แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิธีหาไอเดียเขียนบทความ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิธีหาไอเดียเขียนบทความ แสดงบทความทั้งหมด

การเขียนบทความกับงานที่ทำ




การเขียนบทความกับงานที่ทำ


    การเขียนบทความกับงานที่ทำ เขี่ยนเกี่ยวกับงานที่ทำเป็นอีกทางเลือกเป็นอีกไอเดีย

หนึ่งของผู้ที่ทำบล็อกหรือเขียนบทความใช้ได้ผลดีมากเพราะสิ่งที่เราเขียนนั้นมาจาก

งานที่เราทำมาจากงานที่ทำบ่อยๆทำจนเชี่ยวชาญ บทความจึงออกมาจากสมองล้วนๆ

ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมันให้มากมายนัก

การเขียนบทความกับงานที่ทำ


  เขียนได้ลื่นปรื้ดเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถเจาะลึก เอาประสบการณ์จากงานมาถ่าย

ทอดให้ผู้อ่านได้อย่างดีอีกด้วย รวมถึงเคล็ดลับ สูตรลับในการทำงานอะไรก็แล้วแต่

ออกมาคุยออกมาแนะนำในเรื่องนั้นๆทำให้บล็อกหรือบทความของคุณดูเจาะลึกและ

โปรมากขึ้นไปอีกแน่นอนการเขียนบทความ จากงานที่ตัวเองทำนั้นยังมีความน่าเชื่อ

ถือที่สุงมากอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นหมอ เขียนบทความเรื่องการรักษาโรค....

การดูแลร่างกาย ย่อมได้รับความน่าเชื่อถือกว่าเด็ก 18 ไปเขียนแน่นอน หรือเซฟร้าน

อาหารโรงแรมเขียนสูตรทำอาหารวิธีทำอาหารสูตรเด็ด ย่อมดีกว่าแม่ค้าออนไลน์เขียน

อย่างนี้เองครับมันเป็นความน่าเชื่อถือของวิชาชีพ นอกจากจะสามารถเขียนได้อย่าง

คล่อง มีเคล็ดเด็ดๆ มีประสบการณ์ให้ผู้อ่านแล้ว ยังมีความน่าเชื่อถือ ต่อยอดทำเงิน

ให้ได้อีกมากมาย ทั้งยังหมดปัญหาการหาไอเดียในการเขียนบทความหาเรื่องที่จะ

เขียนไปได้อีกด้วยเนื่องจากงานที่เราทำนั้นทุกๆเรื่องราวสามารถนำมาเป็นบทความ

ให้แก่ผู้อ่านที่สนใจได้ติดตามกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเราจะนำสเนอให้น่าสนใจแค่ไหน

และเลือกประเด็นไหนเอามานำเสนอรวมถึงกลุ่มเป้าหมายของผู้อ่าน ผู้ชม บทความ

ของคุณว่าต้องการประมาณไหน ตัวอย่างเช่นเซฟ เขียนบทความเรื่องอาหารสุขภาพ

แน่นอนเป้าหมายคือคนรักสุขภาพ หมอเขียนบทความเรื่องการกิน อย่างไรให้ไม่อ้วน

แน่นอนกลุ่มเป้าหมายคือ คนอ้วนหรือคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก การเขียนบทความ

จากงานที่เราทำประจำนั้นมันง่ายตรงที่ เรามีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ แต่

มันไม่ง่ายที่จะจับประเด็นหรือเลือก หัวข้อที่จะเล่นในนบทความให้ผู้คนนั้นสนใจติด

ตามในวิธีเขียน เทคนิคการเขียนบทความ หรือการเลือกประเภทของบทความ ว่า

ต้องการบทความให้ความรู้รอบตัว ของงานที่ทำ บทความวิจารณ์ต่างๆ บทความแนว

วิชาการ เราต้องเลือกรูปแบบที่เหมาะกับเราหรือที่ผู้อ่านต้องการจะอ่านครับไม่งั้น

บทความจะดีอย่างไรแต่ถ้าไม่ตอบโจทย์ไม่น่าสนใจ ก็ไม่มีคนอ่าน




เขียนบทความ สั้น-ยาว (ไม่ต่างกัน)




เขียนบทความ สั้น-ยาว (ไม่ต่างกัน)

การเขียนบทความ เคยมีคนที่ทำบล็อกชอบวิตกกงวลว่า บทความในบล็อกของ

เรานั้นต้องมีมากกว่า 300 คำ หรือ 500 คำกำลังดี การเขียนบทความที่ดีต้องมีคำประมาณ 

300 - 500 คำเพื่อให้ถูกหลัก SEO (เขาว่ามางั้น) ถ้าสั้นเกินไปจะดูไม่ดีจะทำให้เว้บบล็อก

หรือบทความเราด้อยลงไปผมเคยได้ยินเขาพูดกันมาแบบนั้นหลายคนเลยแหละที่พาดหัว

ไปว่าไม่ต่างกันคือมันต่างกันครับ ต่างกันตรงที่ว่า คุณทำบทความให้ใครอ่านกันหละ 

คุณทำให้ search engine อ่าน หรือทำให้คนอ่านกันแน่ครับ แน่นอนครับทำให้โดนใจถูกใจ

search engine นั้นย่อมดีตรงที่คุณจะได้รับการจัดอันดับในหน้าค้นหาต้นๆทำให้คนเข้าเว็บ

คุณเยอะ



  แต่ถ้าบทความคุณไม่ตอบโจทย์ของผู้อ่านหละครับ อย่าลืมนะครับสุดท้ายแล้วความ

สำคัญของเนื้อหาในบทความ หรือ Content นั้นมีผลมากกว่าสิ่งอื่นใดถ้าคุณทำแค่ล่อให้

ได้ประโยชน์ในการจัดอันดับแต่เนื้อหาไม่ตอบโจทย์ผู้อ่านเขาก็แค่เปิดมาแล้วปิดกลับไป

ยิ่งเว็บไหนหลอกดักควาย ชื่อเว็บนั้นจะถูกจดจำไปในทางที่ไม่ดีอีกด้วย บทความยาวๆ

นั้นบางครั้งก็ยาวจนน่ารำคาญ หาสาระสำคัญไม่ได้เลยทำให้หาข้อมูลที่ต้องการได้ยาก

เย็นมากขึ้นในกรณีที่ผู้อ่านต้องการจะหาคำสำคัญแค่ไม่กี่อย่างแค่ต้องการคำตอบของ

เรื่อง เช่น เขาต้องการแค่ว่า แรร์ไอเทม คืออะไร

           คุณอาจจะใช้คำตอบเพื่อขยายความไปประมาณ 150 คำก็พอ เอาให้รู้ว่ามันคือ

อะไร แต่ในเมื่อ 150 คำมันดูไม่ดี (ในความคิดคุณ) คุณเลยลากยาวบทความที่ต้องการ

คำตอบไม่เกิน 3 บรรทัดไปเป็น 300-500 คำซึ่งมันค่อนข้างเกินความจำเป็นผู้อ่านต้อง

มานั่งอ่านสิ่งที่พรรณาลงไปเพื่อหาคำตอบในสิ่งที่ต้องการแค่ 2 บรรทัดเท่านั้น คิดดู

ครับว่าจะเซ็งแค่ไหนบทความสั้นละ แล้วถ้าเรื่องๆนั้นต้องการความเข้าใจในระดับสูงแต่

คุณใช้คำตอบในบทความนั้นแบบสั้นๆ ไม่ได้ช่วยอธิบายสิ่งที่เขาอยากรู้ได้เลยไม่ไขข้อ

สงสัยได้เลยก็ไม่ต่างอะไรกับข้อมุลที่ไร้ประโยชน์เหมือนกัน ประเด็นสำคัญที่ผมจะสื่อ

คือ บทความจะสั้นจะยาวนั้นไม่ได้อยู่ที่ความเชื่อว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่อยู่ที่ประเด็นของ

มันว่าตรงจุด ตอบคำถามคนที่ถามได้มั้ย ตรงประเด็นที่ผู้อ่านต้องการหรือเปล่า นั่นคือ

การจับประเด็นครับ เช่น เมียน้อยของต้วนเจิ้นฉุน มีใครบ้าง -- คุณสามารถตอบได้

หรือไม่


 อย่างน้อยบทความที่เกี่ยวข้องก็ต้องเป็นเกี่ยวกับตัวละครเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า

แต่คุณมีประเด็น เมียทั้งหมดของพี่ต้วนไหม อันนี้อีกเรื่องคำค้นหามีมามายอยู่ที่ว่า

คำตอบของคุณจะครอบคลุมคำค้นหาเหล่านั้นไหม จะตรงประเด้นที่เขาต้องการจะ

ถามหรือเปล่าง่ายๆคือบทความของคุณตอบตรงคำถามของผู้อ่านหรือไม่ ต่อให้คุณ

มี SEO ที่ดี คนเจอหน้าแรกๆแต่คำตอบที่คุณมีในบทความไม่ตอบโจทย์ของผู้อ่าน

เขาก็ปิดทิ้งไปหาอันใหม่อยู่ดี ส่วนบทความไหนตอบโจทย์ของผู้อ่าน นอกจากได้

ความเชื่อมั่นแล้วว่าเขาจะอ่านบทความของเราอย่างจริงจังเพราะต้องการคำตอบ

ผลพลอยได้อาจจะได้แชร์ไปในโซเชี่ยล ได้เอาไปอ้างอิงส่งลิ้งกลับมาจากเว็บบอร์ด

ต่างๆเว้บต่างๆอีกด้วย (ถือเป็นการทำSEO แบบที่เราไม่ต้องออกแรง) หรืออาจจะมี

การบุ๊คมาร์คเว็บคุณไว้เพื่อไว้อ่านข้อมูลเรื่องอื่นทีหลังกลายเป็นลูกค้าประจำของ

บล็อกของเว็บคุณก็ได้ใครจะรู้ เพราะอย่างนี้บทความจะยาวจะสั้นก็อย่าไปใส่ใจมาก

ครับ ใส่ใจแค่ว่าบทความเราตอบตรงคำถามหรือไม่เท่านั้นพอ คำถามมีมากมายแสน

ล้านคำถาม เราเลือกจะตอบคำถามที่มีคนถามเยอะหรือน้อยก็อยู่ที่เราแล้วครับ สำคัญ

คือตอบให้ตรงคำถามเท่านั้นพอและมีวิธีหาไอเดียในการเขียนบทความ มากน้อย

เพียงใด


 ปล. สำหรับผู้ที่ติดโฆษณา บทความที่สั้นมากๆเกินไปก็ไม่เหมาะครับจะโดนข้อหา

เนื้อหาน้อยเกินไป อย่างที่บอกแหละครับถ้าตอบตรงคำถามมันจะต้องมีบทความที่

เนื้อหาทั้งสั้น กลาง และยาวๆคละกันไปแน่นอน จะสั้นหมดคงไม่มี


*คำถามก็คือคำค้นหานั่นแหละครับ เลือกเอาครับว่าคนใช้อินเตอร์เน็ตชอบถามคำถาม

ไหนมากกว่ากัน เราก็แค่ตอบเขาไปให้ตรง และก็เลือกคำถามที่จะตอบได้ตามสบาย

ไม่ว่าคำถามนั้นจะมีคนถามมากหรือคนถามน้อย(คำค้นหามากหรือน้อย) ยังไงก็เป็น

คำถามที่ต้องการให้มีคนตอบอยู่ดี




9 วิธีหาไอเดียเขียนบทความยังไงดี






9 วิธีหาไอเดียเขียนบทความยังไงดี

         
      เคยมั้ยเวลาเขียนบทความลงเว็บไซค์ บล็อกของเราเองนั้นรู้สึกขาดว่าไอเดีย


มันดูจนทางจนมุม ไม่รู้จะเขียนอัลไล เอ้ยอะไรเขียนเรื่องอะไรดี คิดไม่ออก มึน งง


ถ้าใครเป็นวันนี้เรามี 9 วิธีหาไอเดียใน การเขียนบทความ



9 วิธีหาไอเดียเขียนบทความยังไงดี



1. เรื่องที่ชอบ : ง่ายๆเลย เขียนเรื่องที่ตัวเองชอบ ที่กำลังสนใจค้นคว้าหา ข้อมูล

ความรู้รอบตัวในสิ่งที่เรากำลังชอบอยู่


2.ดูทีวี : ดูเลย ในทีวีมันพูดถึงไรกันมั่ง รายการอะไร มีอะไรที่เราจะเอาเห็นว่าดี

เหมาะกับเว็บหรือบล็อกเรา เล่นประเด็นอะไรทำให้เราเกิดไอเดียขึ้นและหาข้อมูล

ในการเขียนบทความ


3.เว็บบอร์ด : คุณเล่นเว็บบอร์ดอะไรมั่ง โดยเฉพาะพันทิป หรือเว็บไอที เว็บเกย์

เว็บเกมทุกบอร์ดจะมีเรื่องที่มีความรู้น่าสนใจอยู่หยิบเรื่องพวกนั้นมาแตกประเด็น

มาทำหัวข้อใหม่ที่แปลกไปจากเดิมก็เป็นได้


4.รักการอ่าน : หาหนังสืออ่านเล่น บางทีท่านอาจจะเห็นอะไรน่าสนใจจาก

หนังสือหรือเรื่องที่เราไม่เข้าใจ นำมาหาข้อมูลฟุ้งได้อีกเยอะเลยทีเดียว


5.งานที่ทำ : บางทีประสบการณ์งานที่เราทำในออฟฟิศ หรือเราเป็นคนสวน

เราก็เอาประสบการณ์เรื่องราวที่เราเจอ ที่เป็นภูมิความรู้ของเราที่ได้ประสบมา

ทุกวันนั้นแหละมาเรียบเรียงเขียนบทความ เป็นไอเดียและบทความที่แปลกใหม่

ไม่เหมือนใคร


6.เรื่องที่ถนัด : เล่นเกมส์เก่งใช่มั้ย ซ่อมรถเก่งงั้นหรือ D.I.Y งานฝีมือขั้นเทพสินะ

งั้นจัดไป เขียนไปเลยใส่ให้เต็มงานที่เราถนัด เรื่องความสามารถเฉพาะตัวที่เรามี

และเป็นประโยชน์นอกเหนือจากงานหลักที่เราทำแล้วนั้น จับมันมาใส่ในบทความ

การเขียนบทความ  เราจะน่าสนใจมากขึ้น


7.แรงบันดาลใจจากเว็บอื่น : บางครั้งเราก็ต้องเข้าไปเล็มๆจากที่อื่นดูบ้างว่า

เขาเขียนเรื่องอะไรไปมั่ง ไม่ได้บอกให้ไปลอก แค่อ่านแล้วดูว่าเขายังขาดอะไร

ในบทความของเว็บอื่นๆ หรือเราจะเล่นประเด็นเรื่องนั้นอย่างไรไม่ให้ คอนเทนท์

(content)ไปซ้ำกับเขาเช่น เขาทำประวัติเรื่องพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชใช่มั้ย

งั้นเราจัดไปเรื่อง ดินแดนที่อเล็กซานเดอร์ครอบครองในยุครุ่งเรือง (นี่ไงได้ละ

ประเด็นอื่นมาเติมและ จับใจความได้แคบกว่าด้วยแตกประเด็นย่อยๆได้เลย)



8.บ่น : คิดไม่ออกงั้นหรือ  แรงบันดาลใจ ดูทีวี เข้าเว็บบอร์ด เรื่องที่ชอบก็ไม่มี

งานที่ทำก็ไม่ได้ ความสามารถพิเศษก็ห่วยแตก ไม่มีอะไรเลยงั้นดิบ่นม่างเลยครับ

จับเอาประเด็นหรือสิ่งที่เราไปพบเจอในวันนั้นหรือ ข่าวต่างๆมาเล่าวิเคราะห์ในแบบ

ของเรา จับคีย์เวิร์ดหรือคำหลักที่คนสนใจว่าเรื่องไหนที่คนน่าจะสนใจมั่งแล้วเอา

มาเขียนออกแนวเรียงความที่มีวิจารณญาณ วิชาการ อ่านเข้าใจง่ายไม่น่าเบื่อ

แค่นี้ชิวๆครับผมสำหรับไอเดียในการเขียนบทความ



 .*. จำไว้ว่า เราไม่มีวันจะหมดมุกในการเขียนบทความ

                                                                     ตราบใดที่สมองเรายังไม่ตาย