรพรรดิแต่เป็น

เหมือนสมมติเทพเป็นโอรสของเทพเจ้าเป็นสัญลักษณ์ความเคารพของผู้คนเสียมาก

กว่าไม่ได้มีอำนาจอะไรมากมายจนถึงช่วงปฏิรูปเมจินั่นเอง โชกุนที่ดังๆ ที่รู้จักกัน

ก็ โชกุน อาชิคางะ จาก อนิเมะ ยุค70 อย่างอิคคิวซัง หรือ โชกุน อิเอยะสุ ที่เป็น

โชกุนคนแรกของตะกูล โตกุกาวะ ที่ก่อนจะเกิดเกิดปฎิรูปเมจิ ที่มักมีเอาเรื่องราว

ช่วงนั้นมาทำเป็นซีรีย์ การ์ตูน อนิเมะอยู่บ่อยครั้ง ซีรีย์ที่ตรึงใจแอดมากที่สุดคืด

อัทสึฮิเมะ หรือ เจ้าหญิงอัทสึ นั่นเอง



    อำนาจของโชกุนในยุคแรกนั้นเป็นเสมือนผู้มีอำนาจในด้านการทหารการสงคราม

ซึ่งเป็นอำนาจชั่วคราวเพราะเป็นตำแหน่งที่ถูกส่งไปปราบคนเถื่อนไปเพื่อทำสงคราม

แต่หลังจาก มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ ในช่วงปี ค.ศ.1192 ได้ตั้งรัฐบาลปาคุฟุขึ้น

ซึ่งกลายเป็นรัฐบาลทหารนั่นแหละครับ ยึดอำนาจมาปกครองประเทศเสียเองเลย

ใช้กำลังและพวกที่นอบน้อมต่อตน ในช่วงแรกหรือบางช่วงก็ได้รับการแต่งตั้งพอเป็น

พิธีจากทางจักรพรรดิ ซึ่งเป็นการแต่งตั้งเพียงในนามเท่านั้นอำนาจในการสืบทอดหรือ

ตัวโชกุนรุ่นต่อๆมาที่สืบต่อกันก็ไม่ได้อยู่ที่จักรพรรดิหรอก อีกนัยนึงคือไดเมียวซึ่งเป็น

เจ้าผู้ครองแคว้นครองเมืองต่างๆบนเกาะของประเทศญี่ปุ่นทั้งหลายแหละครับ ที่จะขึ้น

เป็นโชกุนอยู่ที่ว่าใครมาจากตระกูลไหนและมีอำนาจยอมให้ผู้อื่นสยบมากเพียงใด 

ไดเมียวที่มีชื่อเสียงแต่มาจากตระกูลต่ำ อย่าง โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ  ก็ขึ้นเป็นโชกุน

ไม่ได้แต่ยังมีความสามารถเชิดคนอื่นได้และกลายเป็นไดเมียวที่มีอำนาจมากกว่า

โชกุน 


   ถ้าจะให้เรียกแบบเราๆก็นอมินี ดีๆ นั่นเอง (แต่สุดท้ายก็เป็น คัมปะกุ หรือผู้สำเร็จ

ราชการแทนจักรพรรดิ)  โชกุนแต่ละคนที่ขึ้นมาก็ต้องปกครองและผ่านสงครามกัน

มาทั้งสิ้นหรือไม่ก็ต้องมีเสียงสนับสนุนจากไดเมียวอื่นๆ ซึ่งประกอบรวมตัวกันเรียกว่า

พันธมิตรแบบ ชินปังที่ปกครองโดยไดเมียวซึ่งเป็นเครือญาติหรือสาขาย่อยของโชกุน 

รวมไปถึง ฟุไดไดเมียว เป็นกลุ่มผู้จงรักภักดีต่อโชกุนในระดับปานกลาง โดยจะเป็น

กลุ่มตระกูลผู้รับใช้มาเก่าก่อนหรือเข้ามาก่อนสงคราม (สงครามในที่นี้ก็คือสงคราม

เพื่ออย่างชิงความเป็นใหญ่ อย่าง สงครามเซกิฮาระ ) อีกพวกคือโทซะมะไดเมียว

ก็คือแคว้นอื่นๆจะให้ปกครองเมืองไกลๆจากฟุไดที่ไม่ใช่พวกเดียวกันหรือเข้ามารวม

ตัวกับรัฐบาลบาคุฟุทีหลัง หรือแพ้สงครามจำยอมเข้าร่วม เจ้าเมืองไดเมียวเหล่านี้

จะต้องเข้ามาอยู่ในเอโดะ (คล้ายๆตัวประกัน ปีเว้นปี โดยมีคะโรคอยดูแลแคว้นให้ใน

ยามที่ตนต้องเข้ามาอยู่ในเอโดะ) มีสิทธิมีเสียงน้อยกว่าพวกฟุไดไดเมียวนั้นทำให้พวก

โทซะมะนั้นต้องการล้มบาคุฟุเพื่อสิทธิและเสียงที่เท่าเทียมกันและถวายคืนอำนาจแก่

องจักรพรรดิเป็นที่มาของ ปฏิรูปเมจิในช่วงท้ายของโชกุนตระกูลโตกุกาวะ ซึ่งเป็น

โชกุนตระกูลสุดท้ายของญี่ปุ่น โชกุนโดยเนื้อแท้ก็คือเหมือนนายกรัฐมนตรีควบผู้บัญชา

การทหารสูงสุดในตำแหน่งเดียวในยุคสมัยนั้นทำการปกครองใช้อำนาจของตนอย่าง

เต็มที่สืบทอดอำนาจผ่านเชื้อสายของตนไม่ทางตรงก็ต้องมีเชื่อสายสาขาย่อยมารับ

ช่วงกันต่อจนกว่าจะมีตระกูลใหม่มีอำนาจมากกว่าหรือการล้มล้างหายไปของโชกุน

ตระกูลนั้นโดยมีผู้อื่นที่มีอำนาจกว่าขึ้นแทน



   ตำแหน่งโชกุนนั้น จะสืบต่อกันทาสายเลือดครับ จนกระทั่งอำนาจในสายตระกูล

เริ่มตกลง ก็จะเข้าช่วงแย่งชิงอำนาจกันใหม่เพื่อขึ้นเป็นใหญ่


   โชกุนคือตำแหน่งผู้อำนาจสูงที่สุด เนื่องจากองค์พระจักรพรรดิ เป็นตำแหน่งเชิง

สัญลักษณ์เท่านั้นเองโชกุนคนสุดท้ายก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองคือ 

โตกุกาวะ โยชิโนบุ