แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ล่าอาณานิคม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ล่าอาณานิคม แสดงบทความทั้งหมด

รายชื่อดินแดนปกครองตนเอง(และในอารักขา) ทั่วโลก



รายชื่อดินแดนปกครองตนเองและรัฐในอารักขา

บางดินแดนก็อยู่มาตั้งแต่ช่วงล่าอาณานิคม อารมณ์เดียวกับยุคนั้น และเป็น่สวนนึง

ของมหาอำนาจจนปัจจุบันไม่สามารถเรียกร้องอิสระเอกราชได้เพราะข้อต่อรองและ 

ความได้เปรียบมีอยู่น้อย ส่วนใหญ่เป็นพวกหมู่เกาะที่ไม่ค่อยเจริญหรือมีคนน้อยและ

ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ หรือเป็นเขตแดนเก่าๆของมหาอำนาจบางที่มีการอ้างสิทธิ์

ในดินแดนมากกว่า 1 ประเทศด้วยซ้ำ อังกฤษซึ่งชื่อว่าดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน 

ก็ยังมีดินแดนในการปกครองอยู่เยอะ หรือแม้กะรทั่งฝรั่งเศสก็มีเขตโพ้นทะเล อเมริกา

ก็คุมหมู่เกาะทั่วโลก และประเทศในยุโรปที่อ้างสิทธิ์ อีกมากมายนอกอาณาเขตตัวเอง


1. Greenland : กรีนแลนด์  ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก  ตั้งอยู่ในมหาสมุทร

อาร์กติกและเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก


2. Guam : กวม ดินแดนของสหรัฐอเมริกา เกาะหนึ่งในมหาสมุทรแปซิฟิก


3. Guadeloupe : กัวเดอลุป แคว้นและจังหวัดโพ้นทะเลของฝรั่งเศส อยู่ทาง

ทิศตะวันออกของทะเลแคริบเบียน


4. Curacao : กือราเซา ดินแดนปกครองตนเองของเนเธอร์แลนด์ อยู่ทางตอนใต้ของ

ทะเลแคริบเบียน


5. Clipperton Island : เกาะกลีแปร์ตอน ดินแดนของฝรั่งเศส ตะวันออกของ

มหาสมุทรแปซิฟิก


6. Christmas Island : เกาะคริสต์มาส ดินแดนของออสเตรเลีย  เป็นเกาะเล็ก ๆ ใน

มหาสมุทรอินเดีย


7. South Georgia and the South Sandwich Islands : เกาะเซาท์จอร์เจียและ

หมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช  ดินแดนของสหราชอาณาจักรที่อาร์เจนตินาอ้างสิทธิ์

ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้


8. Norfolk Island : เกาะนอร์ฟอล์ก ดินแดนของออสเตรเลีย ในมหาสมุทรแปซิฟิก

ตอนใต้ อยู่ระหว่าง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และนิวแคลิโดเนีย


9. Navassa Island : เกาะนาแวสซา ดินแดนของสหรัฐอเมริกาที่เฮติอ้างสิทธิ์

เป็นเกาะร้างขนาดเล็กในทะเลแคริบเบียน


10. Bouvet Island : เกาะบูแว ดินแดนของนอร์เวย์ อยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก

ตอนใต้


11. Baker Island : เกาะเบเกอร์ ดินแดนของสหรัฐอเมริกา เป็นเกาะทางมหาสมุทร

แปซิฟิกตอนเหนือ


12. Peter I Island : เกาะปีเตอร์ที่ 1 ดินแดนในทวีปแอนตาร์กติกาที่นอร์เวย์อ้างสิทธิ์

อยู่ใกล้กับชายฝั่งทวีปแอนตาร์กติกา


13. Isle of Man :  เกาะแมน ดินแดนของสหราชอาณาจักร เป็นดินแดนอาณานิคม

ปกครองตนเองของสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ในเขตทะเลไอริช


14. Wake Island : เกาะเวก ดินแดนของสหรัฐอเมริกาที่หมู่เกาะมาร์แชลล์อ้างสิทธิ์

ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ


15. Howland Island : เกาะฮาวแลนด์ ดินแดนของสหรัฐอเมริกา อยู่ในเขตมหาสมุทร

แปซิฟิกตอนเหนือ


16. Heard and McDonald Islands : เกาะเฮิร์ดและหมู่เกาะแมกดอนัลด์ ดินแดนของ

ออสเตรเลีย ตั้งอยู่ใกล้กับแอนตาร์กติก


17. Guernsey : เกิร์นซีย์ ดินแดนของสหราชอาณาจักร เป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะ

แชนเนลในช่องแคบอังกฤษ


18. Queen Maud Land : ควีนมอดแลนด์ ดินแดนในทวีปแอนตาร์กติกาที่นอร์เวย์

อ้างสิทธิ์ เป็นส่วนหนึ่งของทวีปแอนตาร์กติกาที่นอร์เวย์อ้างกรรมสิทธิ์


19. Kingman Reef : คิงแมนรีฟ ดินแดนของสหรัฐอเมริกา เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทร

แปซิฟิกตอนเหนือ อยู่ระหว่างอเมริกันซามัวและรัฐฮาวาย


20. Johnston Atoll : จอห์นสตันอะทอลล์ ดินแดนของสหรัฐอเมริกา หมู่เกาะใน

มหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ


21. Jersey : เจอร์ซีย์ เป็นดินแดนอาณานิคมปกครองตนเองของสหราชอาณาจักร

เป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะแชนเนลในช่องแคบอังกฤษ


22. Chilean Antarctic Territory : ชิเลียนแอนตาร์กติกเทร์ริทอรี ป็นดินแดนในทวีป

แอนตาร์กติกาที่ประเทศชิลีอ้างสิทธิ์ครอบครอง แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ


23. Sint Maarten : ซินต์มาร์เติน เป็นประเทศองค์ประกอบ (constituent country)

แห่งหนึ่งภายในราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ มีพื้นที่ครอบคลุมเฉพาะตอนใต้ของ

เกาะเซนต์มาร์ตินในทะเลแคริบเบียน


24. Saint Helena, Ascension,and Tristan da Cunha : เซนต์เฮเลนา อัสเซนชันและ

ตริสตันดากูนยา  เป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรในมหาสมุทรแอตแลนติก

ตอนใต้


25. Serranilla Bank : เซร์รานียาแบงก์ เป็นเกาะของประเทศโคลอมเบีย ตั้งอยู่ใน

ทะเลแคริบเบียน  ดินแดนที่โคลอมเบีย ฮอนดูรัส นิการากัว และสหรัฐอเมริกาต่าง

อ้างสิทธิ์


26. Ceuta : เซวตา เป็นดินแดนส่วนแยกของประเทศสเปนในแอฟริกาเหนือ ตั้งอยู่

ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นครปกครองตนเองของสเปนที่โมร็อกโกอ้างสิทธิ์


27. Saint-Pierre and Miquelon : แซ็งปีแยร์และมีเกอลง เขตชุมชนโพ้นทะเลของ

ฝรั่งเศส อยู่ทางตอนใต้ของรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ ประเทศแคนาดา


28. Saint-Barthelemy : แซ็ง-บาร์เตเลมี เขตชุมชนโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส

ตั้งอยู่ในหมู่เกาะลีเวิร์ดในทะเลแคริบเบียน


29. Saint-Martin : เกาะเซนต์มาร์ติน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลแคริบเบียน

เขตชุมชนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส


30. Tokelau :  เป็นเขตการปกครองตนเองกึ่งอาณานิคมของนิวซีแลนด์ ในมหาสมุทร

แปซิฟิกตอนใต้ โตเกเลาเคยมีชื่อเดิมว่า หมู่เกาะยูเนียน (Union Islands)


31. Taiwan : ไต้หวัน ดินแดนที่จีนและไต้หวัน (สาธารณรัฐจีน) ต่างอ้างสิทธิ์


32. Nagorno-Karabakh : นากอร์โน-คาราบัค ดินแดนที่อาเซอร์ไบจานและนากอร์โน-

คาราบัคต่างอ้างสิทธิ์


33. New Caledonia : นิวแคลิโดเนีย เขตชุมชนรูปแบบพิเศษของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ใน

ภูมิภาคเมลานีเซียในมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกเฉียงใต้


34. Niue : นีอูเอ อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ดินแดนปกครองตนเองของนิวซีแลนด์


35. British Indian Ocean Territory : บริติชอินเดียนโอเชียนเทร์ริทอรี  ดินแดน

ของสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย


36. British Antarctic Territory : บริติชแอนตาร์กติกเทร์ริทอรี พื้นที่ส่วนหนึ่งของ

ทวีปแอนตาร์กติกาซึ่งสหราชอาณาจักรประกาศอ้างสิทธิครอบครอง


37. Bermuda : เบอร์มิวดา เป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรในมหาสมุทร

แอตแลนติก


38. Bajo Nuevo Bank : บาโฮนวยโวแบงก์ เกาะของประเทศโคลอมเบีย ตั้งอยู่ใน

ทะเลแคริบเบียน บาโฮนวยโวแบงก์เป็นเกาะที่มีข้อพิพาททางการปกครอง โดยที่นี่

เป็นดินแดนที่โคลอมเบีย จาเมกา นิการากัว และสหรัฐอเมริกาต่างอ้างสิทธิ์


39. Puerto Rico : เปอร์โตริโก เครือรัฐเปอร์โตริโก เป็นเครือรัฐของสหรัฐอเมริกา

ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสาธารณรัฐโดมินิกัน


40. Palmyra Atoll : แพลไมราอะทอลล์ เกาะอยู่ทางมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ

ดินแดนของสหรัฐอเมริกา


41. French Guiana : เฟรนช์เกียนา เป็นจังหวัดโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส

ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางเหนือของทวีปอเมริกาใต้


42. French Southern and Antarctic Lands : เฟรนช์เซาเทิร์นและแอนตาร์กติกแลนส์

ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสรวมกับดินแดนในทวีปแอนตาร์กติกา


43. French Polynesia : เฟรนช์โปลินีเซีย ดินแดนของฝรั่งเศสในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้

เขตชุมชนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส


44. Montserrat : มอนต์เซอร์รัต ดินแดนของสหราชอาณาจักร เป็นดินแดนโพ้นทะเล

อังกฤษในทะเลแคริบเบียน


45. Madeira : มาเดรา เป็นหมู่เกาะของประเทศโปรตุเกส ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ

ของมหาสมุทรแอตแลนติก


46. Mayotte : มายอต เป็นจังหวัดโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางเหนือ

ของช่องแคบโมซัมบิกในมหาสมุทรอินเดีย


47. Martinique : มาร์ตีนิก  เกาะทางตะวันออกของทะเลแคริบเบียน ในหมู่เกาะวินด์เวิร์ด เป็นจังหวัดโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส


48. Midway Atoll : มิดเวย์อะทอลล์ ตั้งอยู่มหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ อยู่ห่างจาก

ซานฟรานซิสโก ดินแดนของสหรัฐอเมริกา


49. Melilla : เมลียา  เป็นเมืองหนึ่งของประเทศสเปน ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเล

เมดิเตอร์เรเนียนของแอฟริกาเหนือ


50. Jan Mayen : ยานไมเอน  เป็นเกาะในมหาสมุทรอาร์กติก ระหว่างกรีนแลนด์กับ

นอร์เวย์


51. Gibraltar : ยิบรอลตาร์  เป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ใกล้

กับจุดใต้สุดของคาบสมุทรไอบีเรีย


52. Ross Dependency : รอสส์ดีเพนเดนซี เป็นเขตการปกครองในทวีป

แอนตาร์กติกา เป็นเขตที่นิวซีแลนด์อ้างกรรมสิทธิ์


53. Reunion : เรอูว์นียง เป็นเกาะตั้งอยู่บริเวณมหาสมุทรอินเดีย ทางตะวันออกของ

มาดากัสการ์ แคว้นและจังหวัดโพ้นทะเลของฝรั่งเศส


54. Wallis and Futuna : วาลลิสและฟุตูนาอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศส


55. Western Sahara : เวสเทิร์นสะฮารา เป็นดินแดนทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ

ของทวีปแอฟริกา ดินแดนที่โมร็อกโกและสาธารณรัฐประชาธิปไตยอาหรับซาห์ราวี

ต่างอ้างสิทธิ์


56. Svalbard : สฟาลบาร์ เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรอาร์กติก ดินแดนของนอร์เวย์


57. Coral Sea Islands : หมู่เกาะคอรัลซี เป็นหมู่เกาะซึ่งเป็นดินแดนของประเทศ

ออสเตรเลีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ รัฐควีนส์แลนด์


58. Canary Islands : หมู่เกาะคะเนรี เป็นหมู่เกาะของราชอาณาจักรสเปน ประกอบ

ด้วยเกาะภูเขาไฟ 7 เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก


59. Cook Islands : หมู่เกาะคุก เป็นเขตปกครองตนเองของนิวซีแลนด์ ประกอบ

ไปด้วยเกาะเล็ก ๆ 15 เกาะ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้


60. Cayman Islands : หมู่เกาะเคย์แมน เป็นอาณานิคมโพ้นทะเลของสหราช-

อาณาจักรซึ่งตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียนฝั่งตะวันตก


61. Cocos (Keeling) Islands : หมู่เกาะโคโคส (คีลิง) เป็นดินแดนภายใต้การปกครอง

ของออสเตรเลีย


62. Turks and Caicos Islands : หมู่เกาะเติกส์และหมู่เกาะเคคอส เป็นอาณานิคม

โพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร นี้ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน


63. Northern Mariana Islands : หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา หมู่เกาะในมหาสมุทร

แปซิฟิกซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศสหรัฐอเมริกา


64. British Virgin Islands : หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน เป็นดินแดนโพ้นทะเลของ

สหราชอาณาจักร


65. Pitcairn Islands : หมู่เกาะพิตแคร์น เป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร


66. Falkland Islands : หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ดินแดนของสหราชอาณาจักรที่

อาร์เจนตินาอ้างสิทธิ์


67. Faroe Islands : หมู่เกาะแฟโร เป็นหมู่เกาะในทวีปยุโรป ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ

มหาสมุทรแอตแลนติก เป็นเขตการปกครองตนเองของเดนมาร์ก


68. United States Virgin Islands : หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา ในทะเล

แคริบเบียนซึ่งเป็นพื้นที่เกาะของสหรัฐอเมริกา


69. Ashmore and Cartier Islands : เกาะแอชมอร์และเกาะคาร์เทียร์ เป็นดินแดน

ของออสเตรเลีย


70. American Samoa : อเมริกันซามัว เป็นดินแดนของสหรัฐอเมริกา ซามัวและ

อเมริกันซามัวถูกแบ่งแยกโดยส่วนของประเทศซามัว


71. Australian Antarctic Territory : ออสเตรเลียนแอนตาร์กติกเทร์ริทอรี  ดินแดน

ในทวีปแอนตาร์กติกาที่ออสเตรเลียอ้างสิทธิ์


72. Azores : อะโซร์ส เขตปกครองตนเองของโปรตุเกส


73. Argentine Antarctica : อาร์เจนไทน์แอนตาร์กติกา ดินแดนในทวีปแอนตาร์กติกา

ที่อาร์เจนตินาอ้างสิทธิ์


74. Aruba : อารูบา ตั้งอยู่ในหมู่เกาะเลสเซอร์แอนทิลลีสในทะเลแคริบเบียน ดินแดน

ปกครองตนเองของเนเธอร์แลนด์


75. Akrotiri and Dhekelia : แอโครเทียรีและดิเคเลีย ดินแดนของสหราชอาณาจักร


76. Anguilla : แองกวิลลา เป็นอาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรในทะเลแคริบเบียน







ไทยเสียดินแดนให้ชาติใดบ้าง : 2






ไทยเสียดินแดน




  ไทยเสียดินแดนให้ชาติประเทศใดบ้าง หลังจากหน้าแรกเรื่องการเสียดินแดน 

คือ " ไทยเสียดินแดนให้ชาติใดบ้าง : 1 "  หน้านี้เป้นหน้าที่ 2 ต่อจากการเสีย

ดินแดน ให้อังกฤษและพม่า มาหน้านี้จะพูดถึงการเสียดินแดนให้ ฝรั่งเศส และ

ญวน (เวียดนาม) เอาไว้เป็นความรู้รอบตัว ครับ


3. ฝรั่งเศส 

- เขมรส่วนนอกและเกาะ 6 เกาะ : เขมรได้แอบส่งสารลับไปยังฝรั่งเศส โดยขอให้

ฝรั่งเศสนั้นช่วยกู้ดินแดนที่เสียไปให้ญวณ ให้กลับมาอยู่กับฝรั่งเศสจึงได้ส่งกองเรือ

เข้ามาประชิดเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อข่มขุ่ทางฝ่ายสยามหลายครั้งทางไทย

เห็นว่าไม่มีทางจะต่อสู้กับฝรั่งเศสได้ จึงต้องยอมไปเขมรอีกครั้งและมาช่วย

คุ้มครองเขมรให้พ้นจากทั้งอำนาจของสยาม

- สิบสองจุไท (หัวพันห้าทั้งหก) : ฝรั่งเศสอ้างว่ามาช่วยปราบฮ่อและเข้ายึดเมือง

คุมกำลังไว้หน้าตาเฉย จนต้องเจรจาและยอมให้ฝรั่งเศสไปเพื่อหลีกเลี่ยงการ

ปะทะ

- เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (อาณาจักรล้านช้าง หรือประเทศลาว) : 

ฝรั่งเศสอ้างสิทธิว่าลาวเคยเป็นของญวณมาก่อน

(ซึ่งตอนนั้นญวณตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสไปแล้ว) ไทยกับฝรั่งเศสจึงสู้รบกัน

จนเกิดเป็น วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 ทำให้ไทยต้องยอมเมื่อฝรั่งเศสปเอาเรือรบมา

ปิดปากแม่น้ำเจ้าพระยาเอาไว้พร้อมยิงเข้ามาในพระนครสยามจำต้องยอมยก

ดินแดนลาวฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศส และต้องจ่ายเงินค่าเสียหาย

ให้แก่ฝรั่งเศส

-  เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง : หลังจากวิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 ไทยต้องยอม

ฝรั่งเศสและฝรั่งเศสได้ทำการยึดเอาเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน ซึ่งเป็นแผ่นดิน

หลักสำคัญทางการทหารชายฝั่งตะวันออกอีกด้วยในจันทบุรีคนส่วนใหญ่เป็นไทย

ซึ่งสำคัญต่อประเทศมากกว่าเลยต้องยอมเสียเสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงเพื่อ

แลกกับจันทบุรี

- มลฑลบูรพา (พระตะบอง,เสียมราฐ,ศรีโสภณ) : ฝรั่งเศสก็ถอนตัวออกจาก

จันทบุรีแต่ได้เข้าไปทำการยึดเมืองตราด และเกาะต่างๆ รวมถึงเกาะกง (เมือง

ประจันตคีรีเขตต์) เกาะกูดแทนโดยอ้างว่าเพื่อเป็นหลักประกันว่าสยามจะปฏิบัติ

ตามอนุสัญญาใหม่โดยเคร่งครัดตราดเป็นยุทธศาสตร์สำคัญทางทะเลไม่ต่าง

จากจันทบุรีเลยโดยต้องยอมเสียดินแดน มณฑลบูรพาไปแลกกับตราดและ

เกาะแก่งต่างๆที่โดนยึดไปคืนและเจรจาให้ศาลไทยมีอำนาจชำระคดีความคน

ในบังคับฝรั่งเศสได้ ฝรั่งเศสยอมตามที่ขอแต่ก็ไม่ยอม คืนเกาะกงให้แก่ไทย

จนในที่สุดเกาะกงก็ต้องตกเป็นอยู่กับกัมพูชาในปัจจุบัน


4. เวียดนาม หรือ ญวณ 

- บันทายมาศ หรือพุทไธมาศ : หลังจากที่รัชกาลที่ 1 สวรรคตเนื่องจากทางสยาม

นั้นกำลังผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน ทางญวณเลยไม่มีความเกรงใจเหมือรัชกาลก่อน

สยามก็ยังทำสงครามกับพม่าแถวภาคใต้ จึงเป็นเหตุให้ญวณเข้ายึดครอง

บันทายมาศ ตอนนั้นทางสยามยังไม่มีกำลังพอจะไปเอาคืนเพราะติดศึก

อยู่จึงปล่อยไปก่อนต่อมาญวนเข้าตีเขมรซึ่งเป็นประเทศราชของสยามทำให้

ต้องรบกันอยู่นับ 10 ปี จนต่างฝ่ายต่างอ่อนกำลังลง จนต้องทำสัญญาสงบศึกกัน

ทางสยามยังมีสิทธิบนดินแดนเขมรอยู่แต่ก็ไม่สามารถเอาบันทายมาศคืนมาได้

ปัจจุบัน บันทายมาศ เป็นส่วนนึงของจังหวัด กัมปอต ของกัมพูชา







ไทยเสียดินแดนให้ชาติใดบ้าง : 1






ไทยเสียดินแดน



เป็นที่ทราบกันดีว่า อาณาจักรสยามในอดีตหรือประเทศไทยในปัจจุบันเคยมีพื้นที่ๆ

อยู่ใต้อำนาจของตนกว่า 1 ล้านตารางกิดลเมตร เป็นชาติที่ไม่เคยเป็นเมืองชาติ

ตะวันตกในยุคที่มีการล่าอาณานิคมกันกว้างขวางไปทั่วโลกแต่ไทยเราเองนั้นก็ได้

รับผลกระทบไปไม่น้อยจากการที่ต้องเสียดินแดน นครรัฐต่างๆไปเผื่อแลกกับ

อิสระภาพในแผ่นดินหลักเอาไว้ บทความนี้จะมารวมการเสียดินแดนของไทย

ว่าไทยเสียดินแดนให้ชาติใดบ้าง เสียไปอย่างไร (แบบคร่าวๆสั้นๆพอเข้าใจ) 

บางดินแดนที่เสียไปนั้นเป็นการเสียไปในหลายช่วงหลายยุคหลายตอน แต่เกิดขึ้น

ในสมัยรัตนโกสินทร์ทั้งสิ้น


ไทยเสียดินแดนเหล่านั้นไปมากกว่า ดินแดนที่มีอยู่ในขณะนี้เสียด้วยซ้ำ

(ปัจจุบันไทยมีเนื้อที่ราวๆ 513,120 ตร.กม.) แต่พื้นที่ที่เสียไปนั้นมากกว่า

600,000 ตร.กม.


มาดูกันครับว่าไทยเราหรือสยามในอดีตเสียพื้นที่ให้ชาติใดอย่างไรกันบ้าง


1. อังกฤษ :

- เกาะหมาก (รัฐปีนัง) : อังกฤษต้องการเพื่อเป็นอำนาจทางการค้า + เจ้าเมือง

ไทรบุรีพระยาไทรบุรีผู้ปกครองเกาะจึงดึงอังกฤษเข้ามาเป็นผู้เช่าเกาะเพื่อบีบไทย

ทำให้ไทยต้องยอมถอยออกมา

-  รัฐเปรัค :  อังกฤษกำลังสร้างอำนาจทางแหลมมลายู อังกฤษใช้ข้ออ้างในการ

ทำการค้ากับเปรัคเข้ามาปกครองเสียเอง

- ดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำสาละวิน (5 เมืองเงี้ยว และ13 เมืองกะเหรี่ยง)  : มีทรัพยากร

ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ และทางล้านนาเข้าไปมีอิทธิพลไม่ถึงอังกฤษจึงอ้างสิทธิเหนือ

ดินแดนเหล่านี้ว่าเป็นของพม่าที่เป็นอาณานิคมของอังกฤษแล้วยึดเอาไป

- หัวเมืองมลายู (รัฐกลันตัน ตรังกานู ปะลิส และไทรบุรี) :  เป็นการแลกเปลี่ยนกัน

ระหว่างสยามกับอังกฤษ แลกกับอำนาจศาลไทยที่จะบังคับคดีความผิดของคน

อังกฤษในดินแดนไทยซึ่งแต่ก่อนไม่สามารถทำได้ เพื่อขอกู้เงิน มาสร้างทางรถไฟ

สายใต้จากเพชรบุรีลงไปจนถึงชายแดนมลายู ปลดหนี้สินที่ทางสยามมีอยู่กับ

จักรวรรดิอังกฤษเพราะทางหัวเมืองมลายูจะเป็นคนชดใช้แทนและดินแดนเหล่านั้น

ปกครองยาก จะเสียไปในไม่ช้าสู่ยกให้อังกฤษเพื่อเอามาแลกผลประโยชน์และ

สิทธิในศาลจะดีกว่า

คุ้มหลวงเชียงตุง ของเจ้าก้อนแก้วอินแถลง

2. พม่า :

- สิบสองปันนา  : เกิดการก่อกบฎแย่งราชสมบัติกันในเมืองเชียงรุ้ง 2 ฝั่งจึงเข้าไป

พึ่งจีนและพม่ามาถ่วงกันจนในที่สุดพม่าสามารถครองไปได้ไทยพยายามตีคืน

แต่ไม่สำเร็จต่อมาภายหลังจึงได้ตกเป็นของจีนจนถึงปัจจุบัน (แต่ไทยเสียให้

พม่าไปก่อนแล้ว)

- แสนหวี เมืองพง เชียงตุง : เป็นพื้นที่รับผิดชอบของล้านนาแต่สยามเองติดศึก

หลายด้านที่ต้องเฝ้าระวังและ เชียงตุงก็อยู่ห่างไกลพม่าได้โอกาศเหมาะเข้ารวม

เอาไว้ จึงเสียแก่พม่าไปและตกเป็นของอังกฤษเมื่อพม่าแพ้สงครามกับจักรวรรดิ

อังกฤษ

- มะริด ทวาย ตะนาวศรี  : ได้แผ่นดินไม่ได้ใจคนเพราะผู้คนรวมถึงกรมการเมือง

ต่างๆยังฝักใฝ่กับพม่าพม่าบุกโจมตีทวายโดยมีไส้ศึกภายในทำให้สยามพ่ายแพ้

ไปและต่อมาก็ไม่มีกำลังจะเอาคืนกลับมาได้อีก (ดินแดนนี้น่าเสียดายมากเพราะ

เป็นเมืองท่าที่สำคัญในปัจจุบัน)

ลิ้งที่เกี่ยวข้อง

 >>> ไทยเสียดินแดนให้ชาติใดบ้าง : 2

อ่านต่อหน้า 2ได้เลยครับจะเป็นเกี่ยวกับฝรั่งเศสและ ญวน (เวียดนาม) 







10 รูปแบบประเทศอาณานิคมต้องเจอ





ประเทศที่ตกเป็นอาณานิคมต้องเจอ


           ประเทศที่ตกเป็นอาณานิคมแก่บรรดาจักรวรรดิใหญ่ๆและมีอำนาจของยุโรป

นั้นจะเจอปัญหาอะไรบ้างในการอาศัยและการเข้ามารุกรานครอบครองของเจ้าอาณา

นิคมเหล่านั้น วันนี้เราจะดูปัญหาซัก 10 ข้อที่ต้องประสบปัญหาสำหรับประเทศที่ตกเป็น

อาณานิคมมาให้ดูกันว่าจะโดนอะไรกันบ้าง




1.ปล้น : เข้ามาเพื่อปล้นและเผาทิ้งเอาทรัพสินของมีค่ากลับไปให้ประเทศแม่ของ

ตัวเองมีให้เห็นทั้งในแถบเอเชียและอเมริกาเหนือ - ใต้


2.ละเมิด : ไม่มีความเป็นธรรมต่อคนในท้องถิ่นทำอะไรตามใจชอบไม่เคารพต่อความ

เป็นคนของคนท้องถิ่นที่พวกเจ้าอาณานิคมเห็นว่าพวกนั้นเป็นพวกที่ไม่เจริญเหมือน

พวกตน


3.ขูดรีด : ปล้นไม่พอไม่หนำใจบางพื้นที่ก็ขูดรีดเอากับผู้ครองนครคนเก่ากับ

ประชาชนเพื่อความต้องการของตนซึ่งเป็นปผู้ครอบครองใหม่ไม่ว่าจะเป็นการ

เก็บภาษีการรีดไถ กลั่นแกล้งเรื่องการทำงานต่างๆ


4.ผลประโยชน์และทรัพยากร : ประเทศพวกนี้เข้ามาเพื่อผลประโยชน์ที่จะนำกลับ

ไปให้จักรวรรดิตัวเองเป็นหลัก เช่น ทองคำ มุก ป่าไม้ และอีกเยอะแยะเพื่อเอาไปใช้

ทำสงครามรุกรานประเทศอื่นหรือเอาไว้ต่อรบกับจักรวรรดิใหญ่อื่นๆที่ไหนมีเยอะก็

โดนเยอะสูบจนตัวลีบเลยทีเดียว


5.ศาสนา : บังคับและพยายามเผยแผร่ศาสนาที่ตนเองนับถือให้คนในท้องถิ่นเปลี่ยน

ตามบ้างก็ค่อยๆให้ใช้ชีวิตตามแบบคนท้องถิ่นค่อยๆเปลี่ยนบ้างก็หักดิบบีบบังคับผู้คน

รื้อศาสนสถานเก่าๆทิ้งสร้างโบสถ์หรือมัสยิด ขึ้นเพื่อให้คนท้องถิ่นเดิมเปลี่ยนมา

นับถือตามตน (นับเป็นปัญหาหลังจากได้รับเอกราช ที่จะมีความแตกแยกกัน)


6.กำลังพล : ชายฉกรรณ์ผู้ที่กำลังอาจจะโดนเกณฑ์เข้าไปเป็นกองกำลังทหารใน

การรุกรานดินแดนอื่นๆต่อไปคือเอาไปไว้เป็นกองหน้าให้ตายก่อนคนของตัวเอง


7.ทำลายล้าง : ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยทำนอกจากจะปกครองไม่ได้ หรือมีสัญลักษณ์

อะไรซักอย่างที่ทำให้การปกครองของผู้มาใหม่นั้นไม่มั่นคงก็ทำลายมันทิ้งเสีย

น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่น่าจะอยู่ได้ต่อมาเพื่อเป็นโบราณสถานสำคัญเป็นมรดกโลก

บางครั้งการหาข้ออ้างในการล่าอาณานิคม ร้อยแปดพันข้ออาจจะมาจากการต้องการ

สมบัติของประเทศนั้นๆ ยิ่งของเก่าของดบราณยิ่งมีค่า อย่างในอินเดียและเขมร หรือ

แถบ ทวีปอเมริกาเหนือ ชาวแอซแทค


8.ทาส : แน่นอนทาสใช้งานได้ขายได้ นำกลับไปใช้งานในจักรวรรดิตัวเองได้นำไป

ใช้อะไรก็ได้ซ้ำยังสามารถขายต่อได้อีกชาวบ้านนั้นแหละที่รับผลกรรมต้องตกเป็น

ทาสเป็นนางบำเรอของผู้มารุกราน


9.เอาเปรียบ : ด้านการค้าการเก็บภาษีการค้าที่ไม่เป็นธรรม ขนาดสยามเองไม่ได้

เป็นเมืองขึ้นยังโดนสัญญาเอาเปรียบเรื่องการค้าขายเลย นับประสาอะไรกับ

ประเทศที่ต้องตกเป็นเมืองขึ้นที่คงจะโดนกินไปเต็มๆไม่สามารถมีรายได้ทาง

การค้าได้เลยเข้ากระเป๋าผู้รุกรานแทบหมด


10.ภาษา : อาจจะเป็นทั้งข้อเสียและข้อดีของเรื่องนี้เพราะข้อดีคือมีภาษาที่ใช้ได้

อย่างแพร่หลายในหลายประเทศ (ภาษาอังกฤษเป็นสากล)หรือภาษาสเปน โปรตุเกส

ฝรั่งเศส แต่ข้อเสียคือเรื่องศักศรีดิ์ที่ต้องใช้ภาษาของผู้อื่นจนบางประเทศลืมเลือน

ภาษาเดิมของตัวใช้ภาษาของเจ้าอาณานิคมจนเป็นภาษาประจำชาติไปหมดแล้ว




ข้ออ้างในการล่าอาณานิคม 2





ข้ออ้างในการล่าอาณานิคม 2


5.ท้องถิ่นต้องการไปอยู่ : เช่น กษัตริย์เขมรสมเด็จพระหริรักษ์รามสุริยะมหาอิศ-

วรอดิภาพแอบส่งสารลับไปยังฝรั่งเศส โดยขอให้ฝรั่งเศสนั้นช่วยกู้ดินแดนและมา

ช่วยคุ้มครองเขมรให้พ้นจากทั้งอำนาจของสยามและญวน (เข้าทางฝรั่งเศสสิครับ)

แต่หลังจากนั้นพระองคค์ก็สวรรคตไปเรื่องนี้เลยตกไปแต่สุดท้ายฝรั่งเศสก็เข้ามามี

บทบาทในดินแดนแถบอินโดจีนมากขึ้นแล้วก็บีบให้กษัตริย์เขมรยอมจำนนแก่

ฝรั่งเศสได้เป็นผลสำเร็จผลทุดท้ายทำให้ไทยเสียดินแดนครั้งที่ 7 เขมรส่วนนอก 

ไปให้แก่ฝรั่งเศส


6.เกิดเหตุการณ์ (ฆ่าคนของเขา - ปราบกบฏ) : เรื่องที่ฝรั่งเศสเข้ามาปิดปาก

แม่น้ำเจ้าพระยาจนโดนสยามต่อต้านอย่างหนักเสียลูกเรือและ เรือเสียหายไปบาง

ส่วนเขาจึงต้องการสินสงครามเป็นที่มาของการยึดจันทบุรีและตราดไว้ ส่วนปราบ

กบฏตอนที่ ฮ่อ เข้าไปละรานดินแดนสิบสองจุไท ฝรั่งเศสก็ทำทีอ้างว่ามาช่วย

ปราบฮ่อทั้งๆที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เข้ามายึดคุมเมืองเอาไว้จนสุดท้ายต้องเจรจา

กันถึงที่สุดสยามก็จำต้องเสียให้ฝรั่งเศสไปอยู่ดี ปัจจุบันอยู่ในเขตเดียนเบียนฟู

ของเวียดนาม

เรือลูแตง หนึ่งในเรือฝรั่งเศสที่เข้ามาปิดปากแม่น้ำเจ้าพระยา

7.หลักประกัน : เช่นในวิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 ที่ไทยต้องจ่ายค่าเสียหายให้ฝรั่งเศส

หลังจากการสู้รบกันแล้วไทยต้องยอมแพ้เพราะฝรั่งเศสเอาเรือปืนมาจ่อที่พระบรมมหา

ราชวัง หลังจากนั้นเพื่อไม่ให้สยามหรือไทยเบี้ยวค่าเสียหายฝรั่งเศสเลยยึดจันทบุรีไว้

อ้างว่าเพื่อให้สยามปฎิบัติตามข้อตกลงในสัญญาและยึดตราดไว้แล้วอ้างว่าเพื่อเป็น

หลักประกันว่าสยามจะปฏิบัติตามอนุสัญญาใหม่โดยเคร่งครัด (โดนตลอดครับ)


<<< ย้อนกลับ หน้า1     

ข้ออ้างในการล่าอาณานิคม  ข้ออ้างต่างๆในการล่าอาณานิคมของชาติ ตะวันตกนั้น

ส่วนใหญ่มีอะไรกันบ้าง





ปัญหาต่างๆหลังจากได้รับเอกราช





ปัญหาต่างๆหลังจากได้รับเอกราช


สรุปรวม ปัญหาต่างๆที่ฝรั่งเศสและอังกฤษทิ้งไว้ให้ผู้คนในดินแดนแถบนั้นคือ


1.ฝรั่งเศสเรื่องทิ้งปัญหาเรื่องเขตแดน ที่ตัวเองขีดมั่วๆวางอาณาเขตอาณานิคม

ของตัวเองพอฝรั่งเศสได้ดินแดนแถบนั้นไปหมดก็ขีดเส้นแบ่งส่วนเอาตามใจชอบ

พอปลดปล่อยอาณานิคมก็ปรากฎว่าเป็นดังแผนที่ปัจจุบัน ซึ่งเขมรพยายามโวย

มาตลอดว่ามีดินแดนของเขมรที่ติดไปกับทั้งลาวและเวียดนามจนต่อมาประเทศ

เหล่านั้นได้เอกราชก็มาเถียงเรื่องดินแดนกันต่อเช่นลาวกับเวียดนาม ลาวเขมร

เขมรเวียดนาม  เขมรไทย ซึ่งดูจะรุนแรงที่สุดเพราะ 3 ราย คือเวียด เขมร ลาว

 เขาอยู่ในเครือเดียวกันระบบการปกครองแนวเดียวกัน ผ่านสงครามมาด้วยกัน

เกาะกลุ่มฝั่งเดียวกันมาเหนียวแน่น ซึ่งต่างจากไทยที่ไม่ได้ไปสุงสิงหรือเป็นพวก

เขาแต่แรก


2.อังกฤษ เรื่องเชื้อชาติ แบ่งฐานวัฒนธรรมเช่น ชาวโรฮิงยาที่อยู่ในพม่าที่

อังกฤษนำบรรพบุรุษพวกเขาเข้ามาใช้แรงงานในเขตพม่าและยังคงอยู่ในที่นั้น

จนมีเหตุวิวาทบ่อยครั้ง หรือเรื่องการรวมตัวกันของชนเผ่า รัฐต่างๆ ชนกลุ่มน้อย

ที่ยังมีปัญหาในพม่า การสร้างเกราะด้วยการให้แต่ละเขตพื้นที่มีอำนาจพอๆกัน

ทำให้การรวบรวมประเทศในช่วงแรกของการได้เอกราชยุ่งยากมากหนำซ้ำบาง

ประเทศในขณะนี้ยังไม่สงบดีเลยด้วยซ้ำไปยังพยายามแบ่งแยกพวกพ้องของตน

อยู่ตลอดเพราะพื้นเพไม่ใช่คนพวกเดียวกันหรือไม่ถูกกันอยู่ก่อนที่อังกฤษจะเข้า

มาแล้วผลกระทบคือ ความแตกต่างทาง ศาสนา , เชื้อชาติ และ การอพยพ

(การนำพาแรงงานต่างที่เข้ามาอาศัยมากเกินไปในสมัยก่อน) ซึ่งเป็นความขัดแย้ง

ที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก




ข้ออ้างในการล่าอาณานิคม 1





ล่าอาณานิคม


         วันนี้เรามาดูกันว่าข้ออ้างต่างๆในการล่าอาณานิคมของชาติ ตะวันตกนั้น

ส่วนใหญ่มีอะไรกันบ้าง เอาใกล้ๆตัวก็ ฝรั่งเศสและอังกฤษที่เข้ามาล่าอาณานิคม

แถบนี้แล้วกันครับเอาไว้เผื่อจะได้เป็นความรู้รอบตัว เรื่องประวัติศาสตร์ต่างๆ



1.ผู้คนในแถบนั้นจึงมักจะก่อเรื่อง : หาเหตุให้ตัวเองเข้ามาขอควบคุมดูแล

ความปลอดภัยคนของตัวเองและสินค้าของตนแล้วจึงค่อยๆ แผ่ขยายอำนาจ กดดัน

เจ้าเมืองหรือลิดรอนอำนาจการปกครองของผู้ปกครองเดิมไปทีละนิดจนสุดท้าย

ต้องยอมปล่อยให้ไป


2.เคยเป็นของอาณานิคมเขามาก่อน : เช่นดินแดนเขมรที่ไทยปกครองอยู่

ฝรั่งเศสอ้างว่าญวณเคยปกครองมาก่อนดังนั้นก็ต้องตกเป็นของฝรั่งเศสด้วย

เอาละสิครับ เสียดินแดนอย่างแน่นอน สู้ฝรั่งเศสไม่ได้ T_T

พิธีมอบตราดให้ฝรั่งเศส 

3.ทำผิดสัญญา : จะเป็นเรื่องสิทธิของคนอังกฤษและฝรั่งเศสในไทย หรือการที่

เขาเสนอข้อสัญญามาแล้วเราไม่สามารถปฏิบัติได้เขาก็ยึดเมืองนั่นเมืองนี่หาข้อมา

กล่าวหาไปได้เลยหรือบางทีเขาเองแหละที่ผิดสัญญาอย่างเช่น สัญญาว่าจะคืน

เกาะกง(เมืองประจันตคีรีเขตต์)ในครั้งการเสียดินแดนมณฑลบูรพา ก็ไม่ทำจนใน

ที่สุดปัจจุบันเกาะกงก็ตกเป็นของกัมพูชาไป


4.การค้าเปิดเสรี : บางครั้งก็ปิดอ่าวรอบุกแบบที่ญี่ปุ่นเคยโดนสมัยเอโดะของ

โชกุนตระกูลโตกุกาวะ นั่นคือในระบอบโชกุนของญี่ปุ่น ของไทยก็เช่นเดียวกัน

เป็นการบีบบังคับให้ทำการค้าเปิดเสรีให้ต่างชาติเข้ามาค้าขายและการเก็บภาษีที่

ทำได้น้อยลง เพราะฝั่งอังกฤษบอกว่าถ้าไม่ทำตามจะส่งเรือรบเข้ามาปิดปากน้ำ

ของไทยเอาเรือปืนเข้ามาบุกขยี้สยามเหมือนที่เคยบุกเข้าไปขยี้พม่ามาแล้วมีการ

ปรับเปลี่ยนกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศโดยเป็นทางสยามที่เสียเปรียบต่อ

อังกฤษและสิทธิสภาพของคนในปกครองของอังกฤษที่ไม่ต้องถูกดำเนินคดีโดย

ศาลไทย

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เรื่อง >> สนธิสัญญาเบาว์ริง


 >>> อ่านต่อหน้า 2

ข้ออ้างในการล่าอาณานิคม ของแต่ละประเทศบางอันก็ไม่สมเหตุสมผลหรอก

ครับ แค่จะเอาเท่านั้นเอง




ไทยเสียดินแดน





การเสียดินแดนของไทย


     รวมการเสียดินแดนของไทยเอาไว้ ทั้งการเสียไปจากการสู้รบแย่งชิง การเสีย

ไปจากการโดนข่มขู่จากการล่าอาณานิคมที่ชาติตะวันตกเข้ามารุนรานพื้นที่ทั่ว

โลกรวมถึงแถบนี้ และการเสียดินแดนเพื่อแลกกับเรื่องราวสิทธิต่างๆการพัฒนา

ต่างๆของไทยเอง 


1.เกาะหมาก (รัฐปีนัง) : เสียให้กับจักรวรรดิอังกฤษในวันที่ 11 สิงหาคม 2329 


คิดเป็นพื้นที่รวม 375 ตร.กม. ในสมัยรัชกาลที่ 1 อ่านต่อ >> เกาะหมาก (รัฐปีนัง)


2. มะริด ทวาย ตะนาวศรี : เมืองท่าที่สำคัญไปในรัชกาลที่ 1 เป็นการเสียให้

แก่พม่าคิดเป็นพื้นที่ ราวๆ 55,000 ตร.กม.  พ.ศ.2336

อ่านต่อ >> มะริด ทวาย ตะนาวศรี


3.เสียบันทายมาศ หรือพุทไธมาศ : ใน พ.ศ.2353 ให้ญวณในรัชกาลที่ 2 และ

ได้ตกเป็นของฝรั่งเศส สุดท้ายในปัจจุบัน พื้นที่ตรงนั้นเป็นส่วนนึงของจังหวัด

กัมปอต ของกัมพูชา อ่านต่อ >> เสียบันทายมาศ


4. แสนหวี เมืองพง เชียงตุง : เสียให้กับพม่าในปีพ.ศ. 2368 ในรัชกาลที่ 3 พื้นที่

62,000 ตร.กม.เมื่่ออังกฤษได้ให้เอกราชแก่พม่าแล้วนั้น ดินแดนทั้ง 3 นี้ก็ตกไปเป็น

ของพม่าโดยสิ้นเชิง อ่านต่อ >> แสนหวี เมืองพง เชียงตุง


5. รัฐเปรัค : เสียให้กับอังกฤษเมื่อ พ.ศ. 2369  ในสมัยรัชกาลที่ 3  ทางเปรัคเองก็

มีท่าทีหันไปพึ่งอังกฤษตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2367 อังกฤษกำลังสร้างอำนาจทาง

แหลมมลายู อ่านต่อ >> รัฐเปรัค


6. สิบสองปันนา : ประมาณ 90,000 ตร.กม. ช่วงรัชกาลที่ 4 ตั้งอยู่ทางใต้สุดของ

มณฑลยูนนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน 1 พฤษภาคม 2393

อ่านต่อ >> สิบสองปันนา


7. เขมรส่วนนอกและเกาะ 6 เกาะ : ในรัชกาลที่ 4 พื้นที่มากถึง 124,000

ตร.กม. วันที่ 15 กรกฎาคม 2410 ให้ฝรั่งเศส อ่านต่อ >> เขมรส่วนนอก


8.การปราบฮ่อ และการเสีย สิบสองจุไท (หัวพันห้าทั้งหก) : พื้นที่ประมาณ

87,000 ตร.กม. เสียให้แก่ฝรั่งเศส ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอม

เกล้าเจ้าอยู่หัว อ่านต่อ >> สิบสองจุไท


9. ดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำสาละวิน (5 เมืองเงี้ยว และ13 เมืองกะเหรี่ยง) :

เสียให้แก่อังกฤษ ในรัชกาลที่ 5 พื้นที่ 30,000 ตร.กม. ในวันที่ 27 ตุลาคม

พ.ศ. 2435 อ่านต่อ >> ฝั่งซ้ายแม่น้ำสาละวิน



10. เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (อาณาจักรล้านช้าง หรือประเทศลาว) :

เป็นการเสียดินแดนครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 5 พื้นที่รวมทั้งสิ้นประมาณ  143,000

ตร.กม. ให้แก่ฝรั่งเศสในวันที่  3 ตุลาคม 2436  อ่านต่อ >>  ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง


11. เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง  : ในช่วงรัชกาลที่ 5 พื้นที่รวม  25,500 ตร.กม.

เสียให้แก่ฝรั่งเศส เพื่อเอาไปแลกเอาจันทบุรีคืนจากฝรั่งเศส

อ่านต่อ >>  ฝั่งขวาแม่น้ำโขง


12. มลฑลบูรพา (พระตะบอง,เสียมราฐ,ศรีโสภณ) ให้แก่ฝรั่งเศส ในรัชกาลที่ 5

พื้นที่ 51,000 ตร.กม.เพื่อแลกกับดินแดนไทยที่ ฝรั่งเศสยึดไป อย่างตราด เกาะกง

และด่านซ้ายและอำนาจศาลไทยที่จะบังคับต่อคนในบังคับของฝรั่งเศสในประเทศ

ไทย  อ่านต่อ >>  มลฑลบูรพา


13. หัวเมืองมลายู (รัฐกลันตัน ตรังกานู ปะลิส และไทรบุรี)  :  ในรัชกาลที่ 5

พื้นที่ 80,000 ตร.กม. ในปี 2451 เป็นการแลกเปลี่ยนกันระหว่างสยามกับอังกฤษ

อ่านต่อ >> หัวเมืองมลายู


14. เขาพระวิหาร   ( ยังไม่มีบทความ  )