แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาณาจักรใหญ่ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาณาจักรใหญ่ แสดงบทความทั้งหมด

อาณาจักรใหญ่ในอดีต ทำไมถึงล่มสลายลง





การล่มสลายของอาณาจักรใหญ่ในอดีต

 เคยสงสัยหรือตั้งข้อสังเกตุกันไหมครับว่า อาณาจักรใหญ่ๆในอดีต อาณาจักร จักรวรรดิ

ที่รุ่งเรื่องสุดชีดทั้งเศณษฐกิจ การเมืองการปกครอง การทหารและอาณาเขตที่กว้าง

ใหญ่ทำไมถึง มีอันต้องล่มสลายลง บางแห่งสิ้นชาติ บางที่แตกเป็นอาณาจักรเล็กๆ 

บางที่ก็โดนกลืนวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ รวมถึงศาสนา บางแห่งก็กลายเป็นเมืองร้าง

ไปเลย เพราะอะไร วันนี้เราจะมาลองตั้งข้อสังเกตุและหาข้อสรุปคำตอบเป็นข้อๆกันว่า

ทำไม อาณาจักรใหญ่ๆที่ดูยิ่งใหญ่แข็งแกร่งถึงล่มสลายลงไปอย่างง่ายดายหรือหายไป

จนไม่เหลือความยิ่งใหญ่ ไม่มีความมั่นคงสืบมาถึงปัจจุบัน

การล่มสลายของ จักรวรรดิอาณาจักรโรมัน

1. อาณาจักรใหญ่เกินไป : จนดูแลไม่ทั่วถึงกระจายอำนาจไปไม่ทั่วถึง อำนาจ

กระจุกตัวอยู่แค่เฉพาะศูนย์กลาง ความเจริญในแถบรอบนอกไม่ค่อยมีความใกล้ชิด

ของอำนาจรัฐกับประชาชน ชนชั้นปกครองห่างไกล ซ้ำยังป้องกันดูแลได้ยากเวลา

เกิดการโจมตีจากชนเผ่าหรือกลุ่มเมืองรอบด้านนอกอาณาจักรทำให้ดินแดนแถบนอก

ไม่ค่อยจะอยู่สงบซักเท่าไหร่จะเห็นได้จากอาณาจักรโรมันในช่วงท้ายที่ต้องแยกการ

ปกครองเป็น 2 ส่วน คือโรมันตะวันออก และ โรมันตะวันตกไม่นานโรมันตะวันตกก็

ทนการรุกรานจากชนเผ่าเยอรมันหรือจะเป็นพวกวิซิกอทนำโดย พระเจ้าอลาริค

(Alaric) ต่อมาโอโดอาเซอร์ จากเผ่าเยอรมันโจมตีกรุงโรมและปลดจักรพรรดิองค์

สุดท้ายแห่งฝั่งตะวันตก คือ จักรพรรดิโรมุลุส ออกุสตุส  โรมันตะวันตกล่มสลาย


2. จักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ล้วนล่มสลายจากภายใน : การแสวงหาผลประโยชน์ของ

ขุนนาง การแย่งชิงอำนาจของชนชั้นสูง การตัดตอนอำนาจกันแย่งชิงแก่งแย่งชิง

ดู แบบอาณาจักรอยุธยาตอนปลายก่อนจะเสียกรุงครั้งที่ 2 ที่การหารไม่มั่นคง คนดี

มีฝีมือถูกเก็บเรียบหนีบ้าง ตายบ้างเพราะการแย่งชิงอำนาจของเจ้านายสมัยนั้น

ทำให้อาณาจักรอ่อนแอขาดคนมีฝีมือเป็นอย่างมาก หรือ

การล่มสลายของอาณาจักรออตโตมัน ก็มีส่วนหนึ่งมาจากปัญหาภายในเล่นพรรคเล่น

พวก การเล่นพรรคเล่นพวกตัวเองกีดกันผู้มีความสามารถเอาพวกตัวเองเป็นใหญ่ก็

เป็นอีก 1 ปัญหาสำคัญของ จักรวรรดิออตโตมัน


3. การมาของผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่า : อย่างการเสียดินแดนของ อาณาจักรสยามให้แก่

ผู้ล่าอาณานิคมที่ยิ่งใหญ่กว่า แข็งแกร่งกว่าทันสมัยกว่าอย่าง ฝรั่งเศสและอังกฤษ

และในช่วงของ การเสียกรุงศรี ครั้งแรกที่เสียให้ผู้ที่มีฉายาว่าผู้ชนะสิบทิศ มีกองทัพ

ยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่สุดใน อุษาคเนย์แห่งนี้หรือการที่อาณาไบแซนไทน์จักรวรรดิ

ไบแซนไทน์ซึ่งอยู่ได้มานานถึง 1พันปีต่อจากการล่มสลายของอาณาจักรแฝดอย่าง

โรมันตะวัตก แต่ก็ถูก เติร์กออตโตมันที่เรืองอำนาจในสมัยนั้นบุกทำลายจนล่มสลายลง


4. ปัญหาเศรษฐกิจ : ชีวิตความเป็นอยู่ เพราะอาณาจักรใหญ่ในสมัยก่อนนั้น รวม

เอาหลายๆ อาณาจักรเล็กๆ เข้ามาไว้ด้วยกันเป็นจักรวรรดิ มีหลายเชื่อชาติหลายวิถี

ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมีความเป็นอยู่ที่ดี มีกินก็ไม่ค่อยมีปัญหาแต่ถ้าผ่านไปแล้วไม่

สามารถดำรงความเป็นอยู่ ที่ดีได้ นั่นก็เป็นอีกสาเหตุที่เมืองเล็กเมืองน้อยจะแยกตัว

ออกไปแล้วถ้าคุมไม่อยู่ก็จะไปเรื่อยๆจนเหลือแต่อาณาจักร กลางเล็กๆที่เป็นศูนย์

อำนาจแค่นั้น


หน้าถัดไป >> การล่มสลายของอาณาจักใหญ่ในอดีต 2


อาณาจักรใหญ่ในอดีต ทำไมถึงล่มสลายลง มีต่อหน้าถัดไปข้อที่ 5 ตามกันต่อจ้า




การล่มสลายของอาณาจักรใหญ่ในอดีต 2




การล่มสลายของอาณาจักรใหญ่ในอดีต


   จากหน้าที่แล้วพูดถึงถาคแรกไป 4ข้อ คือ 

                                            " อาณาจักรใหญ่ในอดีต ทำไมถึงล่มสลายลง " 

มาหน้านี้ก็มาพูด่อกันที่ข้อ 5 กันเลยครับ


5. เส้นทางการค้า : ถ้าเมืองไหนมีเส้นทางการค้าหลักผ่านจะทำให้สามารถมีรายได้

ขยายอาณาจักรไปได้ใหญ่โต มีอำนาจทางการต่อรองแต่ก็เป็นดาบ 2 คน ที่หลายๆ

อาณาจักรก้ต้องการครอบครองอาจจะต้องเผชิญสงครามจนไม่สงบสุข หรือการที่

เส้นทางการค้าถูกเปลี่ยนไปทำให้เศรษฐกิจซบเซาเหมือนนครเปตราหุบเขาที่ตั้งอยู่

ระหว่างทะเลสาบเดดซีกับทะเลอัคบาในประเทศจอร์แดน นครนี้แต่เดิมนั้นเป็นนคร

แห่งการค้าขนาดใหญ่ซึ่งต่อมาถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี เพราะในยุคที่เสื่อม

อำนาจนั้น มีเมืองใหม่และเส้นทางการค้าใหม่ที่สะดวกและปลอดภัยกว่าทำให้

บทบาทและอำนาจของ เปตราลดน้อยลงและอ่อนแอลงจนถูกโจมตีในที่สุด


6. การต่อต้าน : เนื่องจากดินแดนที่ยึดมาได้นั้นไม่ใช่คนในพวกเดียวกันไปยึดเขา

มักจะถูกต่อต้าน จากการทำงานใต้ดินแอบทำ บ่อนทำลายหรือหาช่องทางจะเป็น

เอกราชอย่างเช่น อยุธยาหาทางปลดแอกจาก พม่า หรือ สมัยที่เสียมะริด ทวาย 

ตะนาวศรี เพราะกรมการเมืองในพื้นที่ยังฝักใฝ่ในทางพม่าทำให้ทหารคนของไทย

ลำบากโดนไส้ศึก โดนลอบกัดจนไม่สามารถปกป้องเมืองหรือดูแลเมืองไว้ได้

จักรพรรดิ ราชวงศ์ถัง
จักรพรรดิถังไท่จง : หรือหลี่ซื่อหมิน

7. อำนาจภายใน : ยกตัวอย่างเช่น สมัยราชวงศ์ถัง ยุคของฮ่องเต้หลี่ซื่อหมิน

หรือ จักรพรรดิถังไท่จงสามารถรวบรวมดินแดนแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่น บ้านเมือง

มั่นคงการปกครองเป็นไปอย่างดี จนต่อมาไปถึงยุคของ จักรพรรดิถังเสฺวียนจง

จักรพรรดิองค์ที่ 9 ของราชวงศ์ถัง ไปหลงเสน่ห์ หยางกุ้ยเฟย 1 ใน 4 หญิงงาม

แห่งแผ่นดินจีนเข้าทำให้ไม่ออกว่าราชการลุ่มหลงมัวเมาไม่ทรงปฏิบัติงานราชกิจ

อะไรเลย ตั้งคนสนิทญาติพี่น้องของสนม คนนี้เข้ามาทำงานสำคัญ ทุจริตคอรัปชั่น

จนบ้านเมืองอ่อนแอขุนนางดีๆอยู่ไม่ได้ จนโดนขับไล่จนต้องหนีออกจากวังหลวง

นับจากสมัยของพระองค์ก็เข้าสู่ความตกต่ำของราชวงศ์ถึงไปเรื่อยๆ ยุคหลังต่อมา

อำนาจต่างๆก็ตกอยู่ในมือขันทีบ้าง (ซะเป็นส่วนใหญ่ ) หรือจะเป็นใรช่วงที่ผู้หญิง

เป็นใหญ่อย่าง จักรพรรดินีองค์แรกของจีน พระนางบูเช็คเทียนที่ครองราชย์

สถาปนาราชวงศ์โจว ก่อนหน้า จักรพรรดิถังเสฺวียนจงจนต่อมาในช่วงท้ายของ

ราชวงศ์ สมัยจักรพรรดิถังซีจงราชวงศ์ถังอ่อนแอเป็นอย่างมากโดนกบฏหวงเฉา

ลุกฮือ แต่ได้จูเหวียนจงคอยกำจัดให้ ทำให้เขามีอำนาจมากขึ้นต่อมาในสมัย

จักรพรรดิถังเจาจง จูเหวียนจง ก็ยังคงมีอำนาจอยู่ในราชสำนัก พระองค์จึงยืมมือ

จูเหวียนจง กำจัดขันทีที่ยังมีอำนาจมากตลอดในช่วงยุคหลังมาทำให้การคาน

อำนาจของทั้ง ขันทีและ จูเหวียนจง หมดไป เขามีอำนาจเต็ม จูเหวียนจง

จึงสังหารฮ่องเต้ แล้วตั้งจักรพรรดิถังไอหรือจักรพรรดิไอตี้ ให้ขึ้นมาครองราชย์แทน

ในวัยเพียงแค่ 13 พรรษา เป็นหุ่นเชิดให้เขา ต่อมาจักรพรรดิไอตี้ ก็โดนปลด เมื่อ

พระชนม์เพียง 16 พรรษา จูเหวียนจงได้ตั้งราชวงศ์โฮ่วเหลียง หมดยุคราชวงศ์ถัง

ไปโดยปริยาย


หน้าถัดไป >> การล่มสลายของอาณาจักรใหญ่ในอดีต 3


การล่มสลายของอาณาจักรใหญ่ในอดีตอาณาจักรใหญ่ในอดีต ทำไมถึงล่มสลายลง

มีต่อหน้าที่ 3 ครับลองไปชมกันต่อเลย




การล่มสลายของอาณาจักรใหญ่ในอดีต 3




การล่มสลายของอาณาจักรใหญ่ในอดีต

  หน้าที่แล้วพูดไป ถึง7 ข้อมาหน้านี้มาดูกันต่อที่ข้อที่ 8

                       ลิ้งหน้าที่แล้ว >> การล่มสลายของอาณาจักใหญ่ในอดีต 2

มาดูกันต่อที่ข้อ 8 เลยครับ การล่มสลายของอาณาจักรใหญ่ในอดีต

8. วัฒนธรรม ขูดรีดและคอรัปชั่น : ในกรณีนี้จะยกตัวอย่างอินเดียในการปกครอง

ของอังกฤษ โดยบริษัทอีสต์อินเดีย ในช่วงแรกก็ไปในเน้นในทางการค้าจนเริ่มเข้าสู่

การแทรกแซงทางการเมืองกลายเป็นมีอำนาจในบางเขต สามารถเก็บภาษีและปกครอง

ในบางท้องที่ของอินเดีย จนต่อมาอีสต์อินเดียก็เริ่มแสดงตัวอย่างชัดเจนที่จะครองครอง

อินเดีย มีการรบแย่งชิงดินแดนเกิดขึ้นได้อาณาเขตในอินเดียมาอย่างมากมายจนกลาย

เป็นว่าอินเดียมีอำนาจครอบคลุมอินเดียไปเสียแล้ว สร้างความแข็งแกร่งให้กับจักรวรรดิ

อังกฤษเป็นอย่างมากเพราะในช่วงแรกที่ครองอินเดียได้อังกฤษแทบจะไม่ยุ่งอะไร

เกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมของชาวอินเดียในแต่ละพื้นที่เลย สนใจแค่

เก็บเกี่ยวแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเองแค่นั้นพอจนต่อมาในรุ่นใหม่อังกฤษเริ่มมีการ

เปลี่ยนท่าที เช่นห้ามทำตามวัฒนธรรมที่แลดูป่าเถื่อน (แต่เป็นลัทธิความเชื่อของ

ชนพื้นถิ่นมาก่อน) พิธีกรรมอะไรที่มีความป่าเถื่อนอังกฤษสั่งห้ามไปซะหมด

พยายามเปลี่ยนชาวอินเดียให้ไปนับถือศาสนาคริสต์ ปัญหาเรื่องวรรณะ ที่เป็นเรื่อง

ละเอียดอ่อนซึ่งอังกฤษมองข้ามไป รวมถึงการไปมีปัญหากับบรรดาองค์ชายที่มี

ดินแดนอยู่ไม่ได้อยู่ภายใต้ของอังกฤษแต่อังกฤษก็ไปรวบเอาดินแดนเขามาปกครอง

หนำซ้ำยังพยายามขูดรีดภาษี หาค่าใช้จ่ายให้ต้องจ่ายบ้างเพื่อลดทอนกำลังของ

อำนาจในแต่ละเมืองที่ยังแข็งข้อ รวมไปถึงการใช้อำนาจทหารอยู่ในที่ต่างวรรณะ

กันมาปกคองการจ่ายเงินเดือนที่ไม่เป็นเหล่านี้ทำให้ อีสต์อินเดียเจอความยุ่งยาก

ถึงขนาดก่อกบฏ เกิดการจลาจล ปล่อยนักโทษแหกคุกจนอังกฤษต้องเข้ามา

ควบคุมจัดการด้วยตัวเองหรือเรื่องชาวแอชแทค (แม็กซิโก) ที่โดน

        เฮอร์นัน คอร์เตช พิชิตได้แต่เขาเลือกที่จะปกครองโดยให้กษัตริย์

ครองราชย์อยู่และตนเป็นคนกำกับดูแลอีกทีนึง ไม่เข้าไปทำลายวิถีชีวิตของชาว

บ้านใครเคยทำอะไรก็ไปทำอย่างนั้น และค่อยๆเอาวัฒนธรรมรวมถึงศาสนาเข้าไป

ซึบซับทีละนิดมากกว่าที่จะห้ามหรือบังคับ แต่ด้วยเหตุที่ว่าลูกน้องของเขานั้นขูดรีด

เอาเปรียบชาวบ้านจึงทำให้โดนประชาชนต่อต้าน เกิดเรื่องจนประชาชนไม่พอใจฆ่า

กษัตริย์ของตนตาย ทำให้คอร์เตซไม่สามารถปกครองได้อย่างสงบจนต้องใช้กำลัง

จนต้องถอนตัวออกมาและเข้าไปรบใหม่สามารถยึดเมืองไว้ได้ หลังจากยึดครองได้

เขาก็ไม่ทำซ้ำรอบเก่าเขาปล่อยให้วิถีชีวิตชาวบ้านเป็นไปอย่างเดิมและรับสินค้า

แทนภาษีไม่มีการขูดรีดแต่ต่อมาก็เหมือนเดิมรับเงินทุจริตเข้ากระเป๋าจนกษัตริย์

สเปนต้องปลดเขาและส่งคนใหม่เข้ามาแทน แต่คนใหม่ก็เหมือนเดิมประชาชนรับ

บทหนักไปเสียไม่น้อยกับการโดนขูดรีด (ทั้ง 2 ตัวอย่างที่ยกมาแม้ไม่สามารถลุก

ฮือจนแยกตัวออกมาปลดแอกตัวเองได้ แต่ก็สร้างความยุ่งยากให้ไม่น้อย)ถ้าทำ

แบบนี้พร้อมๆกันหลายๆเขตที่ปกครองหรือยึกมา คิดว่าเจ้าของอาณานิคม

จักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลายคงเอาตัวไม่รอดเช่นกัน


9. ผู้ปกครองห่วย : ไม่สนใจงานบริหาร ไม่สนใจประชาชน ทำให้ประชาชน

เดือดร้อนไม่แก้ปัญหาบ้านเมืองปล่อยให้ขุนนางโกงกินขูดรีดการบริหารงานปกครอง

ที่ไม่มีประสิทธิภาพไม่มีอำนาจสั่งการ ทำให้เกิดการก่อกบฏเหมือนที่ หลี่ จื้อเฉิง

ก่อกบฏขึ้นในปลายยุคราชวงศ์หมิง จนได้รับฉายาว่า "กษัตริย์ผู้กล้า" ทั้ง ๆ ที่ไม่

ใช่เป็นกษัตริย์ เป็นกบฏชาวนา ที่ไม่พอใจต่อการบริหารบ้านเมืองของทางการ

จนสามารถบุกยึดเมืองหลวงแต่ก็บริหารบ้านเมืองไม่เป็นจัดการไม่ได้ ประกอบกับ

ทาง อู๋ ซานกุ้ย ไม่ต้องการรับคำสั่งของ หลี่ จื้อเฉิง เพราะอู๋ ซานกุ้ยเป็นขุนนางหมิง

มาก่อน ซ้ำหลี่ จื้อเฉิงยังส่งคนมาทวงทหารคืนเมื่อเขารู้เช่นนั้นจึงร่วมมือกับกองทัพ

แมนจูนอกด่าน เปิดด่านซันไห่กวน ที่แมนจู(ศัตรูของหมิง) เข้ามาจัดการ หลี่จื้อเฉิง

ทำให้ต้องแตกหนี และราชวงศ์หมิงของชาวฮั่นก็สิ้นสุดลง กลายมาเป็นปกครอง

โดยชาวแมนยู เอ้ย แมนจู และละสถาปนาราชวงศ์ชิงขึ้นมาในที่สุด


10. ทหารห่วย : รั้วของชาติผู้ป้องกัน และดูแลความสงบสุขของอาณาจักร เมื่อ

อ่อนแอก็ไม่สามารถทำอะไรได้สู้ใครก็ไม่ได้ แต่สาเหตุของเรื่องนี้มีหลายสาเหตุ เช่น

แม่ทัพอ่อนแอ บุคลากรไร้ความสามารถผู้ปกครองไม่ใส่ใจไม่ดูแล (แบบราชวงศ์ซอง

ของจีน) หรือสมัยอยุธยาของไทยเราก็มีความอ่อนแอในบางช่วงหรือมาจากการ

ผลาญเงินไปในทางอื่นจนไม่มีงบในการดูแลทหาร การแตกสามัคคีกันของเหล่า

บรรดาขุนนาง ขัดขากันเองของชนชั้นปกครอง (เด็กใครเด็กมัน)คนมีฝีมือไม่ได้ทำงาน

 ออกแนว คุณค่าของคนอยู่ที่คนของใครเสียมากกว่า


** จากที่สังเกตุแต่ละหัวข้อนั้น ส่วนใหญ่นั้นมีปัญหาจากภายในหรือทำตัวเองแทบ

ทั้งนั้น อาณาจักรใหญ่ถ้าปกครองอย่างเข้มแข็ง มีระบบลดปัญหาซึ่งเป็นปัจจัยภาย

ในออกไป ยากนักที่จะเสียดินแดน อาณาจักรหรือจักรวรรดิใหญ่ๆนั้น ย่อมจัดการ

บริหารดินแดนและปกครองลำบากอยู่แล้วยิ่งถ้าผู้รุกรานเข้มแข็งยิ่งบากต่อการดูแล

จำต้องกำจัดปัญหาภายในทำกองทัพให้เข้มแข้งประชาชนอยู่ดีไม่มีกบฏ ด้วยเหตุผล

ที่ว่ามาแล้วสุดท้ายก็จบลงที่มันเป็นไปตามกาลเวลาเป็นธรรมดาของดลก สิ่งไหนที่

พุ่งไปสู่จุดสูงสุดย่อมมีวันที่ต้องตกลงมา เจริญสุดก็ย่อมมีความเสื่อมถอยเป็นธรรมดา

อาณาจักรอยุธยาเป็นดินแดนแผ่นดินทองเมืองท่าสำคัญค้าๆขายๆอยู่มาถึง 417 ปีก็

ยังต้องแตกสลายไปเพราะการทหารที่อ่อนแอคนมีฝีมือมีน้อยเน้นค้าขายมากกว่า

ป้องกันจักรวรรดิไบแซนไทน์เจริญถึงขีดสุดขนาดเมืองแฝดอย่างโรมันตะวันตกล่ม

สลายไปแล้วอาณาจักรโรมันตะวันออกที่มีเมืองหลวงอยู่ที่กรุง คอนสแตนติโนเปิล

ซึ่งตอนหลังรู้จักกันในชื่อ อาณาจักรไบแซนไทน์ก็ยังอยู่มาได้ต่ออีก 1000กว่าปี

และความเจริญรุ่งเรืองทั้งการค้าการเมือง และดินแดนที่กว้างใหญ่นั้นก็มีทั้งศึกใน

อาณาจักรเองและจากพวกเติร์กข้างนอก อย่างออตโตมัน อีกทำให้ต้องล่มสลายไป

ออตโตมันล่มสลายไปในคราวต่อมา หลังจากได้ชื่อว่าเป็นผู้ป่วยของยุโรป หรือจะ

เป็นกรีกที่เป็นนครรัฐรวมตัวกันยิ่งใหญ่มาจากยุคของอเล็กซานเดอร์  มองโกลของ

เจงกิสข่านที่รุ่นหลังก็แยกแผ่นดินกันบริหาร ฝรั่งเศสของนโปเลียนก็ด้วยเฃ่นกันที่

เคยครองยุโรปกลับต้องมาเฉือนดินแดนแบ่งให้ชาติอื่นไป หรืออีกหลายๆที่ มักไม่

ยั่งยืนล้วนแปรเปลี่ยนตามกาลเวลาตามปัจจัยที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ใครจะรู้ต่อไป

อเมริกาอาจจะไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกเหมือนปัจจุบันนี้ อาจจะเป็นไทยก็ไดที่ขึ้นมา

เหนือกว่าทุกชาติ ทุกอย่างล้วนไม่แน่นอน (แหม่)